โซรอสจัดหนักปูติน“ก่ออาชญากรรมชั่วร้ายต่อมนุษยชาติ”-รัสเซียเตือนสหรัฐหากส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดในซีเรียโดนแน่
จอร์จ โซรอส อัครมหาเศรษฐีนักลงทุนกองทุนรวม
จอร์จ โซรอสออกมาฟ้องโลกระบุปูตินก่ออาชญากรรมชั่วร้ายต่อมนุษยชาติในซีเรีย เผยแก้เกี้ยวหลัง“กองทุนสังคมเปิด”ถูกขับออกจากรัสเซีย กลาโหมรัสเซียเตือนสหรัฐหากส่งเครื่องบินถล่มในซีเรียจะได้รับผลลัพธ์แน่
สำนักข่าว CNBC รายงานเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2016 ว่าอัครมหาเศรษฐีนักลงทุนจอร์จ โซรอส เจ้าของฉายา “พ่อมดทางการเงิน”ประณามรัสเซียที่ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดในซีเรียระบุว่าเป็นการก่ออาชญากรรมชั่วร้ายต่อมนุษยชาติ (heinous crimes against humanity) ลงมือขณะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่เหมือนเกิดช่องว่างทางอำนาจของทำเนียบขาว
“โลกนี้เป็นพยานได้ ในมิติทางประวัติศาสตร์ที่เกิดภัยพิบัติด้านมนุษยธรรม เกิดขึ้นในซีเรีย ถูกปั่นโดยประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ที่ให้การสนับสนุนบุตรบุญธรรมของเขา(ประธานาธิบดีซีเรีย)บาชาร์ อัล-อัสซาด”นายโซรอสโพสขึ้นในเว็บไซต์ของตนเมื่อเช้าวันที่ 6 ตุลาคม
“เมื่อข้อเท็จจริงเป็นที่ยอมรับอย่างเต็มที่, การทิ้งระเบิดของปูตินใส่เมืองอาเลปโปถูกมองว่าเป็นหนึ่งในอาชญากรรมสงครามมหันต์ที่สุดของโลกสมัยใหม่”ถ้อยแถลงของโซรอสกล่าว
สำนักแถลงข่าวของรัสเซียยังไม่ได้ตอบโต้คำแถลงดังกล่าวแม้ว่า CNBC จะส่งอีเมลไปขอความเห็น
สงครามกลางเมืองในซีเรียปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 6 กลับมาถูกจุดชนวนอีกครั้งภายหลังจากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสหรัฐและรัสเซียไม่เกิดผล จึงทำให้เกิดความตึงเครียดอีกระหว่างสหรัฐและรัสเซียที่สนับสนุนแต่ละฝ่ายในซีเรีย
รัสเซียร่วมกับกองกำลังของรัฐบาลซีเรียถล่มทางอากาศใส่กลุ่มกบฎซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ทางเหนือของเมืองอาเลปโป ประชาชนหลายพันคนติดกับอยู่ในเขตเมืองอาเลปโป ทั้งกลุ่มสังเกตการณ์ Syrian Observatory of Human Rights ที่มีสำนักงานอยู่สหราชอาณาจักรและองค์การสหประชาชาตได้ออกคำเตือนว่าผู้เสียชีวิตจะเพิ่มมากขึ้นหากยังมีการถล่มทางอากาศต่อไป
อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับนายโซรอสที่เขาหนุนด้านภูมิรัฐศาสตร์ด้วยการใช้กองทุนสังคมเปิด (Open Society Foundations =OSF) มอบทุนให้กับโครงการต่างๆทั่วโลก
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเขาประกาศมอบเงิน 500 ล้านดอลลาร์แก่โครงการและหน่วยงานต่างๆที่จะช่วยเหลือผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่หลีกหนีเพื่อเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์อันตรายของสงคราม
จากแถลงการณ์ของเขาเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ระบุว่าเครื่องบินของรัสเซียทิ้งระเบิดถล่มเขตที่ประชาชนอาศัยอยู่ในอาเลปโปเพื่อหนุนรัฐบาลทหารซีเรียรุกคืบทางภาคพื้นดิน
