หมอมาร์เซล์ ปดีต คนเลวโลกสาปส่ง คูหามรณะ
โพสท์โดย SpiderMeaw
"ด้วยปฏิญาณแห่งข้า ข้าขอสาบานจะนับถือบูชาอาจารย์ดุจบิดามารดาอันเป็นที่รักของข้า
ข้าจะปฏิบัติต่อผู้ป่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ จักดูแลรักษาพวกเขาเต็มความสามารถเท่าที่จะทำได้
ข้าจักไม่ให้โอสถอันเป็นพิษแก่ใคร ๆ แม้จะได้รับการเรียกร้องขอก็ตาม ความลับของผู้ป่วย
ที่ข้าไปรู้เห็นข้าจะรักษามันไว้ด้วยชีวิต ด้วยสัจจะนี้ ขอให้ข้าจงประสบแต่ความสุขความเจริญ
ในชีวิตข้าตลอดไป..................."
คำปฏิญาณการเป็นแพทย์ของฮิบโปเครติสบิดาแห่งแพทย์ศาสตร์ ดังไปทั่วสถานที่รับปริญญาบัตร
แพทย์ศาสตร์ บางคนต่างร่ำไห้ที่สำเร็จการศึกษา เพื่อที่จะใช้วิชานั้นสร้างประโยชน์แก่สังคม โดยไม่เห็นแก่ได้
ยกเว้น คน ๆ คนหนึ่ง เขาไม่กล่าวคำสาบานของบิดาการแพทย์เลย กลับนั่งตรงมุม หัวเราะเงียบ ๆ
กับคำสาบานของบิดาการแพทย์ผู้นั้น เพราะในหัวของเขามีแต่เรื่องฆ่า กับฆ่า และกำไรและกำไร
หมอมาร์เซล์ อดีต หมอชาวฝรั่งเศส ที่ต่อมาเขาได้ใช้ประโยชน์สงครามโลกครั้งที่สองเป็นเครื่องมือ
ฆ่าคนเพียงเพื่อฆ่าชิงทรัพย์เท่านั้น ผลคือ ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อของหมอ 63 ชีวิต
ตายอย่างสยดสยองในคูหามรณะที่เขาสร้างขึ้น
ชื่อและความชั่วของเขาโด่งดังไปทั่วโลกเทียบชั้นหมอดีที่ทำคุณประโยชน์บางคนเสียอีก
เรามาทำความรู้จักกับฆาตกรคนนี้กันเถอะ
หมอปีศาจ
ชีวิตวัยเด็กของหมอมาร์เซล์ไม่มีใครทราบมากนัก รู้เพียงแต่ว่าเขาเกิดที่เมืองโอแซร์ ประเทศฝรั่งเศส
เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงมักพูดตรงกันว่าเขามีนิสัยซาดิสม์มาตั้งแต่เด็ก ชอบกระทำทารุณแก่แก่สัตว์
หรือเด็กที่เล็กกว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาผ่าตัดเพื่อศึกษาว่าตัดส่วนไหนให้สัตว์พิการโดยไม่ตาย
เมื่อความสนุกกับการทรมานสัตว์นาน ๆ เข้า มาร์เซล์เริ่มมีความรู้สึกอยากเป็นหมอ เพราะเขาเริ่มสนใจ
ร่างกายมนุษย์ และเป็นอาชีพที่ทำมาหากินง่ายกว่าอาชีพอื่น ๆ
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มาร์เซล์ได้ไปทำงานที่หน่วยพยาบาลผู้บาดเจ็บที่เมืองดีชอง
ระหว่างนั้นเขามักขโมยเอามอร์ฟีนไปขายแก่พวกขี้ยาเสมอ ที่นี้เอง มาร์เซล์เขาได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง
