10 อันดับเสียงต่างๆที่น่าเหลือเชื่อซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วถูกบันทึกเสียงเอาไว้

นี่คือ 10 อันดับเสียงต่างๆที่น่าเหลือเชื่อซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วถูกบันทึกเสียงเอาไว้ โดยบางเสียงก็เป็นเสียงของ
บุคคลสำคัญต่อเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่หาฟังได้ยากมาก และบางเสียงก็มีความแปลกและน่าพิศวง
ชวนขนหัวลุกอยู่ไม่น้อย ซึ่งยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม


10. Bloop



บลุป เป็นชื่อเรียกของเสียงความถี่ต่ำมากใต้มหาสมุทรซึ่ง องค์การสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (National Oceanic and
Atmospheric Administration) ของสหรัฐอเมริกาสามารถตรวจจับได้ในช่วงฤดูร้อนของ 1997

ที่มาของบลุปนั้นสามารถระบุได้ว่าเป็นบริเวณ 50°S 100°W / 50°S 100°W / -50; -100 (ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้
ของทวีปอเมริกาใต้) ในมหาสมุทรแปซิฟิก บริเวณเส้นศูนย์สูตร ซึ่งใช้ระบบฟังเสียงใต้น้ำของนาวิกโยธินอเมริกาที่เดิม
ใช้ตรวจหาเรือดำน้ำ ของสหภาพโซเวียต สามารถจับเสียงของบลุปได้หลายครั้ง NOAA ได้บรรยายว่าบลุปนั้นมีความถี่
สูงขึ้นเรื่อยๆเป็นเวลากว่าหนึ่งนาที และเป็นเสียงดังในบริเวณกว้างพอที่เซนเซอร์จำนวนมากในระยะกว่า 5,000 กิโลเมตร
สามารถตรวจจับได้

นักวิทยาศาสตร์พยายามไขปริศนานี้โดยบอกว่า เสียงบลุปมีลักษณะเหมือนเสียงของสัตว์สิ่งมีชีวิต แต่ไม่มีสัตว์น้ำชนิดใด
ที่เรารู้จักซึ่งสามารถสร้างเสียงเช่นนี้ได้ ถ้าเสียงนี้มาจากสัตว์ มันต้องเป็นมีขนาดใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงินหลายเท่าตัว
และปัจจุบันต้นกำเนิดของบลุปยังเป็นปริศนา จากคลิปเสียของบลุปมาจากเว็บไซต์ของ NOAA เล่นด้วยความเร็ว 16 เท่า
ของเสียงดั้งเดิมเพื่อให้เราได้ยินชัดเจนขึ้น
 
 
 
9. Slow Down Unidentified Sound




เสียงยูเอฟโอแล่นช้าลง เป็นเสียงที่บันทึกไว้เมื่อ 19 พฤษภาคม 1997 ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก โดยจากการสหรัฐอเมริกาถ้าน่าแปลกคือการพบเสียงนี้ไม่ห่างจากจุดที่ตรวจพบเสียง Bloop มากนัก คือบริเวณ 15°S,115°W
จากการตรวจสอบเสียงลึกลับนี้ พบว่ามันมี ความถี่ต่ำ ยาวต่อเนื่องกันนานถึง 7 นาที

เสียงนี้ค่อยๆ ลดระดับความถี่ลงเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่เกิดเสียง จนเงียบหายไปในที่สุดหลายคนเชื่อว่าน่าจะเป็นเสียงของ
สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่ยืนยันความคิดนี้ เนื่องจากระยะเวลาเกิดเสียงต่อเนื่องถึง 7 นาที แต่ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตจริง
มันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน

นอกจากนี้หลายคนเชื่อว่ามันน่าเป็นยูเอฟโอ จานผีจากนอกโลก นอกจากนั้นยังมีทฤษฎีให้เชื่อว่าเสียงนี้น่าจะมาจากการเคลื่อนที่
ของน้ำแข็ง หลัง จากการตรวจพบเสียงลึกลับ "Slow Down" ครั้งนี้ ก็ไม่เคยมีการตรวจพบเสียงดังกล่าวอีกเลย
ทำให้เสียงลึกลับ "Slow Down" ยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ส่วนคลิปที่ให้ไว้เป็นเสียง "Slow Down"
ที่ถูกเร่งความเร็วขึ้น 16 เท่า เพื่อให้เราได้ยินชัดเจนขึ้น
 
