เรือผู้แสวงบุญล่มอยุธยาพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 15 ราย ประดาน้ำเร่งค้นหาผู้สูญหาย-แจ้ง 2 ข้อหาคนขับเรือ

คืบหน้าอุบัติเหตุเรือผู้แสวงบุญชาวมุสลิมล่มหน้าวัดสนามไชยจ.พระนครศรี อยุธยา ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 15 ศพและสูญหายอีกกว่า 10 คน บาดเจ็บ 46 คน เจ้าหน้าที่ประดาน้ำเร่งค้นหาผู้สูญหายต่อเนื่อง เผยคนขับหักหลบเรือที่วิ่งสวนทางพุ่งชนแพท่าน้ำหน้าวัดก่อนจมลงอย่างรวดเร็ว จ่อแจ้ง 2 ข้อหาคนขับเรือ

ความคืบหน้าเหตุการณ์เรือโดยสารขนาดใหญ่ 2 ชั้น ที่บรรทุกประชาชนชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปร่วมงานประจำปีของชาวมุสลิมที่ มัสยิดตะเกี่ย ตำบลคลองตะเคียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้อัปปางกลางแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าวัดสนามไชย เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 18 ก.ย.59 ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2559 นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเรืออัปปางอยู่ที่ 15 คน จำนวนผู้บาดเจ็บ 46 คน ในจำนวนนี้มีอาการสาหัสรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 15 คน และยังมีการแจ้งสูญหายอีก 10 คน เมื่อเวลา 07.30 น.19 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดสนามไชย จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ช่วงวันนี้ชุดประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญูระดมกำลังกว่า 20 นาย ลงเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ ตระเวนไปห่างจากตัวจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร จากนั้นดำน้ำลงค้นหาผู้สูญหายจากเหตุสลดดังกล่าวนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ไร้วี่แวว มีเพียงเศษกิ่งไม้ โดยมีญาติพี่น้อง ผู้สูญหาย ตลอดจนชาวบ้านต่างพาลุ้นระทึกและส่งแรงใจให้เจ้าหน้าที่ค้นหาบุคคลที่ญาติ แจ้งหาย

ขณะที่ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว นายวิรัตน์ ชัยศิริกุล อายุ 67 ปี คนขับเรือได้แล้วและนำตัวไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพระนครศรีอยุธยา เบื้องต้น นายวิรัตน์ ให้การว่า เมื่อขับเรือมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง ซึ่งมีกระแสน้ำไหลแรง มีเรือบรรทุกสินค้าวิ่งสวนทางพุ่งเข้ามา ตนจึงพยายามจะหลบกระแสน้ำไหล ทำให้บังคับเรือไม่ได้พุ่งเขาชนแพท่าน้ำจนเรือจมลง

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเอกสารเรื่องการประกันภัยพบว่าในวงประกันจะรับผิดชอบผู้โดยสาร 50 คน แต่ผู้โดยสารที่โดยสารมากับเรือลำนี้มีมากกว่า 100 กว่าคน จากการสอบสวนนายวิรัตน์ให้การอีกด้วยว่าภายในเรือมีเสื้อชูชีพ 200 ตัว ส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะไม่สวมเสื้อชูชีพ หลังเกิดเหตุผู้โดยสารบางส่วนก็ไปหยิบเสื้อมาใส่ บางส่วนก็ใส่ไม่ทัน สำหรับนายวิรัตน์ขับเรือมานานกว่า 30 ปี โดยจะมาขับเรือที่ จ.พระนครศรีอยุธยาปีละครั้ง

อย่างไรก็ตามจะต้องสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และที่ อยู่ในที่เกิดเหตุอีกครั้งก่อนสรุปสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเรือล่มครั้งนี้ ว่าเกิดจากสาเหตุใด สำหรับเบื้องต้นนายวิรัตน์ อาจถูกแจ้งข้อหา 1.กระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.กระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและ3.ขับเรือบรรทุกน้ำหนักเกิน 

สำหรับการกู้เรือ เจ้าหน้าที่จะพยายามกู้ให้ได้ช่วงเช้าวันนี้ โดยรอเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าประสานมา เนื่องจากเกรงว่าหลังจากนี้ไปอีก กระแสน้ำจะยิ่งแรงมากขึ้นและจะยิ่งเป็นอุปสรรคในการกู้เรือ ขณะที่ด้านหน้าวัดสนามไชยมีการตั้งเต็นท์ติดประกาศรายชื่อผู้เสียชีวิตและ สูญหาย โดยยังมีญาติทยอยมาติดตามการกู้เรือและค้นหาผู้สูญหาย

รายงานแจ้งอีกว่า เหตุการณ์เรือล่มครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อ 5-6 ปีก่อนได้เกิดเหตุการณ์ในการทำพิธีดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการบรรทุกเกินขนาด ซึ่งครั้งนี้ก็คาดว่าจะมาจากปัจจัยเดียวกัน

ปลัด มท.เยี่ยมคนเจ็บเหตุเรือล่ม เผยนายกฯ ห่วงใยทุกคน

นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยจากเหตุเรือล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดสนามไชย ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติที่ไปเฝ้าให้กำลังใจที่โรง พยาบาลพระนครศรีอยุธยา พร้อมนำความห่วงใยของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปบอกกับผู้ประสบเหตุด้วย

ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตทุกคนจะได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้น จาก พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัด รายละ 2,000 บาท และจากเหล่ากาชาดจังหวัดรายละ 3,000 บาท โดยปลัดจังหวัด พร้อมนายอำเภอพระนครศรีอยุธยายาและคณะกรรมการเหล่ากาชาด ได้นำเงินไปมอบให้ในวันนี้ (19ก.ย.)