7 วิธีมีความสุขกับพุงพลุ้ยของตัวเองทุกวัน
แม้แต่ผู้ที่คิดเชิงบวกเกี่ยวกับรูปร่างของตัวเองก็ยังมองว่าการหลงรักพุงพลุ้ยเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากอยู่เสมอ โชคดีที่ฉันมีแรงบันดาลใจมากมายจากผู้คนเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นนักเขียนบล็อก ผู้ใช้อินสตาแกรม และศิลปินที่เนรมิตผลงานอันน่าทึ่งซึ่งให้กำลังใจฉันทุกวันในการรักรูปร่างและพุงของตัวเอง นี่คือ 7 วิธีที่ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับการรักพุงของตัวเองโดยที่ไม่ต้องสนใจว่าคนทั่วโลกจะพูดว่าอย่างไร
ฉันปฏิเสธการสวมใส่กางเกงในที่ไม่ใช่เอวสูงปรี๊ดมานานแล้วเนื่องจากการมองเห็นแนวโค้งของหน้าท้องใต้กระโปรงนั้นไม่ต่างจากหายนะเลย ฉันจะรีบพุ่งไปที่ห้องน้ำเพื่อจัดระเบียบชุดชั้นในเสียใหม่เพื่อให้ได้รับการยอมรับอีกครั้ง ขณะที่การใส่ชุดบิกินี่หรือกางเกงในทรงฮิปสเตอร์นั้นฝันไปได้เลยเพราะใครๆก็จะเห็นพุงหลามของฉัน! ครั้งแรกที่ฉันสวมกางเกงในเอวต่ำบอกเลยว่าสยองสุดๆ พุงห้อยย้อยออกมาทับกางเกงในเลยทีเดียว! แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกดีมากเมื่อไม่ต้องคอยพะวงว่าจะหาอะไรมาปิดพุง ฉันยอมรับว่าอ้วนและจะสวมใส่กางเกงในแบบไหนก็ได้ที่ทำให้รู้สึกสบาย
2. หายใจเต็มปอด
นานมาแล้วที่ฉันต้องกลั้นหายใจและคอยแขม่วพุงเพื่อให้มีสัดส่วนโค้งเว้าจนกระทั่งฉันได้มีโอกาสฝึกโยคะ ครูฝึกสอนฉันว่าควรหายใจเข้าท้องให้เต็มที่ ช่างแตกต่างอะไรเช่นนี้! ไม่น่าเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงวิธีหายใจจะทำให้ฉันรู้สึกดีทั้งทางร่างกายและจิตใจมากยิ่งขึ้น
3. มอบความรักให้แก่ตัวเองบ้าง
ฉันเคยได้ยินมาว่าควรปรนนิบัติพุงของตัวเองเฉกเช่นเดียวกับอวัยวะส่วนอื่น แต่ฉันไม่เคยมองว่าพุงของตัวเอง “ดูดี” เลยและที่สำคัญฉันไม่อยากให้ใครเห็นร่างกายของฉันไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนก็ตาม แต่ไม่นานหลังจากนั้นฉันก็เริ่มสำรวจพุงของตัวเองและรู้สึกเศร้าใจที่เกลียดร่างกายส่วนนี้ตลอดมาทั้งที่มันก็มีประโยชน์มากมาย ตอนนี้ฉันจึงพยายามที่จะดูแลพุงของตัวเองด้วยการนวดหรือทาโลชั่นบำรุงผิวกาย
4. รอยสักบนเรือนร่างดีไหม?
ฉันหลงใหลการสักลวดลายบนเรือนร่างมานานแล้วแต่ฉันคิดว่ารูปร่างของตัวเองไม่เหมาะสมที่จะโชว์ศิลปะสุดอลังการแบบนั้น อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าชีวิตของคนเรานั้นสั้นเกินกว่าที่จะรอทำในสิ่งที่รัก ดังนั้นจงทำอะไรตามใจตัวเองเถอะ
5. อวดพุงไปเลย
ที่ผ่านมาฉันซ่อนพุงของตัวเองไว้ในชุดกระชับสัดส่วนมาโดยตลอด แต่ทุกวันนี้ฉันเรียนรู้ว่าการใส่ชุดกระโปรงแนบเนื้อ เสื้อครอป และกระโปรงรัดรูปจะช่วยย้ำเตือนว่าการมีพุงใหญ่ๆนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอายหรือต้องซ่อนเลยซึ่งก็ไม่ต่างจากผมสีน้ำตาลหรือผิวขาวซีดของฉันนั่นแหละ
6. เปลี่ยนวิธีการพูด
เมื่อฉันส่องกระจกและเห็นพุงของตัวเองก็จะคิดว่ามันช่าง “ย้วย” และ “น่าขยะแขยง” เหลือเกิน จนกระทั่งฉันพยายามปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับร่างกายของตัวเองจาก “ฉันดูตัวใหญ่โตมหึมา” เป็น “ฉันกินพื้นที่ได้ตามที่ต้องการ” หรือ “ท้องของฉันน่าขยะแขยงและน่าเกลียดสุดๆ” เป็น “พุงของฉันนุ่มน่ากอดจริงๆ” คุณควรภูมิใจกับรูปร่างของตัวเองแทนที่จะวิจารณ์มันว่าน่ารังเกียจ
7. รักพุงกระเพื่อมของตัวเอง
นอกจากรูปร่างและขนาดแล้วฉันยังรู้สึกอายที่พุงของตัวเองทั้งยื่นและกระเพื่อมไปมาด้วย แน่นอนว่าพุงของฉันอยู่ไกลจากคำว่าอุดมคติมาก ทุกครั้งที่ฉันเดินไขมันก็จะกระเพื่อมเป็นระลอกและแม้ว่าจะหยุดเดินไปแล้วมันก็ยังกระเพื่อมอยู่อย่างนั้น แต่ตอนนี้ฉันคิดว่ามันเป็นธรรมชาติของการเคลื่อนไหว ดังนั้นฉันจึงยอมยกธงขาวให้กับความพยายามและความสมบูรณ์แบบพร้อมกับหันมายอมรับในรูปร่างของตัวเอง
Blogger : Mariah Carrillo
Source : bustle.com