เห็นคนเจ็บคนตายที่ร้องขอชีวิต การฉีดยาพิษเข้าเส้นประสาทแก่คนใกล้ตายเพื่อให้ตายอย่างสงบ
เลือด ความตาย มาร์เซล์เริ่มหลงใหลกับชีวิตนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น
หลังจากนั้นเขาได้ไปศึกษาวิชาการแพทย์ จนสำเร็จในปี 1921 หมอมาร์เซล์เรียกใบอนุญาต
การเป็นหมอว่า "เครื่องมือสร้างเงิน"
ต่อมา หมอมาร์เซล์มาตั้งร้านทำมาหากินที่เมืองวิลเนิฟ ซูร์ ยอนน์ เขามักพูดเรื่องคำสาบาน
ของปรมาจารย์ฮิปโปคราติสกับเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อย ๆ ว่า
"คำสาบานของไอ้แก่ ฮิปโปคราติสหรือ ฉันไม่สนหรอก ฉันสนเงินมากกว่า ฉันอยากได้เงิน
อยากได้เพื่อบำเรอความสุขของฉัน และตอนนี้ฉันมีวิธีหาเงินกว่าร้อยกว่าวิธีแล้วล่ะ"
หมอมาร์เซล์เริ่มทำงานทางด้านนี้ ครั้งแรกเมื่อรักษาคนรวยจะเก็บค่ายา ค่ารักษาราคาแพง
ส่วนคนจนเขาจะรักษาฟรี โดยเหตุนี้บรรดาชาวบ้านต่างตะหนักว่าหมอมาร์เซล์ได้พึ่งพาได้ตามต้องการ
นอกจากนั้นหมอมาร์เซล์ยังมีอาชีพเสริมอีกคือ การขายยาเสพย์ติด และการทำแท้งเถื่อนของหญิงสาว!
เรื่องน่ากลัวเริ่มเกิดขึ้นแล้ว
ข่าวการสูญหายของหญิงสาวสวย ที่กำลังตั้งท้องหลายรายเริ่มเกิดขึ้น พร้อมกับเพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียง
ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดในบ้านของคุณหมอใจดีผู้คนนั้น แต่อย่างมากข่าวลือนี้ชาวบ้าน
แค่ซุบซิบกันเล่น ๆ เท่านั้น เพราะเวลานั้นหมอมาร์เซล์เป็นที่นับถือของคนในหมู่บ้านมาก
ถึงขั้นขนาดแต่งตั้งหมอมาร์เซล์เป็นนายกเทศมนตรีที่เดียว
ปี 1930 คนไข้คนหนึ่งของหมอซึ่งเป็นเจ้าของร้านในระแวกนั้นถูกฆ่าและปล้นทรัพย์ มีคนพบเห็น
หมอป้วนเปี้ยนสถานที่ที่เกิดเหตุก่อนที่เจ้าของร้านถูกฆ่า นอกจากนี้ก็มีเหตุการณ์คนไข้ที่เป็นโรคไขข้อ
ของหมอตายอย่างฉับพลัน อย่างมีเงื่อนงำหลายราย แต่หมอดันออกใบมรณะบัตรว่า "ตายอย่างปกติ"
สร้างความขุ่นเคืองต่อชาวบ้านมาก จนมีข่าวลือที่เสียหายตามมาเป็นระลอก
ชีวิตของหมอในเมืองเนิฟฟ ซูร์ ยอนน์ ชักจะร้อนระอุเสียแล้ว ขืนปลอยไว้นานจะไม่เป็นผลดีเสียแล้ว
เมื่อหมอมาร์เซล์คตคิดได้ดังนั้น จึงเก็บข้าวของหนี และอพยพไปอยู่กรุงปารีสก่อนที่เรื่องจะบานปลายมากกว่านี้
ที่นั้นเองคือจุดเริ่มต้นของคูหามรณะ เมื่อหมอมาถึงเมืองปารีส ก็เริ่มอาชีพทำมาหากินทันที่
