วิธีทำ น้ำพริกปลา ให้แซ่บถึงใจ จิ้มกับอะไรก็อร่อย
น้ำพริกปลา …เอ้า รอ รอล่ะสิว่าปลาอะไรต่อ ไม่มีค่ะ ก็น้ำพริกปลาเฉยๆ นั่นแหละ หลายคนอาจจะเคยชินกับน้ำพริกปลาทู น้ำพริกปลาป่น น้ำพริกปลานิล น้ำพริกปลาร้า แต่คงจะงงๆ ว่าน้ำพริกปลา (เฉยๆ) เนี่ย มันคืออะไร ว่าแล้วไปดูดีกว่า
น้ำพริกปลาหรือ น้ำพริกปล๋า จริงๆ จะเรียกว่าน้ำพริกปลาจี่ ที่แปลว่าน้ำพริกปลาย่างก็ไม่ผิดนะคะ ซึ่งน้ำพริกปลานี้เป็นอาหารพื้นเมืองของทางภาคเหนือ เป็นน้ำพริกที่ลักษณะข้นถึงขลุกขลิก โดยปลาที่ใช้เป็นปลาช่อน หรือปลาช่อนย่างไฟ มีส่วนผสมทั้งหมดดังนี้
- ปลาช่อนย่าง 1 ตัว (แกะเอาแต่เนื้อ)
- พริกหนุ่มย่าง 7 เม็ด
- หอมแดงย่าง 5 หัว
- กระเทียมย่าง 2 หัว
- กะปิห่อใบตองย่าง 1 ช้อนชา
- น้ำปลาร้าต้มสุก 1 ถ้วย
- ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. โขลกพริกหนุ่ม หอมแดง กระเทียม กะปิ เกลือให้แหลกเข้ากันดี
2. ใส่เนื้อปลาช่อนย่างตามลงไป โขลกให้เข้ากัน
3. ใส่น้ำปลาร้าต้ม คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย
4. โรยด้วยต้นหอมผักชี กินคู่กับผักสดเช่น แตงกวา ผักแว่น มะเขือกรอบ หรือผักลวก หน่อไม้ ก็เข้ากั๊นเข้ากัน
น้ำพริกปลามาแล้วเจ้า
หากว่าอยากลองเปลี่ยนเป็นน้ำพริกอย่างอื่น ก็สามารถทำได้ เพียงแค่เปลี่ยนชนิดของปลาค่ะ ถ้าน้ำพริกปลาทูก็เปลี่ยนเป็นปลาทูย่าง
น้ำพริกปลาทู
แต่น้ำพริกของทางภาคกลางมีความแตกต่างกับน้ำพริกทางภาคเหนืออยู่บ้างนะคะ เช่น น้ำพริกภาคกลางมักไม่ใส่ปลาร้า แต่ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาวมากกว่า และใส่พริกขี้หนูเพิ่มความเผ็ด แทนพริกหนุ่ม ถ้าเป็นน้ำพริกปลานิลก็เปลี่ยนเป็นปลานิลทอดหรือปลานิลย่างค่ะ แล้วเพิ่มส่วนของการนำน้ำพริกลงผัดในกระทะอีกหน่อย (ใส่กระเทียมเจียวเพิ่มความหอม อันนี้ก็แล้วแต่สูตรแต่ละคน) น้ำพริกปลาป่นก็ทอดเนื้อปลานิลจนเหลืองกรอบก่อน ค่อยเอามาโขลกน้ำพริก
ป่นปลาทูแซบๆ
เห็นไหมว่าอาหารไทยเรานอกจากอร่อยซี้ดถึงใจแล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วยทั้งผักเอย ปลาเอย เฮลท์ตี้กันมาแต่รุ่นบรรพบุรุษนะเออ ว่าแล้วขอตัวไปเก็บผักมาแกล้มน้ำพริกก่อนนะคะ