4 สูตรการล้างพิษตับ
โพสท์โดย SpiderMeaw
การล้างพิษตับ หมายถึง การนำพิษออกจากร่างกายโดยกระตุ้นให้ตับและถุงน้ำดีขับพิษออกนอกร่างกาย ด้วยวิธีกินอาหารพลังงานต่ำ หรืออดอาหาร (ดื่มน้ำสมุนไพรแทน) และใช้ยาสมุนไพร ซึ่งสามารถนำพิษออกได้มากกว่าวิธีอื่นๆ เหมาะสำหรับคนที่มีพิษสะสมในร่างกาย ปริมาณมาก เช่น เป็นนิ่วในถุงน้ำดี หรือผู้เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ
หลักการของการล้างพิษตับทำอย่างไร ?
ขั้นตอนที่ 1 เตรียมตัวก่อน เพื่อความพร้อมทั้งกายและใจ ผู้ที่ควรล้างพิษตับคือผู้ที่มีอาการดังนี้
1.1 ทำได้ในผู้ที่มีอาการพิษสะสม เช่น
1.2 เจ็บป่วยด้วยโรคหรือมีอาการต่างๆ ดังนี้
1.4. มีเวลาให้กับการล้างพิษตับ เวลาที่เหมาะสมกับการล้างพิษตับควรเป็นดังนี้
1.5 ข้อระมัดระวัง
ขั้นตอนที่ 2 ล้างลำไส้ก่อนล้างตับ
มีหลายวิธี เช่น ให้งดอาหารเนื้อ นม ไข่ น้ำมัน อาหารผัด ทอด หรืออดอาหารทุก อย่างโดยดื่มน้ำสมุนไพร แทนร่วมกับกินยาสมุนไพรล้างลำไส้หรือร่วมกับวิธีสวนล้างลำไส้ใหญ่ ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 3 การล้างพิษตับ
หลังจากล้างลำไส้แล้วก็จะล้างพิษจากตับ โดยวันที่ล้างพิษตับควรจะงดกินอาหารทุกชนิด ดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำชาต่างๆ แทน แต่ถ้างดอาหารทางปากได้ยิ่งดี เพื่อให้อวัยวะภายในไม่เสียพลังงานไปกับการย่อยอาหาร จะได้มีพลังในการขับพิษได้เต็มที่
ขั้นตอนที่ 4 ล้างลำไส้หลังล้างตับ
หลังจากล้างพิษจากตับและถุงน้ำดีแล้ว การขับพิษต้องใช้เวลาในการเคลื่อนพิษออกจากร่างกาย จึงต้องกินอาหารอ่อนๆประมาณ 3 วัน กินยาหรืออาหารบำรุงตับอย่างน้อย 7 วัน และควรสวนล้างลำไส้ใหญ่ (ดีท็อกซ์) อย่างน้อย 7 วัน เพื่อขับพิษออกจากร่างกาย ให้ประคบบริเวณหน้าท้องด้วยความร้อนโดยใช้ผ้าฝ้ายขนาดผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำมันมะกอกคลุมลงไปบริเวณหน้าท้อง แล้วใช้กระเป๋าน้ำร้อนวางทาบลงไป ใช้ผ้าห่อหน้าท้องไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงจะช่วยให้การขับนิ่ว ของเสียออกได้ดี (ถ้าไม่พร้อมไม่ต้องทำก็ได้) ในช่วงเวลานี้อาจพบก้อนนิ่ว ไขมัน ของเสียต่างๆหลุดออกมาพิษที่ออกจากตับ ตับอ่อน และถุงน้ำดี
พิษที่ออกมาจากตับ ถุงน้ำดี มีลักษณะดังนี้ คือ
อาการหลังล้างพิษ
จะรู้สึกอ่อนเพลีย อย่าตกใจ เป็นอาการปกติ ให้พักผ่อน เอาพิษออกด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ตากแดด แช่มือ-แช่เท้า ให้กินอาหารอ่อนๆ อย่างน้อย 2-3 วัน ค่อยกินอาหารตามปกติ กินยาหรืออาหารบำรุงตับ และทำดีท็อกซ์ เช้า – เย็น 7 วัน
ขั้นตอนที่ 5 ฟื้นฟูตับ
หลังจากที่ตับขับพิษออกแล้ว ตับอาจจะมีร่องรอยของแผลที่เกิดจากการหลุดลอกออกของนิ่ว ไขมัน หรือของเสียอื่นๆ (หมายถึงภายในตับ คล้ายผ่านการผ่าตัดมาแต่ไม่มีแผลผ่าตัด) อาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย การฟื้นฟูตับจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติคือ
สิ่งที่ต้องเตรียม
สิ่งที่ควรทำก่อนล้างพิษตับ
กรดเมลิคเอซิคในน้ำแอปเปิล จะไปทำให้นิ่วอ่อนตัวจะทำให้น้ำดีที่ข้นเหนียวที่ขังอยู่ในถุงน้ำดีละลาย จะทำให้ท่อน้ำดีขยายตัว
หมายเหตุุ
