เชื่อหรือไม่ว่าสีสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของเรา ให้ดีขึ้นได้ในเกือบทุกด้าน

แม้แต่สีทาบ้านก็สามารถทำให้ความเป็นอยู่ของเราดีขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่นครั้งหนึ่งฉันเคยทาผนังสีดำเพื่อเพิ่มความลี้ลับให้แก่บ้านของฉัน แต่ปรากฏว่าสีดำนั้นรุนแรงและปลุกเร้ามากเกินไปจนฉันไม่สามารถผ่อนคลายหรือมีสมาธิได้เมื่ออยู่ในห้องนั้น ขณะเดียวกันฉันพบว่าสีเหลืองเป็นสีที่สามารถกระตุ้นจิตใจของฉันได้ การมีสีเหลืองบนโต๊ะทำงานทำให้ฉันมีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานและมีความคิดใหม่ๆเกิดขึ้น

2. สีสามารถกำหนดมุมมองของคนอื่นที่มีต่อเราได้

คนเราสามารถตัดสินอีกฝ่ายได้จากจิตใต้สำนึกซึ่งขึ้นอยู่กับสีที่เราสวมใส่ การศึกษาพบว่าผู้หญิงที่ใส่ชุดสีแดงจะมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายมากกว่าผู้หญิงที่ใส่ชุดสีฟ้า เป็นไปได้ว่าสีแดงจะส่งสัญญาณเตือนถึงภาวะเจริญพันธุ์และบอกเป็นนัยว่าผู้หญิงที่สวมใส่ชุดสีแดงมีความเร่าร้อนและอบอุ่น

3. สีมีอิทธิพลต่ออารมณ์ของเรา

สีมีพลังทำให้จิตใจของเราทั้งสดชื่นแล้วก็สงบได้ด้วย สีที่ทำให้คุณรู้สึกสนุกสนานคือสีที่บ่งบอกถึงความปรารถนาและความต้องการของคุณ เช่น ถ้าสีแดงทำให้จิตใจของคุณร่าเริงก็เป็นไปได้ว่าคุณชอบออกกำลังกายและรู้สึกดีเมื่อได้แสดงออก

4. สีกระตุ้นการเติบโตทางจิตวิญญาณ

สีทำให้เกิดพลังได้อย่างไม่น่าเชื่อเมื่อนำมาใช้กับการฝึกสมาธิหรือโยคะสี สีคือใบเบิกทางสู่ความเป็นไปได้โดยการเสริมสร้างพลังงานและเปิดประสบการณ์ไปจนถึงการเชื่อมต่อกับจักรวาล เราจะรู้จักใช้ประโยชน์จากพรสวรรค์ของตัวเอง สีจะช่วยกำหนดความรู้สึกของผู้คนในรูปแบบที่จับต้องได้และเอาชนะอุปสรรคต่างๆที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตัวเอง

5. สีจะช่วยพัฒนาความรู้สึกของตนเอง

สีบางสีจะช่วยให้เรารู้จักสร้างความสัมพันธ์กับตัวเองและสอนให้เรารักรวมถึงเห็นอกเห็นใจตัวเองด้วย เช่น สีชมพูซึ่งเป็นสีในทางบวกจะสามารถลดอัตราการเต้นของหัวใจได้ อีกทั้งทำให้รู้สึกมีความสุข ผลที่ได้คือเราจะมีคนรักและเพื่อนที่มีความรักและความเห็นอกเห็นใจกัน

6. สีมีส่วนสัมพันธ์กับอาหารที่เรารับประทาน

สีของผักหรือผลไม้จะบ่งบอกถึงแร่ธาตุและพลังงานที่มันดูดซึมจากแสงอาทิตย์ เช่น บลูเบอร์รี่และแบล็คเบอร์รี่จะมีพลังงานที่เข้มแข็งของสีฟ้า/สีคราม ซึ่งพลังของสีเหล่านี้จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและช่วยในการนอนหลับ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์พบว่าแร่ธาตุกับวิตามินที่พบได้ในบลูเบอร์รี่และแบล็คเบอร์รี่จะช่วยบรรเทาอาการของผู้ที่นอนไม่หลับหรือมีปัญหาในการนอน

Blogger : Wala’a Al Muhaiteeb

Source : mindbodygreen.com