“ประธานาธิบดีปูตินรุกอย่างก้าวร้าวในช่วง 4 เดือนตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงวันที่ 20 มกราคม(2017)อันเป็นวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี(สหรัฐ) อันนี้เป็นข้อมูลจากการคำณวนทางการเมือง”โซรอสกล่าว
“ผมขอร้องไปยังประชาชนรัสเซีย,ยุโรปและทั้งโลกอย่ายืนอยู่เฉย ให้กระจายคำพูดและส่งเสียงออกไปยังพฤติกรรมอันก้าวร้าวนี้ ความเห็นเหล่านี้จะทำให้ประธานาธิบดีปูตินยุติการก่ออาชญากรรมอันชั่วร้ายต่อมนุษยชาติ”
รายงานข่าวเปิดเผยว่าเมื่อปี 2015 รัสเซียได้สั่งห้ามกองทุนการกุศลและกองทุนสังคมเปิดของนายโซรอสดำเนินกิจกรรมในรัสเซีย สาเหตุเพราะเป็นการทำให้ความมั่นคงของรัฐและรัฐธรรมนูญของรัสเซียสั่นคลอนได้
พล.ต.อิกอร์ โคนาเชคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย (ABC News)
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2016 สำนักข่าว ABC News รายงานว่า พล.ต.อิกอร์ โคนาเชคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมาเตือนสหรัฐอย่าส่งเครื่องบินเข้าไปยุ่งในการปฏิบัติการทางทหารของรัฐบาลซีเรีย ไม่เช่นนั้นเครื่องบินทุกลำที่ผ่านเข้าไปจะถูกยิงแน่นอน
ทั้งนี้ก่อนที่โฆษกกลาโหมของรัสเซียจะออกมาเตือนนั้น หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่าทำเนียบขาวอาจส่งเครื่องบินถล่มทหารซีเรียที่กำลังปฏิบัติการกวาดล้างในเขตอาเลปโป หลังจากที่ข้อยุติการหยุดยิงระหว่างสหรัฐและรัสเซียล้มเหลวลง
วอชิงตัน โพสต์รายงานเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐได้เสนอแนวทางนี้ต่อฝ่ายบริหารโอบามา การส่งเครื่องบินถล่มทหารซีเรียจะช่วยกดดันรัสเซียให้ยุติการทิ้งระเบิดและหันกลับมาเจรจากับสหรัฐอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าประธานาธิบดีโอบามาคงจะไม่อนุมัติ
สำนักข่าวเอบีซี นิวส์รายงานว่าพล.ต.อิกอร์ไม่ได้พูดโดยตรงว่าจะยิงเครื่องบินอเมริกันที่บุกถล่มทางอากาศกับกองทหารซีเรีย แต่คำพูดฟังดูแล้วชัดเจน “เราอยากจะเตือนเพื่อนเราที่วอชิงตันว่า หากดำเนินการตามแผน (ทิ้งระเบิด) แล้วจะต้องตระหนักว่าจะเกิดผลลัพธ์อย่างไร”
พล.ต.อิกอร์กล่าวว่าเป็นเรื่องยุ่งยากที่เดียวที่จะคำณวนได้ถูกต้องเมื่อเครื่องป้องกันทางอากาศของรัสเซียทำงานเพราะไม่ทราบว่าขีปนาวุธที่ยิงมานั้นเป็นของใคร และสายตรงก็อาจทำงานไม่ทัน ทั้งนี้หมายถึงสหรัฐและรัสเซียจัดตั้ง hotline ไว้ติดต่อกันเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในเรื่องเครื่องบินโจมตีทางอากาศ
ปัจจุบันรัสเซียได้ติดตั้งเครื่องต่อต้านขีปนาวุธแบบ S-300 และ S-400 ไว้ตอบโต้เครื่องบินในซีเรียซึ่งระยะทางไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับยิงเครื่องเครื่องบินที่ไม่ได้ระบุสัญชาติ
พล.ต.อิกอร์ยังอ้างถึงเหตุเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่เครื่องบินโจมตีแบบ stealth ของสหรัฐบุกโจมตีทางอากาศทำให้ทหารซีเรียกว่า 30 คนเสียชีวิตและบาดเจ็บอีกประมาณ 300 คน ดดยเพนตากอนบอกว่าเป็นความผิดพลาดพร้อมทั้งขอโทษ แต่พล.ต.อิกอร์กล่าวว่ารัสเซียได้เตรียมการเพื่อไม่ให่เกิดความผิดพลาดกับทหารรัสเซียไว้แล้ว