ร้านหมอหมายเลข 60 ถนนโคมาร์แตง แหล่งที่ คึกคัก หรูหราที่สุดในเมือง หมอเริ่มขายยาเสพติด
แก่พวกติดยาในราคาถูก ๆ การรับจ้างทำแท้งเถื่อนแก่ผู้ไม่ปรารถนาจะมีบุตร คือวิธีที่หมอคนนี้ถนัด
จนในไม่ช้าลูกค้าที่จงรักภักดีเยอะแยะ หลายคนมักเห็นเขาว่าเขาเป็นสามีที่ดี เป็นคนเคร่งศาสนา
ไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ มีลักษณะของพลเมืองดีไว้อย่างครบถ้วน
แต่นี้เป็นแค่หน้ากากภายนอกเท่านั้น ส่วนในจิตใจหมอมาร์เซล์กำลังหาโอกาส โอกาสที่จะทำกำไร
เข้ากระเป๋าของตนอย่างมหาศาล ขอแค่โอกาสเท่านั้น
คูหามรณะ
และวันนั้นก็มาถึง ปี 1940 เป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพนาซีได้ยาตราเข้ามาในกรุงปารีส
อย่างง่ายดาย เพราะฝรั่งเศสขอยอมแพ้โดยไม่ขัดขื่น หลายคนที่ชอบประวัติสาเหตุโลก และชอบ
สงครามโลกครั้งที่ 2 คงทราบว่าฮิตเลอร์ผู้นำนาซีและเยอรมันนั่นเป็นคนที่รังเกียจชาวยิวอย่างยิ่ง
เขาคิดหลากหลายวิธีที่จะกำจัดชาวยิวออกไปจากโลก และได้ให้คำสั่งที่น่ากลัวแก่เหล่าทหารนาซี
ของเขาว่า
"จงกำลังชาวยิวที่พบเห็นให้หมด"
นี้เองที่ทำให้นาซีได้แต่งตั้งตำรวจลับเกสตาโปขึ้นในฝรั่งเศส หน้าที่ของตำรวจลับคือสืบเสาะ
และสังหารผู้ต่อต้านนาซี จับกุมผู้ที่คาดว่าเป็นชาวยิวในฝรั่งเศสให้หมดเพื่อส่งไปค่ายมรณะ
หรือไม่ก็ค่ายกักกันและใช้แรงงานหนักจนตาย พวกชาวยิวที่อยู่นครหลวงในฝรั่งเศสค่อย ๆ หายสาบสูญ
บางคนไม่รู้ว่าญาติของตนหายแล้วไปอยู่ที่ค่ายมรณะ บางคนเตรียมที่จะหนีไปนอกประเทศ
แต่ไม่มีโอกาสทั้ง ๆ ที่มีเงินมาก
สถานการณ์นี้แหละที่เข้าทางความคิดของหมออย่างยิ่ง ที่จะสร้างกำไรเข้ากระเป๋า
และความปรารถนาที่จะปลดปล่อยสันดานซาดิสม์ในวัยเด็กของเขาได้ซักที
หมอมาร์เซล์ซื้อคฤหาสน์ร้างแห่งหนึ่ง หมายเลข 21 ถนนเลอเซอร์ ราคาครึ่งล้านฟรัค์ แล้วก็ตกแต่ง
เสียใหม่ให้เหมาะต่อการปฏิบัติการโหดของเขา ห้องที่เก็บเสียงที่มิดชิด หน้าต่างที่ถูกปูนโบกปิดสนิท
ยกเว้นประตูบานเดียวทุกห้อง และทุกห้องถูกเจาะรูถ้ำมองเอาไว้ มีครั้งหนึ่งช่างเกิดสงสัยจะถามหมอว่า
ทำไปทำไม หมอบอกสั้น ๆ ว่าเพื่อสังเกตคนไข้โรคจิต และส่วนที่เป็นที่ ลับสุดยอดของคฤหาสน์ร้าง
แห่งนี้คือ เตาเผาขนาดยักษ์หนึ่งเตาในห้องใต้ดิน
คริสต์มาสปี 1941 ทุกสิ่งทุกอย่างก็พร้อม พร้อมสำหรับทำอะไร?
