สงครามเกาหลีเหนือ~ใต้ที่ไม่ปรากฎทั้งหมดความรุนแรงและการสูญเสียที่แท้จิงมันน่าถูมิใจมากใช่ใหมกับคำว่าชนะ!
สงครามเกาหลีเป็นส่วนหนึ่งของ สงครามเย็น
วันที่เต็มขั้น: 25 มิถุนายน 1950 - 27 กรกฎาคม 1953 (3 ปี 32 วัน)
ระดับต่ำ: 27 กรกฎาคม 1953 - ปัจจุบัน
สถานที่คาบสมุทรเกาหลีสาเหตุเกาหลีเหนือบุกครองเกาหลีใต้สถานะ
- การบุกครองเกาหลีใต้ของจีนถูกขับ
- การบุกครองเกาหลีเหนือของสหประชาชาติถูกขับ
- ความตกลงการสงบศึกเกาหลี
ดินแดน
เปลื่ยน* เขตปลอดทหารเกาหลี
- เกาหลีเหนือได้นครแคซ็อง แต่เสียพื้นที่รวม 3,900 กม.2 ให้เกาหลีใต้[1]
คู่ขัดแย้ง
- เกาหลีใต้
- สหรัฐอเมริกา
- สหราชอาณาจักร
- สหประชาชาติ
- (ข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงฯ ที่ 84)
- เดนมาร์ก
- อินเดีย
- อิตาลี
- นอร์เวย์
- สวีเดน
- สาธารณรัฐจีน (2455-2492)
- ญี่ปุ่น
- เอลซัลวาดอร์
- คิวบา
- เกาหลีเหนือ
- จีน
- สหภาพโซเวียต
ผู้บัญชาการหรือผู้นำ
* นามที่มี ข้างหน้า หมายถึง ผู้บัญชาการแห่งกองบัญชาการสหประชาชาติ
กำลัง
ยอด: 972,214
ยอด: 1,642,600
หมายเหตุ: แต่ละแหล่งข้อมูลระบุตัวเลขไว้ไม่ตรงกัน ยอดกำลังพลแปรผันระหว่างสงคราม
กำลังพลสูญเสียรวม: เสียชีวิต 178,236 นาย สูญหาย 32,844 นาย บาดเจ็บ 566,314 นาย
- :[10]
เสียชีวิต 137,899 นาย
บาดเจ็บ 450,742 นาย
สูญหาย 24,495 นาย
ถูกจับเป็นเชลย 8,343 นาย - :
เสียชีวิต 36,574 นาย[14]
บาดเจ็บ 103,284 นาย[14]
สูญหาย 7,926 นาย[15]
ถูกจับเป็นเชลยศึก 4,714 นาย[16] - :
เสียชีวิต 1,109 นาย[17]
บาดเจ็บ 2,674 นาย[17]
สูญหาย 179 นาย[10]
ถูกจับเป็นเชลยศึก 977 นาย[10] - :[10]
เสียชีวิต 741 นาย
บาดเจ็บ 2,068 นาย
สูญหาย 163 นาย
ถูกจับเป็นเชลยศึก 244 นาย - :[18]
เสียชีวิต 339 นาย
บาดเจ็บ 1,216 นาย
สูญหาย 43 นาย
ถูกจับเป็นเชลยศึก 26 นาย - :[10]
เสียชีวิต 312 นาย
บาดเจ็บ 1,212 นาย
สูญหาย 1 MIA
ถูกจับเป็นเชลยศึก 32 นาย - ฝรั่งเศส:[10]
เสียชีวิต 262 นาย
บาดเจ็บ 1,008 นาย
สูญหาย 7 นาย
ถูกจับเป็นเชลยศึก 12 นาย - :[10]
เสียชีวิต 192 นาย
บาดเจ็บ 543 นาย
ถูกจับเป็นเชลยศึก 3 นาย - :[10]
เสียชีวิต 163 นาย
บาดเจ็บ 448 นาย
ถูกจับเป็นเชลยศึก 28 นาย - :[10]
เสียชีวิต 129 นาย
บาดเจ็บ 1,139 นาย
สูญหาย 5 นาย - [10]
เสียชีวิต 121 นาย
บาดเจ็บ 536 นาย - :[10]
เสียชีวิต 120 นาย
บาดเจ็บ 645 นาย
สูญหาย 3 นาย - :[10]
เสียชีวิต 112 นาย
บาดเจ็บ 229 นาย
สูญหาย 16 นาย
ถูกจับเป็นเชลยศึก 41 นาย - :[10]
เสียชีวิต 101 นาย
บาดเจ็บ 478 นาย
สูญหาย 5 นาย
ถูกจับเป็นเชลยศึก 1 นาย - :[10]
เสียชีวิต 34 นาย
ถูกจับเป็นเชลยศึก 9 นาย - :[10]
เสียชีวิต 23 นาย
บาดเจ็บ 79 นาย
สูญหาย 1 นาย - :[10]
เสียชีวิต 3 นาย - :[10]
เสียชีวิต 2 นาย
บาดเจ็บ 13 นาย
เสียชีวิตรวม 367,283-750,282 นาย
บาดเจ็บรวม 686,500-789,000 นาย
เสียชีวิต 215,000-350,000 นาย[19]
บาดเจ็บ 303,000 นาย
สูญหายหรือถูกจับเป็นเขลยศึก 120,000 นาย[20]
(แหล่งข้อมูลจีน):[21]
เสียชีวิต 152,000 นาย
บาดเจ็บ 383,500 นาย
ถูกนำส่งโรงพยาบาล 450,000 นาย
สูญหาย 4,000 นาย
ถูกจับเป็นเชลย 7,110 นาย
แปรพักตร์ 14,190 นาย
(การประเมินของสหรัฐ):[20]
เสียชีวิต 400,000+ นาย
บาดเจ็บ 486,000 นาย
ถูกจับเป็นเชลยศึก 21,000 นาย
เสียชีวิต 282 นาย[22]