ห้ามดื่มน้ำแอปเปิลพร้อมอาหาร ให้ดื่มก่อนอาหาร 30 นาที หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง วันละ 3 – 4 ครั้ง ห้ามดื่มหลังตะวันตกดิน สำหรับผู้ที่กินอาหารมื้อเดียวให้ดื่มหลังเที่ยงไปแล้วให้ค่อยๆจิบช้าๆ ดื่มให้หมดก่อนตะวันตกดิน
ข้อควรระวัง
น้ำแอปเปิล เป็นของต้องห้ามสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน มะเร็ง แผลใน กระเพาะอาหาร ผู้ที่น้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemic)
ทางเลือกของคนที่ต้องห้ามดื่มน้ำแอปเปิล ให้ดื่มน้ำส้มสายชูที่ทำจากแอปเปิล (แอปเปิลไซเดอร์) ครั้งละ 1 – 2 ช้อนชากับน้ำอุ่นครึ่งแก้ว วันละ 4 ครั้ง
เพราะเหตุใดจึงควรล้างพิษตับเว้นระยะ 3 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน
เพราะหลังจากล้างพิษตับไปแล้วต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ นิ่วที่อยู่ด้านหน้าท่อไหลออกถูกขับออกแล้ว นิ่วที่อยู่ด้านในจะไหลออกมาแทนที่ที่ปากท่อ (2 Hepatic ducts) หากเร่งเวลาทำเร็วไปจะมีีนิ่วออกน้อย เพราะนิ่วข้างในยังไม่ออกมา
เรื่องที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ
สูตรการล้างพิษตับนี้ เป็นวิธีการที่ประมาณค่ามิได้และเห็นผลประจักษ์จริง ๆ สำหรับการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์และไม่เป็นภัยอันตรายใดๆ ถ้าทำตามคำแนะนำโดยละเอียดถี่ถ้วน ตับที่มีนิ่วหรือคอเลสเตอรอลมากเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ให้เกิดโรคร่างกาย เพราะตับเสียหน้าที่การทำงาน ปกติตับทำหน้าที่คล่องแคล่วว่องไว มีประโยชน์มากทำหน้าที่ต่างๆในร่างกายมากกว่า 250 หน้าที่ มีผลถึงอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย นิ่วเป็นอุปสรรคกีดขวางให้เสียการทำงานของตับ เมื่อเรากำจัดสิ่งกีดขวางการทำงานของตับออกแล้ว ทำให้ตับทำงานถูกต้อง มีความสมดุลอย่างชันเจน ทำให้ร่างกายกลับสู่สภาพสมดุล กระปรี้กระเปร่า
หลังจากล้างตับไปแล้ว 1 ครั้ง ตับจะทำงานได้ผลดีกว่าเดิม ผู้ที่เจ็บป่วยจะสังเกตได้ทันทีภายในไม่กี่ชั่วโมง ความปวดน้อยลง กำลังเพิ่มขึ้นจิตใจปลอดโปร่งแจ่มใสกว่าเดิม อย่างไรก็ตามในไม่กี่วัน นิ่วที่ล้างออกแล้วที่อยู่ในตับจะไหลออกมาแทนที่เราล้างออกไปและอาการไม่สบาย อาจจะกลับคืนมา บางอาการหรือทั้งหมด อาจรู้สึกเสียใจเพราะว่าหายจากโรคชั่วคราว เพราะความไม่สบายที่กลับคืนมาอีก
นั่นบ่งบอกว่าถึงเวลาที่ต้องล้างตับอีกแล้ว แต่กระนั้น ระบบรักษาตัวเองของตับและสัญญาณการกำจัดพิษดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้อวัยวะภายในที่สำคัญนี้ ทำงานได้ผลดีมากขึ้น
สิ่งที่สำคัญมากที่เราต้องจำไว้
เมื่อไรที่เราล้างตับแล้ว เราต้องล้างต่อเนื่องกันจนถึง 2 ครั้ง หรือติดต่อกัน จนกว่าไม่มีนิ่วออกมาเลย ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ปล่อยให้นิ่วที่ล้างไม่หมดอยู่ในตับมากกว่า 3 เดือน ผู้ที่ป่วยจะมีความเจ็บป่วยที่อาจจะรุนแรงกว่าที่เราไม่เคยทำการล้างตับมาก่อนเลย ให้ล้างพิษตับไปจนเห็นว่าตับเราไม่มีนิ่วแล้ว ควรทำการล้าง 6 – 8 เดือนต่อครั้ง ทุกครั้งที่ล้างตับจะส่งเสริมการทำงานของตับ และจัดการล้างพิษหรือนิ่วที่สร้างขึ้นมาใหม่ที่สะสมในตับ จะทำให้ตับสมบูรณ์เต็มที่อยู่เสมอ
