อ.ขอโทษนศ. แล้ว หลังโพสต์ด่า ถือไม้กวาดซ้อมรำฉุยฉาย
อ.ขอโทษนศ.หลังโพสต์ด่า ถือไม้กวาดซ้อมรำฉุยฉาย
อาจารย์หนุ่ม เอ่ยปากขอโทษ นศ. เหตุกระแสตีกลับโพสต์ด่าลูกศิษย์ “อัปมงคล” ถือไม้กวาดซ้อมรำฉุยฉาย ผู้บริหารติง รับคิดได้หลังถูกวิจารณ์ เปรยขุ่นใจมากลืมคิดก่อนโพสต์ จำใจยอมลบรูปแต่ยืนกรานไม่ลบข้อความ เกรงถูกประณามโพสต์แล้วลบหนีกรณีกระแสวิจารณ์หลังชาวเน็ตแห่เข้าไปแสดงความคิดเห็น เนื่องจากสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง อ้างตัวว่าเป็นอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัย โพสต์ภาพนักศึกษานุ่งโจงกระเบนสีแดง ขณะกำลังใช้ไม้กวาดประกอบท่ารำ พร้อมข้อความระบุว่า “เกินจะสั่งสอน ปกติเวลาเห็นเด็กทำอะไรผิดพลาดหรือไม่ถูกไม่ควร ฉันมักอดไม่ได้ที่จะ ‘ตักเตือน’ หรือไม่ก็ ‘ปรี๊ดแตก’ ตาม ‘level’ ของพฤติกรรมที่เด็กกระทำ
แต่พอเห็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ซึ่งน่าจะเป็นผู้มีวุฒิภาวะสูง เพราะใกล้จะสำเร็จการศึกษาออกไปเป็นบัณฑิตในเวลาไม่นานนัก ซ้อมรำฉุยฉาย เพื่อเตรียมตัวนำเสนอการแสดงที่จะสอบทักษะขั้นสูง ‘กระบวนรำเดี่ยวอวดฝีมือ’ ด้วยการคว้าไม้กวาดดอกหญ้ามาถือซ้อมรำแล้ว ฉันได้แต่ ‘อึ้ง’ และ ‘อนาถใจ’ เป็นการกระทำที่ ‘อัปมงคล’ พ้นสติปัญญาฉันจะตักเตือนจริงๆ รับไม่ได้”ภายหลังมีผู้อ้างว่าเป็นพี่ชายของนักศึกษาคนดังกล่าว ได้โพสต์เฟซบุ๊ก “Q Boy Vocal” ให้ความเห็นว่า สังคมสมัยนี้ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ เมื่อรู้ว่าลูกศิษย์กระทำผิด กลับไม่บอกกล่าวตักเตือน แต่เลือกถ่ายรูปโพสต์ประจานบนโลกออนไลน์ ใช้คำรุนแรง “อัปมงคล” ซึ่งน้องชายของตนรู้สึกแย่มากเหตุใดครูต้องด่าขนาดนี้ และหากการกระทำของลูกศิษย์ไม่สมควร ก็น่าจะมาตักเตือนและแนะวิธีที่ถูกต้องเสียมากกว่า
เช่นเดียวกับชาวเน็ตส่วนใหญ่ ให้ความเห็น ระบุว่า ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ควรเข้าไปตักเตือน หากเห็นว่าลูกศิษย์ทำผิด ไม่ใช่นำมาโพสต์ด่าทอรุนแรงเพียงนี้ เด็กจะได้รับผิดและขอโทษในสิ่งที่กระทำผิดพลาดไปความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 6 ต.ค. อาจารย์รายนี้ กล่าวต่อเรื่องดังกล่าว อาจารย์ผู้ใหญ่ของสาขาวิชาที่ตนสังกัดนั้น ได้ขอให้ลบโพสต์ เพราะความอาวุโสของตนคาดคะเนได้ว่าจะลุกลามแน่ๆ ตนตอบว่า “ขอไม่ลบครับ” เพราะตนไม่ชอบเลยกับการที่ใครออกมาแสดงความเห็น แล้วลบโพสต์หนีในภายหลัง แต่เมื่อโพสต์แล้วก็ต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตามตนได้ขอโทษหน่วยงานที่ตนสังกัด เหตุก่อปัญหาให้ผู้บริหารต้องร้อนใจ กระทั่งได้อ่านข้อความพี่ชายของนักศึกษา เขียนไว้อย่างสุภาพ ทำให้ตนได้คิดและรู้สึกว่าทำให้ครอบครัวของนักศึกษาสะเทือนใจกับการโพสต์ของตน ดังนั้นตัดสินใจลบรูปภาพนักศึกษา (ลบแต่รูปยังคงข้อความไว้)
ซึ่งตนควรคิดได้ตั้งแต่แรก แต่เพราะความขุ่นใจมากจึงลืมคิดไป ทั้งนี้ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนักศึกษา รวมทั้งตัวนักศึกษา และ “ขอโทษ” ซึ่งตนหวังว่าจะทำให้ครอบครัวและนักศึกษาสบายใจขึ้นบ้าง รวมถึงขอโทษทุกท่านและทุกคนที่เกี่ยวข้องด้วย
ขณะที่ นายคิว (นามสมมุติ) พี่ชายนักศึกษาคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนและน้องชายต้องกราบขอโทษอาจารย์ด้วยเช่นกัน ไม่คิดว่าจะบานปลายเช่นนี้ เพียงต้องการปกป้องน้องชายจากคำถูกประณาม ยืนยันไม่ได้มีเจตนาจะให้ร้ายผู้ใด และตนหวังว่าเรื่องลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก แต่ควรเรียนรู้บทเรียนจากการใช้โซเชียลมีเดีย
หากใช้ถูกวิถีก็จะเป็นผลดี แต่ถ้าใช้ผิดวิถีก็สามารถทำร้ายคนหนึ่งได้เช่นกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ แหล่งข่าวระดับสูง ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว เปิดเผยผ่านผู้สื่อข่าวว่า คณบดียังไม่ทราบเรื่อง เนื่องจากติดราชการต่างประเทศ แต่ขณะนี้รองคณบดีฝ่ายต่างๆ ได้ทราบเรื่องแล้ว พร้อมได้สอบถามทางวาจาในเบื้องต้นไปก่อน
โดยยังไม่แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังหัวหน้าสายวิชาที่อาจารย์คนดังกล่าวสังกัด ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาแต่ให้รายงานกลับมาอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเหตุลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้น อีกทั้งนาฏศิลป์ไทยมีครูที่ควรเคารพกราบไหว้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกระแสวิจารณ์ และท้วงติงเรื่องดราม่าทศกัณฐ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า.