สงครามเกาหลี (25 มิถุนายน 1950 – 27 กรกฎาคม 1953) เป็นสงครามระหว่างสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) โดยได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติฝ่ายหนึ่ง กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) โดยได้รับการสนับสนุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นหลัก อีกฝ่ายหนึ่ง สงครามเกาหลีเป็นผลจากเขตทางการเมืองของเกาหลีโดยความตกลงที่ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้ชนะกระทำเมื่อสงครามแปซิฟิกยุติ คาบสมุทรเกาหลีถูกจักรวรรดิญี่ปุ่นปกครองตั้งแต่ปี 1910 กระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุด หลังการยอมจำนนของจักรวรรดิญี่ปุ่นในเดือนกันยายน 1945 นักปกครองชาวอเมริกันได้แบ่งคาบสมุทรตามเส้นขนานที่ 38 โดยกองกำลังทหารสหรัฐยึดครองส่วนใต้ และกองกำลังทหารโซเวียตยึดครองส่วนเหนือ[23]
ความล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้งเสรีทั่วคาบสมุทรเกาหลีในปี 1948 ยิ่งตอกลึกการแบ่งแยกระหว่างสองฝ่าย เกาหลีเหนือจึงสถาปนารัฐบาลคอมมิวนิสต์ ขณะที่เกาหลีใต้สถาปนารัฐบาลประชาธิปไตยในนาม เส้นขนานที่ 38 กลายเป็นพรมแดนทางการเมืองเพิ่มขึ้นระหว่างสองรัฐเกาหลี แม้การเจรจาเพื่อรวมประเทศยังคงดำเนินต่อมาหลายเดือนก่อนเกิดสงคราม แต่ความตึงเครียดยิ่งทวีขึ้น เกิดการรบปะทะและการตีโฉบฉวยข้ามพรมแดนเส้นขนานที่ 38 อยู่เนือง ๆ สถานการณ์บานปลายเป็นการสงครามเปิดเผยเมื่อกองกำลังเกาหลีเหนือบุกครองเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 1950[24] ปีเดียวกัน สหภาพโซเวียตคว่ำบาตรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อเป็นการประท้วงที่รัฐบาลก๊กมินตั๋ง/สาธารณรัฐจีนเป็นผู้แทนของจีน ซึ่งลี้ภัยไปยังเกาะไต้หวันหลังปราชัยสงครามกลางเมืองจีน เมื่อขาดเสียงไม่เห็นพ้องจากสหภาพโซเวียต ซึ่งมีอำนาจยับยั้งข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงฯ สหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นจึงผ่านข้อมติที่อนุญาตให้แทรกแซงทางทหารในเกาหลี
สหรัฐอเมริกาจัดหาทหารคิดเป็น 88% ของทหารนานาชาติ 341,000 นาย ที่ถูกส่งไปช่วยเหลือกองกำลังเกาหลีใต้ขับการบุกครอง โดยมีรัฐสมาชิกสหประชาชาติอื่นอีก 20 ประเทศเสนอความช่วยเหลือ หลังประสบความสูญเสียอย่างหนักในช่วงสองเดือนแรก ฝ่ายตั้งรับถูกผลักดันกลับไปยังพื้นที่เล็ก ๆ ทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งมีชื่อว่า วงรอบปูซาน จากนั้น การรุกโต้ตอบอย่างรวดเร็วของสหประชาชาติได้ขับทหารเกาหลีเหนือผ่านเส้นขนานที่ 38 ขึ้นไปเกือบถึงแม่น้ำยาลู เมื่อสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าสู่สงครามโดยอยู่ฝ่ายเดียวกับเกาหลีเหนือ[24] การเข้าแทรกแซงของจีนบีบให้กองกำลังเกาหลีใต้และพันธมิตรถอยกลับไปใต้เส้นขนานที่ 38 อีกครั้ง แม้สหภาพโซเวียตจะมิได้ส่งทหารเข้าร่วมในความขัดแย้งโดยตรง แต่ก็ให้ความช่วยเหลือด้านยุทธปัจจัยแก่ทั้งกองทัพเกาหลีเหนือและจีน การสู้รบยุติลงเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 1953 เมื่อมีการลงนามในความตกลงการสงบศึกความตกลงดังกล่าวฟื้นฟูพรมแดนระหว่างประเทศใกล้กับเส้นขนานที่ 38 และสถาปนาเขตปลอดทหารเกาหลี แนวกันชนที่มีการป้องกันกว้าง 4.0 กิโลเมตร ระหว่างสองชาติเกาหลี อุบัติการณ์ขนาดย่อมยังคงดำเนินต่อมาตราบจนปัจจุบัน
จากมุมมองวิทยาศาสตร์การทหาร สงครามเกาหลีเป็นการรวมยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามโลกครั้งที่สองเข้าด้วยกัน โดยเริ่มต้นจากการสงครามเคลื่อนที่ด้วยการเข้าตีของทหารราบอย่างรวดเร็ว ตามด้วยการตีโฉบฉวยทิ้งระเบิดทางอากาศ แต่กลายเป็นสงครามสนามเพลาะที่อยู่นิ่งเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม 1951