อาการที่เกิดขึ้นในช่วงล้างพิษตับหรือหลังล้างพิษตับ (ซ่านพิษ, พิษซ่าน, ลมตีขึ้น)
– อาการคลื่นเหียนอาเจียน ตอนล้างตับ เหตุเกิดจากนิ่วและพิษที่อยู่ในตับและถุงน้ำดี โดนบีบออกมาอย่างรุนแรงฉับพลันทันที และไปดันน้ำมันที่เราดื่มลงไปและน้ำดีในลำไส้ลอยขึ้นไปที่กระเพาะ
– แม้จะอาเจียนน้ำมันออกมา การล้างตับก็ยังประสบผลสำเร็จอยู่ เพราะว่าน้ำมันไปทำหน้าที่ไปล่อให้นิ่วออกมาสำเร็จแล้ว
– วันรุ่งขึ้นหลังจากการล้างตับ ถ้ามีอาการวิงเวียน มึนศีรษะหรือคลื่นไส้ เหตุเกิดจากนิ่วไหล ออกจากตับเรื่อยๆ และนิ่วที่ตกค้างอยู่ในกระแสเลือด
วิธีการบรรเทาอาการ
* ดื่มน้ำแอปเปิ้ล ครึ่งแก้ว 30 นาที ก่อนอาหารเช้าทุกเช้า จนกว่าจะหมดอาการ
* ล้างลำไส้ซ้ำอีก (กินยาถ่าย เช่น ดีเกลือ) เพื่อไล่นิ่วที่ออกมาที่หลัง
* ดื่มน้ำขิงสดหั่นเป็นแว่น แช่ในน้ำร้อน ดื่มแทนน้ำ
* ดื่ม chamomile (เก็กฮวยฝรั่ง) วันละ 2 – 3 แก้ว จะช่วยทำให้ระบบย่อยและระบบเส้นประสาทผ่อนคลาย
ข้อสังเกตในการล้างพิษตับ
การล้างลำไส้ (ดีท็อกซ์) มีผลข้างเคียงหรือไม่
เท่าที่ได้ศึกษามาการล้างลำไส้ ไม่มีผลข้างเคียง แต่อย่างไรก็ตามอาจจะเป็นไปได้ที่บางคนมีอาการจะเป็นหวัดหรือปวดหัว หลังจากล้างลำไส้ สารพิษที่เกาะอยู่ตามผนังลำไส้ใหญ่ยังไม่หมด และพิษส่วนน้อยถูกดูดซึมกลับเข้าไปในร่างกาย แต่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่คนที่เป็นอย่างนี้ จะมีสุขภาพดีขึ้นมากถ้าทำต่อไป
ข้อควรระวังในการเลือกใช้ดีเกลือสำหรับล้างพิษ
ดีเกลือ ควรจะกินครั้งละ ½ – 2 ช้อนชา ให้ดูธาตุตัวเองเป็นหลัก หรือเท่าที่รู้สึกสบาย
ข้อควรระวัง
หลังการล้างพิษตับ และปฏิบัติตนช่วงหลังล้างพิษตับครบแล้ว ควรฟื้นฟูสภาพและบำรุงตับด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่บำรุงตับ อาทิ ขมิ้นชัน ขิง (น้ำขิง) เก๋ากี้ กะหล่ำปลี สาหร่ายสไปรูลิน่า หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการกินดื่มที่ทำอันตรายต่อตับ
1.1 ทำได้ในผู้ที่มีอาการพิษสะสม เช่น
- อาการปวดศีรษะบ่อย หงุดหงิดประจำ
- ปวดเมื่อยหลัง ไหล่ คอ
- เบื่ออาหาร ท้องอืดบ่อย
- หน้าตาหมองคล้ำ ไม่ขาวสดใส ผิวพรรณหยาบกร้าน
- มีแผลร้อนในในปากเป็นประจำ
- ดูดซึมสารอาหารจำพวกแป้งมากไปทำให้ร่างกายอ้วน
- ขับถ่าย และละลายสารพิษไม่ออก จะเกิดสิวเสี้ยนบนใบหน้า และฝ้าดำบนใบหน้า
- อ่อนเพลีย ง่วงนอน สมาธิไม่ดี ความจำเสื่อม
- โรคท้องผูกและ ริดสีดวงทวาร
- สตรีมีรอบเดือนมาไม่ปรกติ
- ประสาทตึงเครียด และร่างกายไม่แข็งแรง สมรรถภาพทางเพศเสื่อม
- ผิวหนังเป็นผื่นคัน ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น ผายลมบ่อย
- โรคเรื้อรัง เช่น โรคไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบตัน
- ภูมิแพ้ การต้านทานการติดเชื้อโรคของเด็ก และผู้สูงอายุ
- ไตทำงานหนัก (ขับพิษยาตกค้างแทน)
1.2 เจ็บป่วยด้วยโรคหรือมีอาการต่างๆ ดังนี้
- สิว
- ไขมันในเลือดสูง
- โรคผิวหนัง ผื่นคันต่างๆ
- หอบ หืด
- ภูมิแพ้
- นิ่วตับและนิ่วถุงน้ำดี ปวดท้องจากนิ่วถุงน้ำดี ซึ่งนิ่วจะเป็นตัวขัดขวางการทำงานของตับทำให้เกิดโรคต่างๆได้ เช่นไขมันพอกตับ ตับแข็ง มะเร็งตับ ตับวาย
