ปูตินสั่งห้ามไมโครซอฟท์เข้ารัสเซียระบุจับความเคลื่อนไหวคนรัสเซีย-ขึ้นบัญชีดำบิล เกตส์เหมือนจอร์จ โซรอส-เจคอป ร้อธไชลด์
บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ถูกปูตินขึ้นบัญชีดำ ระบุจับความเคลื่อนไหวรัสเซียทุกนาที
ปูตินสั่งห้ามไมโครซอฟท์เข้ารัสเซียเหตุจับความเคลื่อนไหวคนรัสเซียทุกนาที-วางสถานะของบิล เกตส์เป็นบุคคลที่ต้องจับตามองเหมือนจอร์จ โซรอสและตระกูลร้อธไชลด์ เผยหันมาใช้ซอฟท์แวร์ผลิตในรัสเซียเพื่อความมั่นคงของประเทศ
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2016 นายแบ๊กซ์เตอร์ ดมิทรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้สั่งห้ามผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ทั้งมวลจำหน่ายในรัสเซียอีกทั้งวางนายบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์เป็นบุคคลต้องเฝ้ามองเพื่อความมั่นคงของประเทศ (a Federal Security Service watchlist)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายปูตินให้เหตุผลว่าเพื่อความมั่นคงและต้องเป็นที่เชื่อถือได้ ดังนั้นจำเป็นจะต้องถอดซอฟท์แวร์ของไมโครซอฟท์ออกทันที
นายเซอร์จี้ เซเลนซ์ยัค โฆษกรัฐบาลอธิบายเพิ่มเติมว่าไมโครซอฟท์“จับความเคลื่อนไหวนาทีต่อนาที”ต่อคนรัสเซียหลายล้านคนและคนประเทศอื่นทั่วโลกอีกด้วย
“สหรัฐเสนอตัวเองว่าเป็นป้อมปราการของประชาธิปไตย แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับทำหน้าที่จับความเคลื่อนไหวของคนรัสเซียหลายล้านคนรวมทั้งพลเมืองของประเทศอื่นทั่วโลกอีกด้วย”นายเซอร์จี้กล่าวและว่า “บริษัทอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ทุกบริษัทในสหรัฐมักจะเสนอเรื่องราวอันน่าขยะแขยง อีกทั้งยังเข้ามาดำเนินการในเขตแดนของเรา”
ขณะเดียวนายบิล เกตส์ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ถูกรัฐบาลรัสเซียวางตัวไว้เป็นบุคคลผู้ต้องถูกจับตามองจากรัฐบาลเพื่อความมั่นคง รวมทั้งในอนาคตจะต้องถูกสอบสวนอีกด้วย โดยเป็นบุคลลต้องห้ามที่ถูกขึ้นบัญชีดำร่วมกับนายจอร์จ โซรอส และนายเจคอป ร้อธไชลด์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเพิ่มเติมว่านายอาร์เท็ม เออร์โมลาฟ หัวหน้าเทคโนโลยีสารสนเทศ(ไอที)ของกรุงมอสโควและนายนิโคไล นิกิโฟรอฟ รัฐมนตรีสื่อสารของรัสเซียเปิดเผยว่าจะมีการโละทิ้ง Microsoft Exchange Server ในคอมพิวเตอร์หลายพันเครื่องและ Outlook ซึ่งเป็นระบบอีเมล โดยจะใช้ซอฟท์แวร์และระบบอีเมลของบริษัทรัสเซียชื่อ Rostelecom PJSC แทน
ในปี 2017 รัสเซียจะใช้ซอฟท์แวร์ของบริษัทรัสเซียชื่อ New Cloud Technologies รวมทั้ง Microsoft Office และ Windows ก็จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัทรัสเซียแทน “เราต้องการให้เงินภาษีของประชาชนหมุนเวียนอยู่ภายในด้วยการใช้ชอฟท์แวร์ที่ผลิตในประเทศ” นายเออร์โมลาฟ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริษัทไมโครซอฟท์ไม่ได้ให้ความเห็นใดๆเมื่อพยายามติดต่อไป
เจคอป ร้อธไชลด์ คนรุ่น 4 ของตระกูลจากอังกฤษมีอาณาจักรการเงินประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ห้ามตระกูลร้อธไชลด์เข้ารัสเซีย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 กันยายน ประธานาธิบดีปูตินสั่งห้ามตระกูลร้อธไชลด์เดินทางเข้าสหรัฐไม่วาจะเป็นกรณีใดๆโดยสั่งผ่านไปยังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าประเทศรัสเซียได้จ่ายหนี้การผูกขาดของตระกูลนี้ผ่านธนาคารนานาชาติไปหมดแล้ว “เจอพวกนี้ก็คว้าคอและเตะออกจากรัสเซียไปทางประตูหลังเลย” รายงานข่าวกล่าว