 
 
8. Albert Einstein



คลิปเสียงนี้เป็นเสียงของนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกนาม อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เขาได้ประกาศและอธิบายสมการ
E=mc2 ซึ่งเป็นสูตรระเบิดปรมาณู เมื่อปี 1905 สมการ นี้แสดงความสัมพัทธ์ระหว่างมวลและพลังงาน
อธิบายได้ว่า เมื่อให้พลังงานกับมวลเพื่อให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น มวลนั้นก็จะมีค่าเพิ่มขึ้นด้วย

จากทฤษฎีนี้ทำให้นำสู่ผลที่ว่าไม่มีอะไรเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าแสง หลักการนี้จึงเป็นหลักการเบื้องต้นของ
"ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป" (theory of relativity)
 
 
 
7. Thomas Alva Edison



อันนี้เป็นเสียงแท้นานกว่า 129 กว่าปี ของยอดนักประดิษฐ์ โธมัส อัลวา เอดิสัน นักประดิษฐ์ผู้เปลี่ยนโลก
โดยเสียงนี้เป็นเสียงการบันทึกด้วยเสียงของเขา ที่เมืองเมนโลปาร์ค รัฐนิวเจอร์ซี่ สหรัฐอเมริกา โดยเป็นการ
บันทึกเสียงครั้งนี้ถือว่าเขาเป็นมนุษย์ที่คิดค้นวิธีการบันทึก เสียงได้สำเร็จใน 15 สิงหาคมปี 1877

การบันทึก เป็นการบันทึกลง กระบอกเสียง (Edison’s Cylinder) รูปทรงกลม ขณะนั้น แผ่นเสียงยังไม่มี
(เบอร์ไลเนอร์ ชาวเยอรมัน เป็นคนคิดแผ่นเสียงได้ โดยเอาหลักการของเอดิสันไปปรับปรุงใหม่) แต่กระนั้น
การบันทึกเสียงเก่าแก่ไม่ใช้ของโธมัส เอดิสัน เนื่องจากต่อมามีการค้นพบแผ่นบันทึกเสียงของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดนี้
ประดิษฐ์ขึ้นก่อนที่โทมัส เอดิสันจะประดิษฐ์เครื่องเล่นแผ่นเสียง (หีบเสียง phonograph) ได้ถูกค้นพบ
และทำให้ช่วยในงานวิจัยด้านเทคโนโลยีเสียงมากขึ้น

เสียงที่บันทึกได้เป็นเสียงร้องเพลงพื้นเมืองของฝรั่งเศสความยาว 10 วินาที มีชื่อเพลงว่า 'Au clair de la lune'
และถูกบันทึกเมื่อ วันที่ 9 เมษายน 1860 โดย Edouard-Léon Scott de Martinville นักประดิษฐ์ชาวปารีส
 
 
 
6. Theodore Robert 'Ted' Bundy




ธีโอดอร์ โรเบิร์ต 'เท็ด' บันดีเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกัน เกิดวันที่ 24 พฤศจิกายน 1946 ในระหว่างปี 1974 – 1978 เท่าที่ทางการพบ บันดีข่มขืนและฆาตกรรมหญิงสาวในรัฐ โคโลราโด, ฟลอริดา, ยูทาห์, วอชิงตัน, ออริกอน, ไอดาโฮ ไปทั้งสิ้น 36 ราย

บันดี เป็นผู้มีการศึกษาและเป็นคนมีเสน่ห์ เพื่อนๆและคนรู้จักจดจำเขาได้ในฐานะที่เขาเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดี
และพูดจาเก่ง บันดีถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า เสียชีวิตลงในวันที่ 24 มกราคม 1989
ก่อน ที่เขาจะตาย เขาได้สารภาพโดยเป็นการอัดเทป ว่ากันว่านี้เป็นการบันทึกเสียงฆาตกรโรคจิตที่ดีสุดคนหนึ่งโลก
เนื่องจากเทปนี้ไม่ได้ถูกตรวจสอบแต่ถูกนำไปเผยแพร่ไปทั่วโลก

ในเทปนั้นเท็ด บัดดี้ได้สารภาพพรรณาความโหดเหี้ยมของเขาทั้งหมด อ้างถึงการเผากระโหลดศีรษะหนึ่งในเหยื่อของเขา
 