หมอมาร์เชล์เริ่มแพร่ประกาศข่าวออกไป ว่าเขาสามารถติดต่อพวกใต้ดินฝรั่งเศส สามารถแอบพาคน
ที่เกสตาโปกำลังล่าตัวอยู่หนีไปยังสเปนหรือคิวบาได้ พวกที่คิดหนีสามารถติดต่อได้ แต่มีข้อแม้คือ
ต้องใช้เงินสำหรับเตรียมการหนีมากหน่อย และต้องฉีดยาป้องกันโรคก่อนที่จะเข้าไปประเทศที่ลี้ภัยได้
พวกชาวยิวและพวกต่อต้านที่กำลังขวัญเสียได้ยินข่าวนี้ก็ยอมทันที ขายข้าวของทรัพย์สมบัติ
เพื่อให้ตัวเขากับครอบครัวหนีออกไปประเทศฝรั่งเศส ทุกคนต่างไปคฤหาสน์ร้างนั้น
แต่ไม่มีใครสักคนที่รอดชีวิตออกมา
เกิดขึ้นอะไรในนั้น?
ครั้งแรกเมื่อเหยื่อมาถึงหมอให้ถลกแขนฉีดยาซึ่งความจริงแล้วคือยาพิษ แต่ฤทธิ์ของมันออกช้ามาก
ก่อนเวลามาถึง หมอก็ให้เหยื่อพักที่ห้องเก็บเสียงก่อน จากนั้นปิดล็อกและหมอก็ถ้ำมองที่รูที่เจาะไว้
รอจนกว่ายาออกฤทธิ์ เหยื่อชักกระตุก น้ำลายฟูมปาก หน้าเขียว เมื่อเหยื่อตายแล้ว ก็ลากเอาศพ
ลงไปยังห้องใต้ดิน เอามาลงแช่ในน้ำปูนขาวที่ซื้อมอริสน้องชายแท้ ๆ ที่เมืองโอแชร์ส่งมาให้
เสร็จแล้วก็ยัดศพเข้าเตาเผา สุดท้ายก็ตรวจดูทรัพย์สินที่เหยื่อทิ้งไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นแก้วแหวนเงินทอง
ทรัพย์สินต่าง ๆ มาลงบัญชีรายละเอียดไว้เป็นราย ๆ ไป
เขารู้สึกมีความสุขมากที่นับเงินนั้น แม้มีข่าวไม่ดีว่าไม่มีใครออกจากคฤหาสน์ร้างนั้น แต่ลูกค้า
ก็ยังแห่เข้าคิวหาหมอมากยิ่งขึ้น ทั้งชาวยิวเล็ดรอดจากเกสตาโป ครอบครัวมั่งคั่งที่กลัวพวกนาซี
ยึดทรัพย์ก็ดี หรือแม้แต่เพื่อนหมอที่อยากหนีจากฝรั่งเศส แต่ทั้งหมดนี้เมื่อเข้าคฤหาสน์นั้นแล้ว
ไม่มีใครรอดกลับออกมาอีกเลยนับแต่นั้น
เป็นเวลาถึง 18 เดือน หมอมาร์เซล์ชักรู้สึกกระฉับกระฉายเพราะเหยื่อไม่มาหาถึงที่สักที
หมอจึงแก้ปัญหาวิธีนี้โดยเอาคนไข้ถนนโคมาร์แตงมาสังหารที่คฤหาสน์เสียเลย ไม่มีใครสงสัยหรอก
เพราะทุกคนกำลังหวาดกลัวสงครามโลกอยู่ โดยที่ภรรยาไม่สงสัยหมอแม้แต่น้อยว่าทำไม
ต้องเอาคนไข้ไปรักษาถึงคฤหาสน์นั้นให้ยุ่งยากด้วย
ปลายเดือนฤดูใบไม้ผลิ ปี 1943 ปฏิบัติการโหดของหมอมีอาการสะดุด เพราะพวกเกสตาโปงเริ่มงง
สงสัยมานานแล้วว่าพวกชาวยิวที่ตนกำลังควานหาตัวอยู่นานนั้นหายไปไหนกันหมด
เมื่อสืบไปสืบมาจึงรู้ว่าพวกนี้ล้วนแต่มีสายโยงมาถึงหมอ และเริ่มสงสัยหมอว่าเป็นสาย
พวกใต้ดินฝรั่งเศสลักลอบพาคนหนี