พร้อมกันนี้นายปูตินยังแสดงอาการโกรธเกรี้ยวด้วยการใช้กำปั้นทุบโต๊ะและประกาศว่าจะทำลาย ระเบียบของโลกใหม่หรือ the New World Order เหตุเพราะคนพวกนี้ไม่ได้เป็นเจ้าของโลกและพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการตลอด “หากเราไม่ทำอะไรเลยเราก็จะถูกข่มเหง”นายปูตินกล่าวต่อที่ประชุม
รายงานข่าวเปิดเผยว่าเศรษฐกิจของรัสเซียตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มอิทธิพลตะวันตก โดยเฉพาะในช่วงของการเปลี่ยนแปลงประเทศเมื่อเร็วๆนี้(ช่วงระบอบโซเวียตล่มสลาย) ก็ได้รับเงินทุนจากกลุ่มวอลสตรีทและกลุ่มทุนจาก City of London
ก่อนหน้านี้นายปูตินสั่งจับกุมนายมิไคล โคดอร์คอฟสกี้ ผู้เป็นตัวเชื่อมกับตระกูลบร้อธไชลด์,นายเฮนรี คิสซิงเจอร์และนายอาร์เธอร์ ฮาร์ทแมน ทั้งหมดเป็นกรรมการอำนวยการของกองทุน Open Russia
สำหรับ The New World Order นั้นนายปูตินเห็นว่าพวกตะวันตกต้องการทำลายรัสเซียด้วยการคว่ำรัฐบาลนายปูตินเหมือนกับที่ทำกับรัฐบาลไครเมียก่อนหน้านี้และรัศเซียจะเป็นรายต่อไปต่อจากประเทศซีเรีย รวมทั้งปัจจุบันกำลังทำกับประเทศจีนอีกด้วย
อีกทั้งนายปูตินเห็นว่ารัสเซียเองเป็นเหมือนมวยรองที่จะต้องปกป้องประชาชนไปทั้งโลกเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกยึดครองจากอิทธิพลของกลุ่มจักรวรรดินิยมใหม่ ( neo-colonialism) กลุ่มจักรพรรดินิยม( imperialism)และกลุ่มปิศาจร้อธไชลด์(the Rothschild evil)
รัสเซียขับกองทุนจอร์จ โซรอสออกจากประเทศ
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2015 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ารัฐบาลรัสเซียได้สั่งยุติการดำเนินงานของกองทุนต่างๆที่ทำในนามของนายจอร์จ โซรอส เพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยด้วยเหตุผลว่ากองทุนเหล่านี้เข้ามาทำให้ความมั่นคงของรัสเซียสั่นคลอนทั้งในแง่ของประเทศและรัฐธรรมนูญของรัสเซีย
จากคำแถลงของสำนักอัยการสูงสุดรัสเซียระบุว่าองค์กรการกุศล 2 แห่งอันเป็นเครือข่ายของนายโซรอสประกอบด้วย Open Society Foundations (OSF) และ Open Society Institute (OSI) จะต้องระงับการดำเนินการในฐานะเป็นกลุ่ม NGO ต่างประเทศเพราะการดำเนินงานไม่เป็นที่ปรารถนาของรัฐบาลรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเข้ามาเป็นตัวข่มขู่ความมั่นคงทางรากฐานของรัฐและของรัฐธรรมนูญรัสเซีย
นายโซรอสรู้จักกันในนามของผู้ก่อตั้ง Soros Fund Management ด้วยการจัดตั้งกองทุน OSF มีเป้าหมายเพื่อนำประเทศคอมมิวนิสต์ต่างๆเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งในปัจจุบันเป็นกองทุนที่มีเป้าหมายเปลี่ยนโลกนี้เป็นระบอบประชาธิปไตยทั้งหมด
ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 กองทุน OSF ได้รับข่าวว่ารัฐบาลรัสเซียจะสั่งห้ามการดำเนินการใดๆในรัสเซียเพราะมีลักษณะของการก้าวร้าวต่อรัสเซีย
ต่อมาเมื่อเดือนตุลาคม 2015 กองทุนของนายซอโรสก็มีปัญหากับประเทศฮังการีประเทศแผ่นดินเกิดของเขาเอง (นายโซรอส ปัจจุบันเป็นฮังกาเรียน-อเมริกันหรือแปลงสัญชาติเป็นพลเมืองอเมริกัน)โดยรัฐบาลฮังการีกล่าวหาว่าเขาสนับสนุนคนอพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย นายโซรอสเองวิจารณ์ว่ารัฐบาลฮังการีดูแลผู้อพยพไม่ดี อีกทั้งยังแนะนำว่ารัฐบาลฮังการีควรจ่ายเงินให้กับผู้อพยพปีละ 16,000 ดอลลาร์ต่อหัวเพื่อใช้เป็นค่าที่พัก,ค่ารักษาสุขภาพและค่าเล่าเรียน
จอร์จ โซรอส พ่อมดทางการเงินเจ้าของ Open Society Foundationsที่ต้องการเปิดทุกประเทศในโลกให้เป็นประชาธิปไตย