 
 
5. Anneliese Michel



เสียงนี้ แนะนำให้ดูวีดีโอแล้วจะหลอนสุดๆ!!! อันเนลีส มิเชล เกิดในปี 1952 หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในแคว้นบาวาเรีย
ทางตอนใต้ของเยอรมนี นับถือศาสนาคริสต์คาทอลิก ( Catholic ) เมื่อ อายุ 16 จู่ๆ เธอก็มีอาการที่เรียกว่า ผีเข้า เด่นชัด และมีอาการยาวนานจนเธอเสียชีวิต โดยมีอาการพูดด้วย เป็นเสียงของ ปีศาจ และอาการแปลกๆ จนกระทั้งหมอผีเข้ามาปราบ จนเกิดเรื่องราวขึ้น

โดยคลิปเสียงนี้เป็นเสียงอันเนลีส มิเชลร้องโหยหวนเหมือนปีศาจ และมีเสียงหมอผีกำลังท่องมนต์ขับไล่ผีที่สิงตัวเธอออก
ทำให้เสียงและฉากเหล่านี้โด่งดังจนถูกนำไปสร้างภาพยนตร์ชื่อ The Exorcism of Emily Rose และเรื่อง Requiem นั้นเอง

 
 
 
4. Georgia Brown



เสียงนี้แสบแก้วหูมากๆ คันหูเลย!!! เป็นนักร้องผมแดงชาวบราซิล ที่ถูกบันทึกว่าเธอร้องเสียงสูงแหลมที่สุดเท่าที่มนุษย์จะมีได้ และได้รับการย่องยกว่าเธอเป็นนักร้องหญิงที่มีเสียงสูงที่สุดในโลก

โดยเธอร้องไล่เสียงจากโดเรมีฟาซอลไป8ครั้งโดยเสียงสูงขึ้นเรื่อยๆ และคลิปเสียงเป็นการบันทึกเสียงแหลม
ที่ร้องนานที่สุดจาก G2-G10
 
 
 
3. Florence Foster Jenkins



เธอถูกขนานนามว่าเป็นนักร้องที่เสียงแย่ที่สุดที่มีในประวัติศาสตร์(แต่ดัง) แต่กระนั้นก็ต้องนับถือเธอว่าเธอเป็นนักสู้
และเป็นแรงบันดาลใจให้เรารู้ซึ้งถึงคนที่ไม่มีพรสวรรค์แต่สามารถมาถึงจุดนี้ ได้นับว่าเก่งจริงๆ

ฟลอเรนซ์ เกิดวันที่ 19 กรกฏาคม ค.ศ.1868 ใน ครอบครัวที่ร่ำรวยใน ที่รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เธอหลงใหล
ในดนตรีและอยากเป็นนักร้องดังระดับโลก แต่กระนั้นเธอก็พบว่าเธอขาดพรสวรรค์ด้านตนตรีอย่างรุนแรง คือเธอร้องผิดจังหวะ
คร่อมจังหวะ ผิดคีย์ (มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอขอพ่อว่าอยากไปเรียนดนตรีที่ยุโรปเเต่ก็ถูกคัดค้าน)

เธอแต่งงานและหย่าในเวลาต่อมาเนื่องจากสาเหตุเพราะเธออยากเป็นนักร้องครั้ง เมื่อพ่อของเธอตาย เธอก็ได้รับมรดก
และเธอก็ใช้มรดกนั้นจ้างครูมาสอนวิชาร้องเพลง โดยเลือกเพลงยากๆของเหล่าคีตกวีมาร้อง เธอ ก็ได้จัดคอนเสิร์ตของเธอเอง
โดยวงดนตรีที่เล่นดนตรีเข้ากับเสียงของเธอเเละจ้างนักร้องมาร้องเพลงประคอง เสียงของเธอ การแสดงของเธอนั้น
มีคนชมน้อยมาก(เนื่องจากเธอเลือกผู้ชม!!) ซึ่งน้อยคนนักจะได้ฟังเสียงสดๆ ของเธอ เเถมเธอเเสดงปีละครั้ง….(อะไรจะปานนั้น)

