"สู้แล้วรวยนั้น เป็นกลยุทธ์โบราณที่อังกฤษทำมาแล้วกับพม่า"
... "สู้แล้วรวยนั้น เป็นกลยุทธ์โบราณที่อังกฤษทำมาแล้วกับพม่า"
... ทำไมอังกฤษต้องเอานักบวชมากับเรือปืน ก่อนจะทำสงครามนั้นแต่ละครั้งอังกฤษจะหาเหตุ สร้างเหตุการณ์และข่าวลือมาให้แตกแยกก่อนเสมอ
... และในอีกด้านหนึ่ง ถ้าใคร คนพม่าคนไหนที่มาเข้าเป็นพวกเดียวกับอังกฤษ เป็นคนใต้อาณัติของอังกฤษจะมีสิทธิ์พิเศษ เช่น คนพม่าเชื้อสายแขก, จีน ไทยใหญ่ หรือเผ่าอื่นๆที่ไม่พอใจ คนพม่าก็อยากออกมาจากกฏหมายพม่าอยู่แล้ว เช่นถ้าทำผิดลักขโมย มีเรื่องวิวาทกับคนเชื้อสายพม่าก็ไม่ต้องขึ้นศาลพม่า แต่จะขึ้นศาลอังกฤษที่เข้าข้างคนของเขาเอง ( แบบที่ทหารอเมริกันทำผิดในโอกินาว่า ในญี่ปุ่น ) เพราะได้ "สิทธิสภาพนอกอาณาเขต" จากอาณาจักรพม่ามา ภาษีก็เสียน้อยกว่า หรืออาจจะไม่เสียเลย ... แบบ "สู้แล้วรวย"
... ทำให้คนพม่าโดยเฉพาะคนเชื้อสายอื่นที่แห่มาเข้าเป็นคนใต้อาณัติอังกฤษมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนประเทศพม่ากลายเป็นประเทศที่มีโบสถ์คริสต์ใหญ่และมากที่สุดประเทศหนึ่งในอาเซี่ยน คนพม่าที่อยากเป็นทหารรับใช้อาณาจักรก็น้อยลงเรื่อยๆ เป็นการสร้างความอ่อนแอจากภายใน สมหวังตามแผนอังกฤษในที่สุด
... เหมือนคนไทยที่หมิ่นเจ้าก็แบบเดียวกัน หมิ่นแล้วได้อยู่ดีกินดี อยู่เมืองนอกเมืองนา ได้เงินจาก NED มาใช้ทำเวปไซท์ ได้เงินมาเรียนต่อ ได้อยู่ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ อย่างสบาย ยิ่งรวยสบายก็ยิ่งหมิ่นอย่างได้ใจ สะกดจิตตัวเองว่าหัวก้าวหน้า แต่แท้จริงแล้วเป็นการ "สู้แล้วรวย" แค่นั่นเอง
... เป็นหลักการ "สู้แล้วรวย" โดยเอาอาภรณ์สวยหรูว่าเป็นคนหัวก้าวหน้า มาสวมใส่กลบเกลื่อนความหวังรวยและสบายลึกๆที่ซ่อนเอาไว้ การสู้แล้วรวยแบบโจชัว หว่อง แบบคนเสื้อสีเลือดเทเลือดจึงมีมาตลอดในประวัติศาตร์ และจะมีตลอดไป จนกว่าโลกจะเปื่อยยุ่ยเป็นผุยผงไปกับกาลเวลา
https://www.facebook.com/jeerachart.jongsomchai?fref=nf