- โภชนาการพร่อง
- ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดแขน
- ปวดท้อง ปวดตับ
- ความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจ เจ็บหน้าอก
- โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ลำไส้แปรปรวน ท้องผูก
- มะเร็ง
- เอดส์
- พาร์กินสัน
- อัลไซเมอร์
- ลมชัก
- โรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับระบบเลือดลม
1.4. มีเวลาให้กับการล้างพิษตับ เวลาที่เหมาะสมกับการล้างพิษตับควรเป็นดังนี้
- เวลาที่สะดวก ไม่เร่งรีบ
- เป็นวันหยุด พักผ่อน ไม่มีเรื่องกดดันรอบข้าง
1.5 ข้อระมัดระวัง
- สำหรับผู้ที่ร่างกายเพลียมากๆ เจ็บป่วยด้วยโรคเฉียบพลัน เช่น ไข้ ไข้หวัด โรคหัวใจบางชนิด เด็กในวัยเจริญเติบโต (เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีที่ร่างกายปรกติ) หญิงตั้งครรภ์ควรงดหรือเว้น
ขั้นตอนที่ 2 ล้างลำไส้ก่อนล้างตับ
มีหลายวิธี เช่น ให้งดอาหารเนื้อ นม ไข่ น้ำมัน อาหารผัด ทอด หรืออดอาหารทุก อย่างโดยดื่มน้ำสมุนไพร แทนร่วมกับกินยาสมุนไพรล้างลำไส้หรือร่วมกับวิธีสวนล้างลำไส้ใหญ่ ดังต่อไปนี้
- เครื่องดื่มที่ดื่มได้ตามสูตร เช่น น้ำชาข้าวกล้อง น้ำด่าง น้ำมะขามผสมน้ำผึ้ง โดยน้ำชาข้าวกล้อง ดื่มตอนเช้าประมาณ 5 แก้ว น้ำด่างหรือน้ำอัลคาไลด์ ดื่มตลอดวัน น้ำมะขามผสมน้ำผึ้ง ดื่มเมื่อรู้สึกเพลีย
- กินสมุนไพร สำหรับล้างพิษ ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำมะขามดื่ม 1/2 แก้ว 3 เวลา ก่อนอาหาร (สมุนไพรนี้จะช่วยทำความสะอาดลำไส้มีฤทธิ์ร้อนไปเซาะตะกรันในลำไส้ ไปฟูในท้องทำให้รู้สึกอิ่ม)
- ให้สวนล้างลำไส้ใหญ่ (ดีท็อกซ์) ด้วยน้ำ เช่น น้ำต้มสะเดา น้ำด่าง กาแฟ หรือสมุนไพร ที่ถูกกับตัวเอง โดยทำ เช้า-เย็น หรือมากกว่า เพื่อทำความสะอาดลำไส้ก่อนที่จะนำพิษออกจาก ตับและถุงน้ำดี
ขั้นตอนที่ 3 การล้างพิษตับ
หลังจากล้างลำไส้แล้วก็จะล้างพิษจากตับ โดยวันที่ล้างพิษตับควรจะงดกินอาหารทุกชนิด ดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำชาต่างๆ แทน แต่ถ้างดอาหารทางปากได้ยิ่งดี เพื่อให้อวัยวะภายในไม่เสียพลังงานไปกับการย่อยอาหาร จะได้มีพลังในการขับพิษได้เต็มที่
ขั้นตอนที่ 4 ล้างลำไส้หลังล้างตับ
หลังจากล้างพิษจากตับและถุงน้ำดีแล้ว การขับพิษต้องใช้เวลาในการเคลื่อนพิษออกจากร่างกาย จึงต้องกินอาหารอ่อนๆประมาณ 3 วัน กินยาหรืออาหารบำรุงตับอย่างน้อย 7 วัน และควรสวนล้างลำไส้ใหญ่ (ดีท็อกซ์) อย่างน้อย 7 วัน เพื่อขับพิษออกจากร่างกาย ให้ประคบบริเวณหน้าท้องด้วยความร้อนโดยใช้ผ้าฝ้ายขนาดผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำมันมะกอกคลุมลงไปบริเวณหน้าท้อง แล้วใช้กระเป๋าน้ำร้อนวางทาบลงไป ใช้ผ้าห่อหน้าท้องไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงจะช่วยให้การขับนิ่ว ของเสียออกได้ดี (ถ้าไม่พร้อมไม่ต้องทำก็ได้) ในช่วงเวลานี้อาจพบก้อนนิ่ว ไขมัน ของเสียต่างๆหลุดออกมาพิษที่ออกจากตับ ตับอ่อน และถุงน้ำดี
พิษที่ออกมาจากตับ ถุงน้ำดี มีลักษณะดังนี้ คือ
- ลอยอยู่ข้างบน คือ ไขมันจากตับ และนิ่วจากถุงน้ำดี ไขมันจากตับจะมีสีเหลือง สีเขียว สีดำ ก้อนขรุขระ หรือ เป็นน้ำสีดำ สีเหลือง สีเทา มันติดมือล้างไม่ออก ต้องใช้น้ำยาล้างจาน หรือสบู่ล้างหลายๆ ครั้ง