ปี ค.ศ.1938 เธอก็ได้ออกอัลบั้มชุดเเรกเเละชุดเดียวคือ The Glory of the Human ปัจจุบันอัลบั้มชุดนี้เป็นของมีค่า
สำหรับนักสะสมการ เเสดงครั้งสุดท้ายของเธอได้เปิดการเเสดงที่คาร์เนกีฮอลล์(at Carnegie Hall.) ซึ่งเป็นความฝัน
ของนักร้องอเมริกันยุคนั้น เมื่อเธออายุได้ 76 ปี และเธอก็ตายเมื่อปี 1944 และเธอก็ตายแปลกด้วยเพราะตอนนั้นเธอ
กำลังเลือกแผ่นเสียงที่ร้านดนตรีบังเอิญ เธอได้ยินเสียงคนวิจารณ์การที่คาร์เนกีฮอลล์ ทำให้เธอเกิดอารมณ์และหัวใจวาย
และเสียชีวิตทันที
 
 
 
2. Big-Jonestown



วันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ.1978 เป็นวันที่ถูกบันทึกว่าเป็นเหตุการณ์ฆ่าตัวตายหมู่โดยเจตนามากที่สุดในโลก!!
โดยศาสดาจิมส์ โจนส์และสาวกร่วม 914 คน พากินยาพิษฆ่าตัวตายเพื่อสร้างสังคมยุคพระศรีอารีย์ในภพหน้า
(ยุคพระศรีอารีย์ตามความเชื่อของชาวพุทธ คือยุคพระพุทธเจ้าจุติเป็นชาติที่ 10 ซึ่งปัจจุบันเป็นชาติที่ 9)

เสียงนี้เป็นเสียงที่น่ากลัวที่สุด เพราะเป็นเสียงที่มีความยาวประมาณ 30-45 นาที ในพิธี"ไวท์ไนท์" คืนสุดท้าย
ในโจนส์ทาวน์ ที่กีอาน่าในอเมริกา ศาสดาคนนี้ได้กล่าวกำกับสาวกของเขาฆ่าตัวตายหมู่ โดยกำกับว่าให้วางยาพิษ
ไซนาไนด์กับเด็กของพวกเขาและตัวเอง คนที่ถึงคิวกล่าวคำอำลากับคนรู้จักแล้วดื่มยา และมีจุดหนึ่งเราจะได้ยินเสียง
ผู้หญิงและเด็กร้องในบันทึกนี้ด้วย

ส่วนศพของจิมส์ถูกพบบนแท่นเวที ที่ศีรษะด้านขวามีรอยกระสุน ไม่ทราบว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรมกันแน่
แต่ดูจากสถานการณ์โดยรวม คนส่วนใหญ่ต่างก็ลงความเห็นว่านี่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายมากกว่า และจนกระทั้งบัดนี้
ยังไม่อาจสรุปได้ว่า คนทั้ง 914 คน ยอมฆ่าตัวตายกี่คน และถูกบังคับกินยาพิษกี่คน?
 
 
 
1. Well to Hell hoax



และนี้คือเสียงที่เคยถูกบันทึกเอาไว้และน่าเหลือเชื่อชวนขนหัวลุก
หรืออีกชื่อ Dante Et Virgile Au Enfers Dante And Virgil In Hell

เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อกลุ่มนักวิทยาศาสตร์รัสเซียได้ขุดเจาะหลุมใน ไซบีเรีย(ไม่บอกสถานที่และชื่อหลุม)
ลึกประมาณ 9 ไมล์(14.5 กิโลเมตร) จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงหนึ่ง เขาเลยเอาไมโครโฟนทนความร้อน
หย่อนในหลุม(อุปกรณ์อื่นๆอีกตามมา) หลุมนั้นมีอุณหภูมิ 2000 องศาฟาเรตไฮด์ (1,100 °C)
และ ผลออกมาปรากฏว่ามันเป็นเสียงที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่ากันว่ามันเป็นเสียงจากนรก
แม้ไม่รู้ว่าเสียงนั้นเป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวง แต่มันได้รับความนิยมมากอินเตอร์เน็ต

เสียงนี้ถูกเรียกว่า Well to Hell hoax ถูกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตในปี 1997 และออกเผยแพร่
เป็นภาษาอังกฤษในปี 1989 ออกอากาศโดย Trinity Broadcasting Network ใครอยากฟังเสียง
จากนรกภูมิดังกล่าว ในคลิปเลยเน้อ