เผยเคล็ดลับการดื่มน้ำบำบัดโรค แค่ดื่มน้ำแบบนี้...ก็ช่วยให้ห่างไกลโรคร้ายต่างๆได้
...การดื่มน้ำมากๆจะทำให้อายุยืนได้ ยิ่งถ้าพบว่าผิวหนังแห้ง ไม่ชุ่มชื้น ตาแห้ง มีกลิ่นปาก ท้องผูก เป็นริดสีดวงทวาร นั่นแสดงว่าร่างกายของคุณกำลังขาดน้ำอย่าง ยิ่ง...
..."การดื่มน้ำอุ่นเป็นเรื่องที่หลายคนรู้สึกไม่รื่นรมย์นักที่จะดื่ม เพราะรู้สึกไม่สดชื่นเหมือนไม่ได้ดื่มน้ำ คนเราเวลาเหนื่อยขึ้นมา ทำงานหนักมา พอได้ดื่มน้ำเย็นแล้วจะ รู้สึกสดชื่นมากกว่า ก็เลยไม่อยากที่จะดื่มน้ำอุ่นกัน"...
น้ำที่เราดื่มเข้าไปตอนเช้า ตามสูตรจะมีผลต่อระบบทางเดินอาหารโดยตรง โดยจะเข้าไปชำระล้างสิ่งสกปรกต่างๆ ที่มีอยู่ในร่างกายออกมา... และต้องบอกว่าการดื่ม น้ำอุ่นที่จริงแล้วคือการล้างพิษ โรคเกาต์ โรคความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง...
ดื่มน้ำตอนไหนเวิร์คที่สุด
การดื่มน้ำนอกจากทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสแล้วยังทำให้ระบบต่างๆภายในร่างกายทำงานได้ดีอีกด้วย
-ใน 1 วันควรดื่มน้ำเท่าไร
ในทุกๆวัน ร่างกายจะต้องสูญเสียน้ำผ่านทางการหายใจและการขับถ่ายจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่จะต้องรับน้ำเข้าไปเพื่อทดแทนส่วนที่เสียไป และโดยปกติเราจะเสีย น้ำจากการปัสสาวะเฉลี่ยวันละประมาณ 1.5ลิตรและอีกเกือบถึง 1 ลิตร สำหรับการหายใจและเหงื่อ ซึ่งถ้าคุณดื่มน้ำได้วันละ 2ลิตร(ประมาณ 8 แก้ว)ก็จะช่วยทดแทน การสูญเสียน้ำในส่วนนี้ไป แต่สำหรับปริมาณน้ำที่ควรดื่มให้ได้ภายใน 1 วัน
เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองแล้ว ถ้าเป็นหนุ่มๆควรดื่มให้ได้วันละ 3 ลิตร(ประมาณ 13 แก้ว)
ส่วนสาวๆวันละ 2.2 ลิตร(ประมาณ 9 แก้ว) สำหรับสาวๆสปอร์ตเกิร์ล จะต้องดื่มน้ำในปริมาณที่เยอะกว่าคนปกติ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของกิจกรรมที่ทำด้วย ถ้าคุณ ออกกำลังกายในช่วงสั้นๆ ก็ควรจะดื่มน้ำเพิ่มเข้าไปครั้งละ 1-2 แก้ว หลังจากออกกำลังกายแล้ว แต่ถ้าเป็นช่วงยาวๆ ก็เพิ่มขึ้น อีกสัก 2-3 แก้ว น่าจะเพียงพอแล้ว
ตื่นนอนตอนเช้า 1 แก้ว(400ซี.ซี.) เพราะเป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของเลือดสูง เลือดจะมีลักษณะขาดน้ำ
ตอนสายๆ 2 แก้ว (เวลาประมาณ 9โมงเช้า) ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีของเสียเกิดขึ้น เพราะร่างกายได้ทำงานไประยะหนึ่งแล้ว ฉะนั้น จึงควรดื่มน้ำเพื่อมาชำระของเสียเหล่า นั้นออกไป
ตอนบ่ายๆ 3 แก้ว (เวลาประมาณ 1ทุ่ม-2ทุ่ม)
ก่อนนอนให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร และยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นด้วยแล้วจะยิ่งช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น ความสำคัญของน้ำต่อระบบการทำงานของร่างกาย
"น้ำ" ถือเป็นสารอาหารอย่างหนึ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้รองจากออกซิเจนที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เพราะน้ำเป็นส่วนสำคัญในการทำปฏิกิริยาต่างๆที่เกิดขึ้นในร่างกาย ดังนั้นในแต่ละวันควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยเฉลี่ยควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1 ลิตรครึ่ง ถึง 2 ลิตรต่อวัน
