ดูเตอร์เต้บอกที่ประชุมผู้นำเอเชียไม่ต้องไปฟังสหรัฐเลกเชอร์สิทธิมนุษยชน-งัดภาพทหารอเมริกันสังหารคนฟิลิปปินส์เมื่อ 100 ปีที่แล้วให้ที่ประชุมดู
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2559 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงเวียงจันทน์ ประเทศสปป.ลาวซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมผู้นำ เอเชียตะวันออก (East Asian Summit) โดยประธานาธิบดีร้อดริโก้ ดูเตอร์เต้ ขึ้นมาปกป้องประเทศฟิลิปปินส์ที่เขาใช้กฎหมายปราบปรามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด พร้อมกับแจ้งแก่ผู้นำในที่ประชุมว่าไม่ต้องไปฟังที่สหรัฐเลกเชอร์ฟิลิปปินส์ เรื่องนี้ สมควรที่สหรัฐจะต้องช่วยเหลือมะนิลาในการปราบปรามยาเสพติดเสียด้วยซ้ำ
นายดูเตอร์เต้ขึ้นครองตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนพฤษภาคมด้วยการประกาศนโยบายปราบปรามอาชญากรรมและการคอร์รัปชั่น ให้ได้ภายใน 6 เดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดที่ประเทศของเขามียาเสพติด ระบาดมาก จากประชากรฟิลิปปินส์ที่มีจำนวนมากกว่า 100 ล้านคน
มีรายงานว่าช่วง 2 เดือนที่รัฐบาลดูเตอร์เต้ปราบปรามยาเสพติกมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2,400 ราย (ตัวเลขสัปดาห์ที่แล้ว) ในจำนวนนี้ถูกสังหารจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ 900 ราย และที่เหลือเกิดจากการตาย“ที่อยู่ในระหว่างการสอบสวน” เป็นคำพูดที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนออกมากล่าว โดยหมายถึงการตัดสินด้วยศาลเตี้ยหรือวิสามัญฆาตกรรม
สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวเป็นนักการทูตจาก อินโดนีเซียผู้หนึ่งในที่ประชุมเปิดเผยว่านายดูเตอร์เต้กล่าวต่อที่ประชุม กว่า 5 นาที ด้านสิทธิมนุษยชนในระหว่างนั้นได้เตรียมภาพประกอบไว้ข้างตัวด้วย
“ผมอยากจะบอกพวกท่านเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน” พร้อมกับแสดงภาพประกอบที่ชาวฟิลิปปินส์ถูกทหารอเมริกันสังหารเมื่อ 100 ปีที่แล้วมา “นี่ คือภาพที่บรรพบุรุษของผมถูกฆ่าตาย ,แล้วทำไมเรากำลังมาพูดถึงสิทธิมนุษยชนตอนนี้ ? เราจะต้องพูดเรื่องสิทธิมนุษยชนทั้งหมด(ที่ผ่านมา)ด้วย”
นายดูเตอร์เต้เป็นคนอภิปรายภายหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขึ้นกล่าวถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนในที่ประชุม
มีรายงานว่าการดำเนินการปราบปรามยาเสพติดและการ คอร์รัปชั่นนั้นนายดูเตอร์เต้ได้รับการสนับสนุนและได้รับความนิยมมากใน ฟิลิปปินส์ แต่เรื่องการสังหารกลับไม่เป็นที่พอใจของสหรัฐ,มิตรประเทศฟิลิปปินส์บาง ประเทศและองค์การสหประชาชาติ
ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนนายดูเตอร์เต้ยังให้สัมภาษณ์และด่ากราดโอบามาว่าเป็น“ลูก...” (Son of a bitch) ทำ ให้ทำเนียบขาวประกาศยุติการพบปะแบบทวิภาคีระหว่างโอบามากับดูเตอร์เต้ ต่อมาทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์แสดงความเสียใจที่นายดูเตอร์เต้กล่าว เช่นนั้นถือเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า
รายงานข่าวเปิดเผยว่าในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำเอ เชียนตะวันออกนั้นเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ได้มอบเอกสาร 38 หน้าแก่ที่ประชุมในนโยบายและการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพ ติดเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อผู้นำที่เข้าประชุมทั้งหมด
การประชุมสุดยอดอาเซียนมี 10 ประเทศสมาชิก หากเป็นอาเซียนบวก 3 (ASEAN Plus Three) มีเพิ่มเติมประเทศจีน-ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เข้ามาด้วย ในกรณี East Asian Summit มีอีก 5 ประเทศได้รับเชิญเข้าร่วมประกอบด้วย อินเดีย,ออสเตรเลีย ,นิวซีแลนด์ ,สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย ดังนั้นการประชุมที่เวียงจันทน์เป็นเจ้าภาพจึงมีผู้นำรวม 18 ประเทศเข้าร่วม
บารัค โอบามา ไม่ถือสาชี้ดูเตอร์เต้คงด่าติดปาก
ทางด้านนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯเปิดเผยว่าได้พบและจับมือกับนายร้อดริโก้ ดูเตอร์เต้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ในระหว่างไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงเวียงจันทน์ โดยไม่ถือสากับคำพูดของนายดูเตอร์เต้ที่เรียกเขาว่า “ลูก...” เพราะเห็นว่านายดูเตอร์เต้คงใช้คำพูดทำนองนี้จนติดเป็นนิสัย
นายโอบามากล่าวว่าสิ่งที่เขาใส่ใจคือการร่วมมือปราบปราม ยาเสพติดกับฟิลิปปินส์ และต้องการแน่ใจว่าฟิลิปปินส์ปฏิบัติตามบรรทัดฐานสากลยึดหลักนิติธรรม
นายดูเตอร์เต้ไม่ได้เรียกผู้นำสหรัฐฯว่า“ลูก...”เป็น คนแรก แต่เขาเคยใช้ถ้อยคำลักษณะนี้เรียกโป๊บฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ทั้งยังเรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำฟิลิปปินส์ว่าเป็นเกย์ ( Gay Ambassador) และ“ลูก...” (the son of a whore )พร้อมกับด่านายจอห์น เคอร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯว่าเป็นคนบ้า