“ปัญญาประดิษฐ์” เปลี่ยนโลก
กาลครั้งหนึ่งเมื่อ 60 ปีล่วงมาแล้ว...กลุ่มนักวิชาการแถวหน้าด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ได้นัดหมายประชุมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้าน Artificial Intelligence (AI) หรือ”ปัญญาประดิษฐ์ “ ขึ้นเป็นครั้งแรกที่วิทยาลัยดาร์ตมัธ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
การนัดหมายประชุมกันตอนนั้นมี จอห์น แมคคาร์ธีย์ ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็น”บิดาแห่งศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์”เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง และมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชั้นนำคือมาร์วิน มินสกี.. อัลเลน นิวเวลล์..อาร์เธอร์ ซามูเอล..เฮอร์เบิร์ต ไซมอน ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ปัญญาประดิษฐ์ระหว่างกัน
จากวันนั้นถึงวันนี้ศาสตร์ว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์ ได้พัฒนารุดหน้าไปอย่างไร้ขีดจำกัด กระทั่งกลายเป็นนวัตกรรมสำคัญที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือ”เปลี่ยนโลก”
องค์ความรู้ว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจอห์น แมคคาร์ธีย์ ได้บุกเบิกการคิดค้นและถูกสะสมไว้ทั้งในแคลิฟอร์เนียอินสติติวออฟเทคโนโลยี (แคลเทค)....มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน...สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสสาจูเส็ท (เอ็มไอที)..และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้ถูกอัจริยะรุ่นต่อมาคือ “อีลอน มัสค์” นำมาพัฒนาต่อยอด เมื่อได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาในมหาวิทยาลัยสแคนฟอร์ด
มัสค์ ได้นำศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์ ที่เก็บเกี่ยวมาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ไปประยุกต์ต่อยอดสร้างธุรกิจประเภท Start Upมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Zip2..X.com..PayPal แล้วยกระดับไปสู่ Space X ซึ่งสร้างจรวด และกระสวยอวกาศ รวมทั้ง “Tesla” ที่สร้างนวัตกรรมเปลี่ยนโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ เขย่าทั้งวงการอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมน้ำมันในขณะนี้
“Tesla”ยานยนต์ประดิษฐ์ จากสติปัญญาของ อีลอน มัสค์ เป็นยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % และมีชิ้นส่วนรวมกันทั้งสิ้นไม่ถึง 20 ชิ้น น้อยกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 100 เท่าตัว
ในโลกภาพยนตร์ ที่เป็นโลกเสมือนจริง หลายคนอาจรู้จักคุ้นเคยกับ “อีธาน” ใน “มิสชั่นอิมพอสสิเบิล” ที่รับบทโดย “ทอม ครูซ” แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง “อีลอน มัสค์” คือมนุษย์อัจฉริยะที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ เปลี่ยนโลกอุตสาหกรรมยานยนต์ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ และน่ากังวลใจยิ่งนัก
ที่มา : thaiquote