พ่อแม่ควรนอนกับทารกอย่างน้อย 6 เดือนแรก เพื่อป้องกัน SIDS
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (24 ต.ค.) สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (AAP) ได้เผยแพร่รายงานใหม่ที่ระบุว่า ทารกควรนอนในห้องเดียวกันกับพ่อแม่ แต่ไม่ควรอยู่บนเตียงเดียวกัน อย่างน้อยในช่วงหกเดือนแรกเกิด เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เกิดอาการทารกตายกะทันหัน (SIDS)
AAP กล่าวว่าผู้ปกครองควรวางทารกให้นอนโดยเอาหลังลงบนเบาะนอนที่แข็ง เช่น เตียงนอนหรือเปลเด็กที่มีแผ่นรองนอนที่หนาแน่น หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าคลุมเตียงที่นุ่มและอ่อนยวบ รวมถึงกันชนเปล ผ้าห่ม หมอนและของเล่นนุ่มๆ
หากจะให้ดีที่สุด พ่อแม่ควรอยู่ในห้องนอนเดียวกันกับทารกจนกว่าเขาจะมีอายุได้ 1 ปี เพราะมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการใช้ห้องพักร่วมกันช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด SIDS ได้มากที่สุดถึงร้อยละ 50
"เรารู้ว่าพ่อแม่อาจจะเห่อกับการมีทารกคนใหม่ในบ้าน และเราต้องการแนะนำพวกเขาอย่างชัดเจนและเรียบง่าย เกี่ยวกับวิธีการและสถานที่ที่จะนำทารกของพวกเขาเข้านอน" ราเชล มูน ผู้เขียนรายงานหลักกล่าว
"พ่อแม่ไม่ควรวางทารกบนโซฟา ม้านั่งยาว หรือเก้าอี้เบาะ รวมถึงไม่ควรปล่อยให้เด็กนอนคนเดียวหรือนอนกับคนอื่น เพราะพวกเราต่างก็รู้ว่าผิวสัมผัสเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายอย่างยิ่ง"
นอกจากนี้ รายงานยังแนะนำว่าการเลี้ยงลูกด้วยนม จะยังช่วยเพิ่มการป้องกันไม่ให้เกิด SIDS และหลังจากให้นมแล้ว พ่อแม่ควรจะนำตัวทารกไปยังที่นอนของเขาที่อยู่ในห้องนอนของพ่อแม่
"ไม่ควรมีหมอน แผ่นรองนอน ผ้าห่ม หรือวัตถุใดๆ ที่อาจขัดขวางการหายใจของทารก หรือก่อให้เกิดความร้อนที่สูงเกินไป"
SIDS เป็นการตายที่เกิดขึ้นอย่างไม่สามารถอธิบายได้ มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทารกนอนหลับ และเกิดในทารกที่มีอายุระหว่าง 1 เดือน - 1 ปี ในแต่ละปี จะมีทารกประมาณ 1,500 คนในสหรัฐอเมริกาที่เสียชีวิต ตามข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา