สืบเนื่องมาจากเรื่อง #แอร์กราบ อยากทราบกันไหมคะว่าสายการบินอย่างเอมิเรตส์ เค้ามีวิธีการปฏิบัติต่อลูกเรือและผู้โดยสารอย่างไร
สมัยโค้ชยังเป็นแอร์ละอ่อนของเอมิเรตส์ บนไฟลท์ดูไบ ไปฮ่องกงแวะพักที่กรุงเทพ (DXB-HKG via BKK) ไฟลท์นี้เมื่อเครื่องลงจอดที่กรุงเทพแล้ว ผู้ดยสารที่จะนั่งต่อไปยังฮ่องกง ต้องรออยู่บนเครื่องค่ะ รอเค้าทำความสะอาดและรับผู้โดยสารใหม่ที่จะไปฮ่องกงเพิ่ม ซึ่งระหว่างรอเนี่ย ท่านผู้โดยสารต้องรออยู่บนเครื่องเท่านั้น ไม่สามารถเดินออกจากเครื่องได้ แต่ทีนี้ ไฟลท์วันนั้น ขณะรอรับผู้โดยสารใหม่ มันมีผู้โดยชายชาวจีนอยากจะออกจากเครื่องไปสูบบุหรี่ แอร์ก็เดินเข้าไปอธิบายค่ะว่ามันออกจากเครื่องไม่ได้นะ ขอให้อดทนหน่อย ผู้โดยสารก็โวยวายชี้ไปทางประตูเครื่องว่ามันเปิดอยูู่ เค้าจะออกไปสูบให้ได้ แอร์ก็เลยเดินเข้าไปขวางและพยายามจะอธิบายว่ามันสูบบุหรี่ไม่ได้ เพราะเครื่องกำลังเติมน้ำมันอยู่ด้วย มันอันตราย แต่พี่จีนคนนั้นไม่ฟังค่ะ นางตะคอกใส่ละ ผลักไหล่แอร์กระเด็นเลย!
เพอรเซอร์ไฟลท์นั้นเป็นผู้หญิงคนฟิลิปปินส์ค่ะ พอนางเห็นว่าน้องแอร์โดนทำร้ายร่างกายปุ็บ นางตะโกนเสียงดังข้ามมาเลยค่ะ "Don't touch my crew!" ทุกคนหยุดทันที หันไปต้นเสียงโค้ชเห็น นางยกมือขวาขึ้นละหันไปทางกราวน์สตาฟที่ยืนหน้าประตู นางดีดนิ้ว วนนิ้วเรียกกราวน์สตาฟ "Come! Get this man OUT!" ละนางชี้ไปที่ประตู ด้วยอินเนอร์แบบบียอนเซ่อาย ผู้โดยสารหน้าเจื่อน ไม่กล้าเดินออกไปไหนเลยค่ะ
ปรากฏว่าไฟลท์นั้น เพอเซอร์ปฏิเสธจะไม่เอาผู้โดยสารไปต่อด้วย นางขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการฟ้องตำรวจที่เค้าทำร้ายร่างกายแอร์ นางบอกกัปตันว่าผู้โดยสารไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเรื่องความปลอดภัยของลูกเรือ และทำร้ายร่างกาย ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก กราวน์สตาฟมาช่วยผู้โดยสารพูดว่า ผู้โดยสารเค้าขอโทษและจะไม่ทำอีกแล้ว กราวน์อธิบายว่า ถ้าผู้โโยสารโดนoff-load จะต้องรออีกวันเลยกว่าจะได้ขึ้นไฟลท์ถัดไปไปฮ่องกง เพอเซอร์ถามแอร์ว่าจะเอาไง จะเอาเรื่องมั้ย เค้าจะช่วยเต็มที่ แต่แอร์คนนั้น บอกไม่เป็นไร สงสารผู้โดยสาร สรุปก็เลยให้ผู้โดยสารคนนั้นมาขอโทษแอร์ที่ไปตะคอกและก็ทำร้ายร่างกายแอร์ หลังจากนั้น ผู้โดยสารคนนั้นไม่กล้าขอออกไปสูบบุหรี่อีกเลย ไฟลท์ไปถึงฮ่องกงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย และโค้ชประทับใจในเพอเซอร์ฟิลิปปินส์คนนั้นไม่ลืมค่ะ