เมื่อคิดได้ดังนั้นนั้นจึงส่งเกสตาโปคนหนึ่งไปสืบ โดยแกล้งทำเป็นพวกหนีออกนอกประเทศ
เพื่อจับให้ได้คาหนังคาเขา แต่กลับถูกหมอฆ่าไปเสียนี่ มันเป็นหลักฐานที่ได้มาด้วยชีวิต
พวกนาซีเมื่อรู้ว่าพวกตนไม่กลับมาจึงรีบตะครุบตัวหมอ จับขังไว้หลายเดือน
จนกระทั้งถูกปล่อยตัวเมื่อต้นปี 1944 เพราะหมอแก้ตัวว่าที่ทำไปเพื่อวัตถุประสงค์กำจัดชาวยิว
และพวกต่อต้านนาซี พวกนาซีได้ฟังดังนั้นก็ชอบใจ มันตรงความสมประสงค์ของพวกเขา
และต่างพากันเอาหู เอาตาไปไร่ เพราะเมื่อเขากลับเขาก็เริ่มกิจกรรมกับโรงงานฆ่าคนอย่างที่เคย
แต่มาคราวนี้ไม่มีโอกาสที่เอาศพมาแช่ปูนขาวก่อนเผาอีกแล้ว เพราะระหว่างที่หมอมาร์เซล์
ถูกจับตัวไป มอริสน้องชายได้มาเยี่ยมที่ปารีสและพบกับความลับในคฤหาสน์ที่ถนนเลอเซอร์เข้า
จึงรู้ทันทีว่าพี่ชายซื้อปูนขาวจำนวนมากมายไปทำอะไร
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการส่งปูนขาวให้อีก การเผาศพโดยไม่แช่ปูนขาว
จะทำให้เกิดควันไฟพลุ่งจากปล่องและส่งกลิ่นเหม็นมากขึ้น ทำให้บริเวณบ้านใกล้เรือนเคียง
ต่างทนไม่ไหวกับกลิ่นนี้ แต่ตอนนั้นยังไม่มีใครติดใจสงสัยว่าหมอกำลังเผาอะไรในคฤหาสน์หลังนั้น
จนกระทั้ง…………………..
ความลับเปิดเผย
11 มีนาคม 1944 เจ้าของบ้านเลขที่ 20 ถนนสายเดียวกัน ได้พาและกองดับเพลิงจำนวนมาก
มาคฤหาสน์หลังนั้น เพราะสงสัยว่าควันนั้นอาจเกิดจากไฟไหม้ พอดีหมอมาร์เซล์ไม่อยู่บ้าน
ตำรวจและกองดับเพลิงไม่มีเวลาไปตามตัวหมอ เพราะไฟอาจลามไปข้างเคียงได้ จึงได้บุกเข้าไป
พบว่าต้นเพลิงอยู่ชั้นใต้ดิน พบเตาเผาที่กำลังลุกไหม้ และสิ่งที่สยดสยองที่ไม่เคยพบในโลกนี้
ซากศพที่ถูกตัดเป็นท่อน ๆ ที่เกลื่อนกลาดราวกับขยะ นับคล่าว ๆ ได้ประมาณ 27 ศพ
มีทั้งเพศชาย หญิง คนแก่ และเด็ก ทุกศพถูกหัน ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ไม่ว่าจะเป็น ศีรษะ ลำตัว
แขนขา หมอมาร์เซล์ได้ยินข่าวก็รีบมาที่ คฤหาสน์ทันที
"เอ้อ………….คือว่าศพทั้งหมดนี้เป็นพวกทรยศชาติกับทหารนาซี ผมจำเป็นต้องสังหารน่ะครับ"
หมอแก้ตัวอย่างนั้น
น่าแปลกที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เชื่อคำแก้ตัวของหมอ เนื่องจากบุคลิกที่น่าเชื่อถือของหมอเอง
หรือช่วงนี้ใกล้จะยุติสงครามโลกครั้งที่สองแล้วเพราะฝ่ายสัมพันธมิตรใกล้จะปลดปล่อยฝรั่งเศส
จากเยอรมันเร็ว ๆ นี้ จึงไม่ใส่ใจอะไรกับคดีมากนัก และวันนั้นเองตำรวจก็กลับไปโดยไม่มีการ