น้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายทุกระบบ โดยเฉพาะ การทำงานที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ตั้งแต่ก่อนที่เราบริโภค เมื่อเข้าสู่ร่างกายจนถึงระบบการขับถ่ายออกจากร่างกาย นอก จากนี้ น้ำยังเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาท โดยระบบประสาทจะมีทางให้ของเหลวที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบไหลผ่านได้สะดวก เพื่อที่จะเชื่อมโยงเครือข่าย เข้าถึงทุกเซลล์ได้
การดื่มน้ำที่บริสุทธิ์จะเป็สิ่งที่ดีต่อสุขภาพและชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ได้ดี การย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหารที่ย่อยแล้วต้องอาศัยน้ำ ร่างกายจะรับคุณค่าจากอาหารและสิ่งที่เราบริโภคได้จำเป็นต้องดื่มน้ำ น้ำยังมีความสำคัญต่อระบบการจ่ายพลังงานของร่างกาย และการขาดน้ำเพียงเล็กน้อยทำให้ เกิดความบกพร่องในระบบดังกล่าวได้ ดังนั้นการดื่มน้ำให้เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยในแต่ละวันร่างกายของคนเราจะเสียน้ำไปประมาณ 3.4 ลิตร ทั้งทางปัสสาวะและเหงื่อ ถ้าดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็มีโอกาสขาดน้ำได้
การดื่มน้ำเมื่อท้องว่าง
การดื่มน้ำเมื่อท้องว่างผ่านกระเพาะอาหาร เพื่อรักษาสุขภาพที่ดี ในประเทศญี่ปุ่นทุกวันนี้ เป็นที่นิยมดื่มน้ำทันที หลังจากตื่นนอนตอนเช้า(ก่อนแปรงฟัน)เพื่อการรักษา สุขภาพที่ดี มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ พบว่าน้ำสามารถใช้ชะลอความแก่ได้ และสามารถรักษาโรคเหล่านี้ได้ผล 100% (แบบค่อยเป็นค่อยไป ต้องใช้ระยะเวลา) ปวดหัว อวดตามตัว โรคระบบหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ โรคลมบ้าหมู โรคอ้วน โรคหลอดลมอักเสบ โรคหอบหืด วัณโรค อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไขสันหลังอักเสบ โรคไตและยูริก โรคกระเพาะ โรคท้องร่วง โรคริดสีดวงทวาร โรคเบาหวาน โรคอาการท้องผูก โรคตา โรคภายในสตรี โรคมะเร็ง
วิธีปฏิบัติ
1.ตื่นนอนตอนเช้า ก่อนแปรงฟัน ให้ดื่มน้ำ 4 แก้ว(640ซี.ซี.)
2.หลังจากนั้นสามารถล้างหน้า อาบน้ำได้ แต่ต้องไม่ดื่ม หรือ รับประทานอาหาร จนกว่า45นาทีผ่านไป จึงจะรับประทานตามปกติ
3.หลังรับประทานอาหารเช้า กลางวัน เย็น ไปแล้ว 15นาที ไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอะไร จนกว่า2ชั่วโมงผ่านไป
4.ผู้ป่วยหรือคนชราที่ไม่สามารถดื่มน้ำ 4แก้ว ก็ให้ค่อยๆดื่ม ค่อยเป็นค่อยไปเรื่อยๆจนครบ 4แก้ว
ข้อปฏิบัติ 4 ข้อดังกล่าว จะทำให้ท่านบำบัดรักษาโรคที่เป็นอยู่ค่ออยๆเปาและหายขาดได้ในที่สุด ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นโดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่ อาจปัสสาวะบ่อยขึ้น และหลังดื่มน้ำไปแล้ว ประมาณ1-2ชั่วโมงจะปวดปัสสาวะ