- ลอยอยู่ตรงกลาง จะเป็นเซลล์มะเร็ง มีลักษณะเหมือนเห็ดหูหนูขาว
- อยู่ล่างสุด คือเม็ดเลือดแดง ที่หมดอายุ
- ลักษณะนิ่วจากถุงน้ำดี จะมีสีเขียว เหลือง ดำ ก้อนค่อนข้างกลม
อาการหลังล้างพิษ
จะรู้สึกอ่อนเพลีย อย่าตกใจ เป็นอาการปกติ ให้พักผ่อน เอาพิษออกด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ตากแดด แช่มือ-แช่เท้า ให้กินอาหารอ่อนๆ อย่างน้อย 2-3 วัน ค่อยกินอาหารตามปกติ กินยาหรืออาหารบำรุงตับ และทำดีท็อกซ์ เช้า – เย็น 7 วัน
ขั้นตอนที่ 5 ฟื้นฟูตับ
หลังจากที่ตับขับพิษออกแล้ว ตับอาจจะมีร่องรอยของแผลที่เกิดจากการหลุดลอกออกของนิ่ว ไขมัน หรือของเสียอื่นๆ (หมายถึงภายในตับ คล้ายผ่านการผ่าตัดมาแต่ไม่มีแผลผ่าตัด) อาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย การฟื้นฟูตับจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติคือ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- บำรุงตับ ดื่มและกินอาหารบำรุงตับ เช่น น้ำผักผลไม้ปั่น ข้าวต้มเพื่อสุขภาพ โดยกินอย่างน้อย 3 วัน หลังจากนั้นก็ปฏิบัติดูแลสุขภาพตนเองแบบพอเพียง ด้วยหลักปฏิบัติ 5 อ. (เอาพิษออก อาหารและน้ำปรับสมดุลร่างกาย อากาศ ออกกำลังกาย อารมณ์และจิตใจ) และหมั่นเอาพิษออกจากร่างกายเท่าที่รู้สึกสบาย
สิ่งที่ต้องเตรียม
- เตรียมตัว – เตรียมใจ ใจต้องพร้อม อดทน เข้าใจวิธีและผลการล้างพิษ
- เตรียมร่างกาย ล้างพิษตับได้ทุกคน ทุกโรค ยกเว้น เด็กในวัยเจริญเติบโต คนที่ป่วยด้วยโรคเฉียบพลัน เช่นตับอักเสบเฉียบพลัน ไข้ ไข้หวัดเฉียบพลัน เพลียมากๆ อดอาหารพวก เนื้อ นม ไข่ น้ำมัน ของทอด ไม่ได้ ควรฝึกกินอาหารสุขภาพมาก่อน หรือเคยอดอาหารมาจะดีมาก
- เตรียมเวลา เวลาที่พร้อม ว่าง วันหยุด ไม่เร่งรีบ ไม่มีสิ่งกดดันรอบข้าง
- เตรียมสถานที่ มีห้องน้ำพร้อม สะดวก บรรยากาศโปร่ง โล่ง สบาย
- เตรียมวัสดุอุปกรณ์ อาทิ ผงสมุนไพรล้างลำไส้ น้ำแอปเปิล 100% หรือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (แอปเปิลไซเดอร์) น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์สกัดเย็น น้ำมะนาวคั้น น้ำส้มคั้น ดีเกลือ 4 ช้อนชา เครื่องดื่มบำรุงตับ น้ำผึ้ง น้ำด่าง อุปกรณ์เอาพิษออก เช่น ขวดดีทอกซ์ กัวซา ฯลฯ
- ควรเริ่มล้างพิษตับในวันที่ไม่ได้ทำงาน และไม่มีความกดดันจากสิ่งแวดล้อม มีเวลาพักผ่อนเพียงพอ
สิ่งที่ควรทำก่อนล้างพิษตับ
- ควรดื่มน้ำแอปเปิล ก่อนไปล้างพิษตับ วันละ 1 ลิตร ได้หลายๆ วันยิ่งดี
- ชนิดของน้ำแอปเปิ้ล คือ น้ำแอปเปิลคั้นสดแยกกาก น้ำแอปเปิลกล่องที่ทำจากน้ำแอปเปิลเข้มข้น (Concentrate) น้ำแอปเปิลปลอดสารพิษ คือแอปเปิลกล่องที่ทำจากผลไม้
กรดเมลิคเอซิคในน้ำแอปเปิล จะไปทำให้นิ่วอ่อนตัวจะทำให้น้ำดีที่ข้นเหนียวที่ขังอยู่ในถุงน้ำดีละลาย จะทำให้ท่อน้ำดีขยายตัว
หมายเหตุุ
ห้ามดื่มน้ำแอปเปิลพร้อมอาหาร ให้ดื่มก่อนอาหาร 30 นาที หรือหลังอาหาร 2 ชั่วโมง วันละ 3 – 4 ครั้ง ห้ามดื่มหลังตะวันตกดิน สำหรับผู้ที่กินอาหารมื้อเดียวให้ดื่มหลังเที่ยงไปแล้วให้ค่อยๆจิบช้าๆ ดื่มให้หมดก่อนตะวันตกดิน
ข้อควรระวัง