รายงานข่าวเปิดเผยว่าในระหว่างรัสเซีบยและทหารของซีเรียรุกหนักในเขตเมืองอาเลปโป ทำให้ประเทศตะวันตกประณามว่ารัสเซียเป็นอาชญากรรมสงครามพร้อมกับเรียกร้องให้สหรัฐเข้าแทรกแซงเพื่อกดดันให้รัสเวียและอัสซาดยุติการบุกหนักเพื่อหันมาเจรจากันอีกครั้ง
เอบีซีนิวส์อ้างอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศและนักสังเกตการซีเรียได้ให้คำแนะนำว่าการดำเนินการกดดันนั้น สหรัฐจะต้องส่งเครื่องบินบุกเข้าโจมตีสนามบินซีเรีย,ทำลายเครื่องบินที่ทิ้งระเบิดใส่พลเมือง,ทำลายสนามบิน(รันเวย์) นอกจากนี้ยังจะต้องส่งอาวุธหนักให้กับกลุ่มกบฎในซีเรียด้วย
อย่างไรก็ตามแนวทางนี้ฝ่ายบริหารโอบามาคงคิดหนักและไม่น่าจะเป็นไปได้ในการส่งเครื่องบินเข้าถล่ม
สงครามซีเรียมีทีท่าจะจบง่ายหรือ
สงครามซีเรียต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 เมื่อเกิดการปฏิวัติอาหรับ (Arab Spring) ผู้นำอาหรับหลายประเทศถูกโค่นล้มเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเพื่อนำไปสู่ “ประชาธิปไตย”ในความหมายของตะวันตก ขณะที่รัฐบาลนายบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น สหรัฐให้การสนับสนุนกลุ่มกบฎที่แยกตัวออกมาจากรัฐบาลและเรียกตัวเองว่า Free Syria Army นอก จากนั้นยังมีกลุ่มไอซิสเข้ามาเกี่ยวข้อง สงครามจึงลุกลามมาจนถึงปัจจุบัน
( Credit / Al Jazeera)
เว็บไซต์ อัล จาซีรา ได้จัดทำแผนที่ประเทศซีเรียพร้อมกับแยกว่ากลุ่มไหนบ้างครอบครองพื้นที่เขตใดในสงครามกลางเมืองที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 6 สงครามนี้ทำให้ประชาชนเสียชีวิตไม่น่าจะน้อยกว่า 400,000 คน และอีกหลายล้านคนอพยพไปอยู่ประเทศข้างเคียงและส่วนหนึ่งอพยพไปอยู่ประเทศยุโรป
พื้นที่ในซีเรียแบ่งการครอบครองดังนี้ รัฐบาลซีเรีย,กลุ่มไอซิส,กลุ่มเคิร์ด (Kurdish),กลุ่มกองโจรต่างๆ ขณะนี้ทหารรัฐบาลซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียบุกเข้ายึดครองพื้นที่ได้มากขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เช่นขับไล่กลุ่มไอซิสพ้นเมืองพาลไมรา(Palmyra)และเมืองอื่นๆ แต่การสู้รบยังหนักหน่วงในเขตเมือง Aleppo เพื่อเข้ายึดครองระหว่างทหารรัฐบาลซีเรียกับกลุ่มทหารกบฎที่หนุนโดยสหรัฐและตะวันตก
กลุ่มเคิร์ดขณะนี้เข้าครอบครองทางเหนือของซีเรียหรือเข้าไปลดพื้นที่กลุ่มไอซิสครอบครอง ขณะที่ทหารตุรกีเข้าร่วมต่อต้านกลุ่มไอซิสและขับไล่กลุ่มไอซิสพ้นจากเมือง Jarablus ปัจจุบันกลุ่มไอซิสเริ่มที่จะสูญพื้นที่จำนวนมากไม่เพียงในซีเรียเท่านั้น แต่ยังสูญพื้นที่ในอิรักด้วย เหตุเพราะกลุ่มเคิร์ดและกองกำลังความมั่นคงของอิรักเริ่มบุกรุกคืบเพื่อเข้ายึดฐานที่มั่นของกลุ่มไอซิสที่เมืองโมซุล(Mosul)
ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2016 แยกพื้นที่ควบคุมซีเรียได้ดังนี้ : รัฐบาลซีเรียควบคุมพื้นที่ 40 % (และคุมประชากร 66 %) ,กลุ่มไอซิส ควบคุมพื้นระหว่าง 20-40 % ,กลุ่มกบฎต่างๆควบคุมพื้นที่ 20 % (รวมทั้งกลุ่มอัล-นุสรา) , อีก 15-20 % ควบคุมโดยกลุ่มเคิร์ด