ที่ญี่ปุ่นมันจะมีบริการนึงชื่อว่า JK Business บริการเด็ดหญิง ม.ปลาย
ที่ญี่ปุ่นมันจะมีบริการนึงชื่อว่า JK Business
JK = Joshi Kousei = เด็กหญิงม.ปลาย
(Joshi = เด็กผู้หญิง, Kousei = นักเรียนม.ปลาย)
นี่คือหน้าเว็ปไซต์ มีรูป อายุ และข้อมูลเด็ก สามารถเลือกได้
บริการนี้คือมีมานานแล้ว แต่มีมาลับๆ เออแต่ก็ไม่ค่อยลับเท่าไร เพราะเห็นมีออกข่าวอยู่เรื่อยๆ อันนี้คือมันมีเว็บไซต์เฉพาะ ที่รวบรวมรูปและข้อมูลของ JK มีตั้งแต่อายุ 15 ไปจนถึง 19 โอ่โหกะลังขบเผาะ แล้วไม่ได้มีน้อยๆ แม่มมีเป็นร้อยย โอ้ยย เลือกกันตาลายย
เลือกเสร็จ ตกลงกันเสร็จ ก็นัดเจอกัน
ระดับความสัมพันธ์ที่มีได้หลายระดับ เช่น แค่เดินเล่นด้วยเฉยๆ กินข้าวด้วยเฉยๆ ไปร้านกาแฟด้วยกันเฉยๆ หรือมากกกว่านั้น เช่น แค่กอดได้เฉยๆ แค่จับเฉยๆ หรือถ้าจะยิ่งไปกว่านั้นคือ ไปโรงแรมกันเลยก็มี
ซึ่งทั้งหมด JK จะเป็นคนกำหนดว่าทำอะไรได้ถึงไหน
ข่าวไปสัมภาษณ์ JK คนนึง อายุ 16 ที่ทำงานนี้อยู่ นักข่าวถามว่าทำไมถึงมาทำงานนี้ได้
นางบอกว่า นางอยู่โรงเรียนเอกชน แล้วค่าเทอมแพงมากกก แต่นางต้องจ่ายค่าเทอมเอง
พอถามว่า อ้าว แล้วพ่อแม่ไม่จ่ายให้เลยหรอ
นางบอก ไม่อยากให้ต้องมาร่วมรับผิดชอบด้วย เพราะนางมีแต่แม่อยู่คนเดียว แถมยังมีน้องชายอยู่อีกคนนึงด้วย เด็กญี่ปุ่นที่ต้องจ่ายเองทั้งค่าบ้านทั้งค่าเทอมมีเยอะมาก ไม่รู้จะทำยังไง ไม่ทำก็ไม่มีเงิน ก็เลยต้องทำ
บร๊ะ!! นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะมันคือเรื่องจริง แน่นอนว่ามันก็มีทั้งพวกที่ทำเพราะอยากได้เงินไปช็อปไปเที่ยวเล่น แต่พวกที่ต้องทำเพราะต้องจ่ายค่าบ้านค่าเทอมนี่ก็มีเยอะ
ตอนนี้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ได้เลย เพราะมีการสำรวจพบว่าญี่ปุ่นมีเด็กที่เงินไม่พอใช้เยอะมากกกก
กระทรวงสาธารณสุขและแรงงานเค้าก็ไปสำรวจมา เมื่อปี 2014 พบว่ามีครอบครัวที่มีรายได้ต่อปีหลังจากหักภาษีแล้วน้อยกว่า 1,220,000 เยน (ประมาณ 350,000 บาท) อาจจะดูเยอะ แต่เงินเท่านี้นี่คือที่ญี่ปุ่นถือว่าค่อนข้างอยู่ลำบากมากก ครอบครัวแบบนี้กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
...ลองดูกราฟประกอบ เด็กที่มีครอบครัวยากจนมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆ ปี สถิติคือ ใน 6 คน จะมี 1 คนที่ยากจน โอวว เครียดดด
และโดยส่วนใหญ่ครอบครัวจะมีแค่พ่อหรือแม่แค่คนเดียว (เออจริงๆ ญี่ปุ่นก็มีสถิติการหย่าร้างเยอะเหมือนกันนะ) ...ดูสถิติการมีพ่อหรือแม่คนเดียวดิ แม่งคิดเป็น 54.6% อ่ะ ป๊าดดด นี่มัน ครึ่งๆ เลยนะคะ ในเด็กสองคน จะมีคนนึงที่มีพ่อหรือแม่แค่คนเดียว
พอมีแค่คนเดียว รายได้ก็น้อยใช่ป่ะ แถมถ้ามีลูกหลายคนอีกก็ยิ่งน้อยไปกันใหญ่
ละทีนี้เวลาเด็กจะขอตังค์พ่อแม่งี้ก็ไม่กล้าขอไง แบ่บ..รู้อยู่แล้วว่าแม่ไม่มีให้เง้ ก็เลยไม่ขอดีฝ่า เด็กส่วนใหญ่เลยหันไปทำงานพิเศษหาเงินเองแทน
แล้วในความคิดของเด็กๆ ผู้หญิงคือ จะมีงานไหนได้เงินดีได้เงินเร็วไปกว่าการทำ JK Business อี๊กก ไม่มี๊ สรุปคืออิงานแบบนี้ก็เลยฮิตเลย ละไอ้ครั้นคนที่ไม่อยากทำแล้ว อยากจะเลิกก็เลิกไม่ได้ เพราะถ้าเลิกก็ไม่มีเงินอีก ก็ต้องทำงานแบบนี้ต่อไป โอ้วว โน่ววว
แต่เด็กๆได้เงินดีเงินเร็วก็จริง แต่ที่รับเละคืออิผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้าของธุรกิจนี่แหละ...เอ๊ยยย มันจะต้องรวยแบบรวยเ...้ยๆ แน่
นี่กำลังเป็นปัญหาใหญ่เลยนะ... ทางญี่ปุ่นก็กำลังเครียดกันอยู่นิ หวังว่ามันจะค่อยๆ ดีขึ้นเนอะ เพี้ยงง
เดี๋ยวว!! ทำไมวันนี้มีสาระ
โอ้ยย ตายๆๆๆ คืนนี้กูต้องนอนไม่หลับแน่สัส ฮืออออออ
น้องคนนี้ อายุ 16 นางก็ทำงานนี้
จากการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุขและแรงงานเมื่อปี 2014 พบว่ามีครอบครัวที่มีรายได้หลังจากหักภาษีแล้วน้อยกว่า 1,220,000 เยน (ประมาณ 350,000 บาท)
เด็กส่วนใหญ่ครอบครัวฐานะไม
ก็เลยไม่กล้าขอตังค์พ่อตังค
นี่คือกราฟแสดงเปอร์เซ็นต์ข
https://www.facebook.com/eontdontsod/photos/pcb.1752522758297981/1752519718298285/?type=3&theater