น้ำแอปเปิล เป็นของต้องห้ามสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน มะเร็ง แผลใน กระเพาะอาหาร ผู้ที่น้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemic)
ทางเลือกของคนที่ต้องห้ามดื่มน้ำแอปเปิล ให้ดื่มน้ำส้มสายชูที่ทำจากแอปเปิล (แอปเปิลไซเดอร์) ครั้งละ 1 – 2 ช้อนชากับน้ำอุ่นครึ่งแก้ว วันละ 4 ครั้ง
เพราะเหตุใดจึงควรล้างพิษตับเว้นระยะ 3 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน
เพราะหลังจากล้างพิษตับไปแล้วต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ นิ่วที่อยู่ด้านหน้าท่อไหลออกถูกขับออกแล้ว นิ่วที่อยู่ด้านในจะไหลออกมาแทนที่ที่ปากท่อ (2 Hepatic ducts) หากเร่งเวลาทำเร็วไปจะมีีนิ่วออกน้อย เพราะนิ่วข้างในยังไม่ออกมา
เรื่องที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ
สูตรการล้างพิษตับนี้ เป็นวิธีการที่ประมาณค่ามิได้และเห็นผลประจักษ์จริง ๆ สำหรับการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์และไม่เป็นภัยอันตรายใดๆ ถ้าทำตามคำแนะนำโดยละเอียดถี่ถ้วน ตับที่มีนิ่วหรือคอเลสเตอรอลมากเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ให้เกิดโรคร่างกาย เพราะตับเสียหน้าที่การทำงาน ปกติตับทำหน้าที่คล่องแคล่วว่องไว มีประโยชน์มากทำหน้าที่ต่างๆในร่างกายมากกว่า 250 หน้าที่ มีผลถึงอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย นิ่วเป็นอุปสรรคกีดขวางให้เสียการทำงานของตับ เมื่อเรากำจัดสิ่งกีดขวางการทำงานของตับออกแล้ว ทำให้ตับทำงานถูกต้อง มีความสมดุลอย่างชันเจน ทำให้ร่างกายกลับสู่สภาพสมดุล กระปรี้กระเปร่า
หลังจากล้างตับไปแล้ว 1 ครั้ง ตับจะทำงานได้ผลดีกว่าเดิม ผู้ที่เจ็บป่วยจะสังเกตได้ทันทีภายในไม่กี่ชั่วโมง ความปวดน้อยลง กำลังเพิ่มขึ้นจิตใจปลอดโปร่งแจ่มใสกว่าเดิม อย่างไรก็ตามในไม่กี่วัน นิ่วที่ล้างออกแล้วที่อยู่ในตับจะไหลออกมาแทนที่เราล้างออกไปและอาการไม่สบาย อาจจะกลับคืนมา บางอาการหรือทั้งหมด อาจรู้สึกเสียใจเพราะว่าหายจากโรคชั่วคราว เพราะความไม่สบายที่กลับคืนมาอีก
นั่นบ่งบอกว่าถึงเวลาที่ต้องล้างตับอีกแล้ว แต่กระนั้น ระบบรักษาตัวเองของตับและสัญญาณการกำจัดพิษดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้อวัยวะภายในที่สำคัญนี้ ทำงานได้ผลดีมากขึ้น
สิ่งที่สำคัญมากที่เราต้องจำไว้
เมื่อไรที่เราล้างตับแล้ว เราต้องล้างต่อเนื่องกันจนถึง 2 ครั้ง หรือติดต่อกัน จนกว่าไม่มีนิ่วออกมาเลย ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ปล่อยให้นิ่วที่ล้างไม่หมดอยู่ในตับมากกว่า 3 เดือน ผู้ที่ป่วยจะมีความเจ็บป่วยที่อาจจะรุนแรงกว่าที่เราไม่เคยทำการล้างตับมาก่อนเลย ให้ล้างพิษตับไปจนเห็นว่าตับเราไม่มีนิ่วแล้ว ควรทำการล้าง 6 – 8 เดือนต่อครั้ง ทุกครั้งที่ล้างตับจะส่งเสริมการทำงานของตับ และจัดการล้างพิษหรือนิ่วที่สร้างขึ้นมาใหม่ที่สะสมในตับ จะทำให้ตับสมบูรณ์เต็มที่อยู่เสมอ
อาการที่เกิดขึ้นในช่วงล้างพิษตับหรือหลังล้างพิษตับ (ซ่านพิษ, พิษซ่าน, ลมตีขึ้น)
– อาการคลื่นเหียนอาเจียน ตอนล้างตับ เหตุเกิดจากนิ่วและพิษที่อยู่ในตับและถุงน้ำดี โดนบีบออกมาอย่างรุนแรงฉับพลันทันที และไปดันน้ำมันที่เราดื่มลงไปและน้ำดีในลำไส้ลอยขึ้นไปที่กระเพาะ