จับกุมตัวหมอใด ๆ ทั้งสิ้น
หมอมาร์เซล์รู้ตัวดีว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องปิดฉากคูหามรณะเสียที่ เขารีบเก็บของแล้วเผ่นไปจากปารีส
ไปหลบซ่อนในบ้านนอก ในขณะเดียวกันตำรวจดันไปเจอกองมหาสมบัติและบัญชีรายชื่อคนเข้า
ห้องมรณะจำนวนกว่า 63 คน เมื่อตำรวจสอบประวัติผู้ตายแล้วไม่พบคนทรยศชาติสักคน
แต่ก็สายไปแล้ว หมอมาร์เซล์หลบหนีออกจากปารีสและไม่พบข่าวคราวอีกเลย ตำรวจทำได้แค่
ลงหน้าและเรื่องราวของหมอมาร์เซล์ไว้ในหนังสือพิมพ์แจกจ่ายไปทั่วปารีสเท่านั้น
จุดจบ
วันนี้เป็นวันเฉลิมชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สอง ตามถนนชองป์ เอลิเซ นำโดยขบวนกองทัพ
ของนายพลเดอโกลด์ มีชายคนหนึ่งเขาไว้หนวดไว้เครา มีเหรียญตราเก๊ๆมาประดับที่หน้าอก
เดินร่วมกับเขา "นั้นหมอมารืเซล์ ปดีต นี้" ตำรวจที่ต้องการตัวหมออย่างหนักจำเขาได้
และหมอมาร์เซล์ก็ถูกจับในวันนั้นเอง
เมื่อชีวิตของผู้คนกลับคืนสู่ปรกติหลังจากการปลดปล่อยแล้ว ตำรวจได้สะสางคดีหมอมาร์เซล์ใหม่
หมอยืนยันเขาสังหารเฉพาะคนทรยศชาติและนั้น คำตลอด 18 เดือนที่ถูกศาลชัก แต่คราวนี้
คณะลูกขุนไม่โง่เหมือนพวกตำรวจ หลักฐานต่าง ๆ เช่น หีบห่อเสื้อหากว่า 1500 ชุด
ห้องในคฤหาสน์มรณะ บัญชีรายชื่อเหยื่อ และเงินที่จดบันทึกเป็นหลักฐานที่หมอดิ้นไม่หยุด
ตอนที่ศาลอ่านคำพิพากษา ณะนั้นคนอื่นเข้าร่วมส่งเสียกันระเบ็งเซ็งแซ่จนจำเลยแทบ
ไม่ได้ยินคำตัดสิน จนต้องถามคนข้างเคียงว่าตนมีความผิดหรือไม่
"นายถูกตัดสินประหารชีวิตน่ะ" คนข้างเคียงบอก
หมอมาร์เซล์มีได้ยินว่าถูกลงโทษประหาร ก็แหกปากร้อง
"กูจะแก้แค้น"
เรื่องตลกที่ตลกไม่ออก
เช้าตรู่ 26 พฤษภาคม 1946 ขณะที่หมอมาร์เซล์กำลังเดินเข้าไปสู่กิโยตินเพื่อประหารชีวิตนั้น
หมอมาร์เซล์ได้ขอร้องคนข้างเคียงเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตว่า
"ขอปัสสาวะหน่อยน่ะ"
คนข้างเคียงตอบกลับไปว่า
"แล้วที่ลูกค้าที่นายสังหารทั้ง 63 คนน่ะ พวกเขาได้รับความปรานีจากนายสักคนหรือเปล่าล่ะ"
หมอมาร์เซล์ไม่ตอบคำถามนี้ คอตก ยอมรับความตายที่อยู่ข้างหน้า
หมอมาร์เซลล์ถูกกิโยตินปั่นหัวออกจากร่างในเช้าตรู่ ตายทั้ง ๆ ที่ปวดฉี่อยู่
"ด้วยปฏิญาณแห่งข้า ข้าขอสาบานจะนับถือบูชาอาจารย์ดุจบิดามารดาอันเป็นที่............"
