“วัดเสียวสวาท”เจ้าอาวาสวอนสังคมเข้าใจเผยที่มาของชื่อเป็นภาษาถิ่น
วัดเสียวสวาท ตั้งอยู่ที่บ้านโพนสว่าง หมู่ที่ ๓ ตำบลต้นผึ้ง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร
เจ้าอาวาสวัดเสียวสวาทชี้แจงถึงชื่อวัดหลังถูกสังคมตำหนิทำคนต่างถิ่นไม่กล้าทำบุญ เผยชื่อวัดมีมานานกว่า 100 ปี บรรพบุรุษคนภูไทโบราณ ยุครัชกาลที่ 5 เป็นผู้ตั้งให้มีความหมายจากต้นไม้โบราณและความสุขใจ
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2559 ที่ อ.พังโคน จ.สกลนคร มีวัดชื่อวัดเสียวสวาทและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นชื่อที่เหมาะสมหรือไม่ พระวีระพงษ์ อินทโชโต เจ้าอาวาส วัดเสียวสวาท อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสรุ่นที่ 7 ของวัด โดยเจ้าอาวาส ขอชี้แจงกรณีชื่อวัดถูกสังคมตัดสินไปแล้วว่าส่อไปในทางผิดศีลธรรมและถูกตำหนิติเตียนจากประชาชนที่รับรู้ว่ามีวัดชื่อแบบนี้
พระวีระพงษ์ ระบุว่า คำว่า เสียว มาจากต้นเสียวตามภาษาชาวบ้านท้องถิ่นเรียกกัน ซึ่งมักจะขึ้นอยู่ริมน้ำ มีรากที่แตกแขนงแผ่ไพรศาล ทนต่อทุกสภาพอากาศทั้งร้อน แล้ง หนาว หรือแม้กระทั้งน้ำท่วมขัง วัดเสียวสวาทตั้งอยู่ริมลำน้ำปลาหาง ดังนั้น จึงมีต้นเสียวขึ้นอยู่ทั่วบริเวณจึงใช้ต้นเสียวมาใช้ตั้งเป็นชื่อวัด
ส่วนคำว่า สวาท มาจากคำว่า สะว่ะสะเหว่ย เป็นภาษาภูไทดั้งเดิม หมายถึงความสุข ความเจริญ ชื่อนี้มีความเป็นมาเป็นไป มีความหมายที่ดีตามภาษาท้องถิ่น ซึ่งคนในชุมชนต่างภาคภูมิใจในชื่อนี้ จึงอยากให้สังคมรับรู้และเข้าใจวัดตลอดจนคนบ้านกลางเจริญ ที่มีความศรัทธาพระพุทธศาสนาแบบคนดั่งเดิม โดยไม่ยึดติดกับชื่อของวัดแต่อย่างใด
พระวีระพงษ์ กล่าวว่า ชื่อของวัดส่งผลให้ประชาชนที่ไม่ใช่คนในพื้นที่ดูถูกดูแคลนวัดว่าทำไมตั้งชื่อวัดส่อไปในทางที่ผิดศีลธรรม หรือไม่มีปัญญาตั้งชื่อวัดให้ไพเราะหรือน่าฟังกว่าชื่อดังกล่าวหรืออย่างไร บ้างก็ด่าว่าทำไมไม่เปลี่ยนชื่อวัด โดยเฉพาะเจ้าอาวาสจะโดนหนักที่สุดจนต้องเตรียมเอกสารของวัดไว้ หากมีประชาชนจากที่อื่นมาสอบถามจะได้ชี้แจงได้
เดิมแล้ววัดเสียวสวาทตั้งชื่อนี้มาไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าปี พ.ศ.ไหน แต่คนบ้านกลางเจริญก็รับรู้ว่ามีตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ มีมานานกว่า 100 ปี และเป็นคำศัพท์โบราณภายในท้องถิ่น คนโบราณบรรพบุรุษบ้านกลางเจริญ ซึ่งเป็นคนภูไท ในยุครัชกาลที่ 5 คำว่าเสียว หรือสวาทนั้นท่านคงไม่คิดถึงเรื่องอกุศลแต่อย่างใด แต่ชื่อนี้มีความเป็นมาเป็นไป มีความหมายที่ดีตามภาษาท้องถิ่น ซึ่งคนในชุมชนต่างภาคภูมิใจในชื่อนี้ จึงอยากให้สังคมรับรู้และเข้าใจวัดตลอดจนคนบ้านกลางเจริญ ที่มีความศรัทธาพระพุทธศาสนาแบบคนดั้งเดิม โดยไม่ยึดติดกับชื่อของวัดแต่อย่างใด
นอกจากนี้ เจ้าอาวาสวัดเสียวสวาท กล่าวว่า ไม่คิดจะเปลี่ยนชื่อวัดเพราะเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตามหลักพระพุทธศาสนา ดังนั้น ชื่อนี้ทางวัดและคนในชุมชนจะไม่ขอเปลี่ยนและอยากให้สังคมเข้าใจด้วย
ประวัติ วัดเสียวสวาท
วัดเสียวสวาท ตั้งอยู่ที่บ้านโพนสว่าง หมู่ที่ ๓ ตำบลต้นผึ้ง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๙ ไร่ ๓ งาน ๓ ตารางวา น.ส.๓ เลขที่ ๑๓๔๑ อาณาเขตทิศเหนือประมาณ ๑ เส้น ๑๕ วา จดถนน ทิศใต้ประมาณ ๒ เส้น ๑๘ วา จดลำห้วยปลาหาง ทิศตะวันออกประมาณ ๓ เส้น ๙ วา จดถนน ทิศตะวันตกประมาณ ๓ เส้น ๙ วา จดถนนสาธารณะ อาคารเสนาะสนะประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ศาลาเอนกประสงค์ วัดเสียวสวาท ตั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๓ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๓๒ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๓๐ เมตร ยาว ๖๐ เมตร การบริหารและการปกครอง มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม คือ รูปที่ ๑ พระคิ้ม พ.ศ.๒๔๘๐ รูปที่ ๒ พระจันทร์ พ.ศ.๒๔๘๐ – ๒๔๙๕ รูปที่ ๓ พระทอง พ.ศ.๒๔๙๕ – ๒๕๑๐ รูปที่ ๔ พระทองรัตน์ พ.ศ.๒๕๑๐ – ๒๕๑๗ รูปที่ ๕ พระอธิการหนูพันธ์ เขมโก พ.ศ.๒๕๑๗ – ๒๕๒๗ รูปที่ ๖ พระอธิการบุดดา สุจิตฺโต ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๗ เป็นต้นมา
พระวีระพงษ์ อินทโชโต เจ้าอาวาส วัดเสียวสวาท