– แม้จะอาเจียนน้ำมันออกมา การล้างตับก็ยังประสบผลสำเร็จอยู่ เพราะว่าน้ำมันไปทำหน้าที่ไปล่อให้นิ่วออกมาสำเร็จแล้ว
– วันรุ่งขึ้นหลังจากการล้างตับ ถ้ามีอาการวิงเวียน มึนศีรษะหรือคลื่นไส้ เหตุเกิดจากนิ่วไหล ออกจากตับเรื่อยๆ และนิ่วที่ตกค้างอยู่ในกระแสเลือด
วิธีการบรรเทาอาการ
* ดื่มน้ำแอปเปิ้ล ครึ่งแก้ว 30 นาที ก่อนอาหารเช้าทุกเช้า จนกว่าจะหมดอาการ
* ล้างลำไส้ซ้ำอีก (กินยาถ่าย เช่น ดีเกลือ) เพื่อไล่นิ่วที่ออกมาที่หลัง
* ดื่มน้ำขิงสดหั่นเป็นแว่น แช่ในน้ำร้อน ดื่มแทนน้ำ
* ดื่ม chamomile (เก็กฮวยฝรั่ง) วันละ 2 – 3 แก้ว จะช่วยทำให้ระบบย่อยและระบบเส้นประสาทผ่อนคลาย
ข้อสังเกตในการล้างพิษตับ
- ความระบมเกิดที่ทวารหนัก เป็นจากพิษที่รุนแรงปล่อยออกมาตอนล้างตับ (ไม่เกี่ยวกับดีเกลือ)
- ถ้าทำการล้างพิษตับก่อนหรือหลังมีประจำเดือนจะสะดวกและสบายกว่า แต่ไม่มีผลเสีย (เนื่องจากประจำเดือนเป็นการล้างพิษตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง ไม่สมควรทำพร้อมกันกับวิธีล้างพิษตับ)
- หลังจากการล้างพิษตับแล้ว ไม่จำเป็นต้องดื่มยาหรือเครื่องดื่มที่เสริมสร้างจุลินทรีในร่างกาย เช่น นมเปรี้ยว ต่างๆ เพราะร่างกายจะปรับเสริมตัวเองโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องอาศัยสิ่งภายนอกมาช่วย หลังจากล้างพิษออกหมดแล้ว ลำไส้จะสะอาดขึ้น สามารถดูดซึมแร่ธาตุต่าง ๆ มาเสริมสร้างร่างกาย และ ผลิตจุลินทรีที่เป็นประโยชน์ได้ดียิ่งขึ้น
- ยาระบายชนิดอื่น ๆ มีคุณสมบัติน้อยกว่าดีเกลือ เช่น น้ำมันละหุ่ง หรือแมกนีเซียมออกไซค์ต่าง เพราะดีเกลือจะทำให้ท่อน้ำดีขยายตัวดีกว่าอย่างอื่น การที่ท่อน้ำดีขยายตัวเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการล้างพิษตับ
- น้ำมันอย่างอื่นไม่ได้ผลดีกว่าน้ำมันมะกอกชนิด Extra virgin (Cold pressed- หีบเย็น 100 %)
การล้างลำไส้ (ดีท็อกซ์) มีผลข้างเคียงหรือไม่
เท่าที่ได้ศึกษามาการล้างลำไส้ ไม่มีผลข้างเคียง แต่อย่างไรก็ตามอาจจะเป็นไปได้ที่บางคนมีอาการจะเป็นหวัดหรือปวดหัว หลังจากล้างลำไส้ สารพิษที่เกาะอยู่ตามผนังลำไส้ใหญ่ยังไม่หมด และพิษส่วนน้อยถูกดูดซึมกลับเข้าไปในร่างกาย แต่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่คนที่เป็นอย่างนี้ จะมีสุขภาพดีขึ้นมากถ้าทำต่อไป
ข้อควรระวังในการเลือกใช้ดีเกลือสำหรับล้างพิษ
- ผู้เป็นโรคไตวาย – บวม – มะเร็งตับระยะสุดท้าย – ความดันโลหิตสูง ให้ใช้ ดีเกลือฝรั่ง ห้ามใช้ ดีเกลือไทย
- ผู้เป็นโรคหัวใจ ใช้ดีเกลือไทย
- ผู้เป็นโรคอื่นๆ หรือไม่เป็นโรคอะไรเลย กินได้ทั้งดีเกลือไทยและดีเกลือฝรั่ง
ดีเกลือ ควรจะกินครั้งละ ½ – 2 ช้อนชา ให้ดูธาตุตัวเองเป็นหลัก หรือเท่าที่รู้สึกสบาย
- ถ้าขับถ่ายอุจจาระง่ายควรกินครั้งละครึ่งช้อนชา
- ถ้าขับถ่ายอุจจาระยาก ควรกินครั้งละ 1 – 2 ช้อนชา
ข้อควรระวัง
- ผู้ป่วยที่ไม่ควรล้างพิษตับ (ไม่ควรดื่มน้ำมันมะกอก+น้ำผลไม้ตระกูลส้ม) คือผู้ป่วยที่ไม่มีพลังชีวิต ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องบวมโต เพลียมาก ควรงดและให้ล้างเฉพาะลำไส้ จนกว่าจะมีพลังชีวิตเพียงพอ เพราะตับและอวัยวะต่างๆ ในร่างกายจะไม่มีพลังเพียงพอในการขับพิษ อาจทำให้ช็อคได้