คำปฏิญาณการเป็นแพทย์ของฮิบโปเครติสบิดาแห่งแพทย์ศาสตร์ยังดังไปทั่วสถานที่รับปริญญาบัตร
แพทย์ศาสตร์ทั่วโลก แต่เชื่อเลยว่าปีศาจในร่างของหมอนอกจากหมอมาร์เซล์ยังเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย
และความโหดเหี้ยมที่ตามมาอย่างซ่อนเงื่อนและฉลาดกว่าเดิม ตราบใดที่มนุษย์ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง
อยู่อย่างไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดไป................
ข้อมูลจาก ต่วนตูนพิเศษ ฉบับปีที่ 317 เดือนกรกฎาคม 2544
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: Varg Vikernes, เวลาไม่ช่วยอะไร
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พบฝูงหมาในในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีขนสีชมพูอย่างน้อย 4 ตัว เร่งทำการศึกษาวิจัยพฤติกรรมแปลกประหลาด ของการรับประทานอาหารในสมัยโรมันโบราณรีวิวหนังสือ ถ้าสอนงานแบบนี้ ฉันก็เก่งไปนานแล้วรถบัสสะเทินน้ำสะเทินบก "AmphiCoach GTS-1" เดินทางได้ทั้งบนบก และในน้ำ อย่างเท่ห์เลยนะเนี่ยฮือฮา! ปลาโรนินยักษ์ 2 เมตร เกยตื้นหาดบ่อนนท์ อ.ท่าศาลา เมืองคอนปรากฏการณ์มหัศจรรย์ : ดอกลิลลี่บานสะพรั่งกลางทะเลทรายนามิเบียสำนักพุทธงานเข้า พระ 2 วัด จีวรบิน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมนัวกันลืมผ้าเหลืองมิติใหม่ของการเชิญชวนเข้าวัดทำบุญ..Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เฟมัสไม่ไหว!! หมูเเดง ฮาจิโกะโคราช ได้ออกรายการทีวีญี่ปุ่นฮือฮา! ปลาโรนินยักษ์ 2 เมตร เกยตื้นหาดบ่อนนท์ อ.ท่าศาลา เมืองคอนเปิดสายรถเมล์ ที่วิ่งให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ต้นสาย-ปลายทาง จากไหนถึงไหน ไปดูกันหนุ่มขับมอเตอร์ไซค์ยกล้อเกิดอุบัติเหตุล้มบนท้องถนน ชาวเน็ตในออนไลน์อดขำไม่ได้รีวิวหนังสือ ถ้าสอนงานแบบนี้ ฉันก็เก่งไปนานแล้วกระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ชายรีบอาบน้ำจะไปงานศพ แต่เป็นศพซะเอง เพราะโดนไฟช็อต ดับสลดคาห้องน้ำสื่อของประเทศเพื่อนบ้าน บอกไทยสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะอินเตอร์เน็ตและไฟฟ้ามาจากไทยทรัมป์ยกเลิกการทำงานทางไกล สั่งพนักงานรัฐบาลกลางกลับเข้าออฟฟิศ 5 วันต่อสัปดาห์ แถมไม่คุ้มครองการจ้างงานเจ้าจ๊อด หมาอเมริกัน บูลลี พ้นมลทินแล้ว หลังเกือบตกเป็นจำเลยสังคม กรณีพระมรณภาพในกุฏิ โดยได้เจ้าของใหม่ใจดี