- ผู้ที่ไม่เคยล้างพิษตับมาก่อนเลย ไม่ควรทำด้วยตนเอง เนื่องจากอาจมีอาการพิษซ่าน หรือ ซ่านพิษ ลมตีขึ้น ควรล้างพิษตับภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญก่อน เมื่อมีประสบการณ์แล้ว จึงสามารถนำไปทำเองที่บ้านได้ ระยะเวลาห่างครั้งละประมาณ 1 เดือนจากครั้งแรก โดยใช้หลักการ และสูตรเดียวกันกับครั้งแรก แต่อาจใช้ระยะเวลาสั้นลงเป็น 1 ½ วัน ก็ดื่มน้ำมันมะกอก+น้ำผลไม้ตระกูลส้ม ได้เลย ควรล้างพิษตับอย่างน้อย 7 ครั้ง และที่ดีที่สุดคือ คนเราควรล้างพิษตับประมาณ 15 ครั้งในหนึ่งชีวิต ร่างกายจะมีสุขภาพสมบูรณ์เหมือนกลับไปเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง
หลังการล้างพิษตับ และปฏิบัติตนช่วงหลังล้างพิษตับครบแล้ว ควรฟื้นฟูสภาพและบำรุงตับด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่บำรุงตับ อาทิ ขมิ้นชัน ขิง (น้ำขิง) เก๋ากี้ กะหล่ำปลี สาหร่ายสไปรูลิน่า หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการกินดื่มที่ทำอันตรายต่อตับ
ขอบคุณที่มา: ขอบคุณข้อมูลจาก: ชีวอโรคยา
http://www.sara-1000.com/2016/08/4-liver-flush-formula.html
http://www.sara-1000.com/2016/08/4-liver-flush-formula.html
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
VOTED: ฮามอย, แมวฮั่ว แมวขี้น้อยใจ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
อัปเดตความหล่อ! ตู่ ภพรร หลังศัลยกรรม 3 เดือน หล่อแบบโอปป้าเกาหลีหนุ่มไปรับแฟนหลังเลิกงาน เจอกลุ่มวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์ ชักมีด ชักปืนออกมามาทำร้ายผู้เสียหาย สุดท้ายผู้ก่อเหตุเป็นลูกตำรวจลือลั่น! ทนายเดชาร้องไห้คาศาล หลังถูกสั่งจำคุก!เที่ยวไทยไม่ปลื้ม! แม่ค้าตลาดน้ำรูดเงินนักท่องเที่ยว 80,000 บาททนายกระดูกเหล็กย้ำชัด ไม่เจรจาเอาเข้าคุกอย่างเดียว ดราม่านี้ไม่จบง่ายๆ กองทัพธรรม กับ คนตื่นธรรมดีเจเผือกเผยรีวิวส้วม สไตล์มินิมอลที่จีน บอกเลยไม่ธรรมดาสั่งดำเนินการขั้นเด็ดขาด!! แจ้ง 2 ข้อหาหนักเก๋งหัวร้อนขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิตพบฝูงหมาในในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีขนสีชมพูอย่างน้อย 4 ตัว เร่งทำการศึกษาวิจัยตำรวจแจ้ง มอบเงินรางวัล 20000 หากบุคคลใดเเจ้งข้อมูล ผู้ต้อง หาตามหมายจับเหตุฆ่ๅผู้อื่นโดยเจตนาลือสะพัด!ศพ'แตงโม'ถูกมัดมือไพล่หลัง!เมียนมาส่งคนไทย 600 คน รวมถึงต่างชาติอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับบ้านกว่า 55,000 คนหญิงอินเดียอุ้มลูกทารก และคุยโทรศัพท์ไปด้วย พลาดตกลงไปในท่อระบายน้ำ 🥺Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เรื่องวุ่นๆ ของวัยรุ่นสายรถ EV จีนดีเจเผือกเผยรีวิวส้วม สไตล์มินิมอลที่จีน บอกเลยไม่ธรรมดาตำรวจแจ้ง มอบเงินรางวัล 20000 หากบุคคลใดเเจ้งข้อมูล ผู้ต้อง หาตามหมายจับเหตุฆ่ๅผู้อื่นโดยเจตนาปัจจุบันจีนเป็นฐานผลิตไข่ปลาคาเวียร์อันดับ 1 ของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดในสัดส่วนมากถึง 60% ของโลกโรเบิร์ต แพททินสัน เซอร์ไพร์ส โผล่แจมรายการวาไรตี้เกาหลีสุดฮิตรันนิ่งแมน