มิน่าล่ะ..ออกกำลังกายอย่างหนักก็ไม่ผอมซักที...แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไม
โรคอ้วน น้ำหนักเกิน เป็นโรคระบาดทั่วโลก เพราะเราอยู่ในสังคมที่ส่งเสริมสนับสนุนการบริโภคทุกวิถีทาง ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหลับ เรา อร่อยเกิน สบายเกิน ได้ตลอดเวลา น้ำหนัก รอบเอว จึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่อ้วน น้ำหนักเกินทุกคนรู้ว่า ความอ้วนนำพาโรคภัยไข้เจ็บมาให้ แต่ก็ “รู้หมด อดไม่ได้” ในการลดน้ำหนัก ลดรอบเอว
บางคนชอบออกกำลังกาย แต่ก็ยังกินมาก เพราะยิ่งออกกำลังกายก็ยิ่งหิว ยิ่งหิวก็ยิ่งกิน น้ำหนัก/รอบเอวแทนที่จะลดลงกลับเพิ่มมากขึ้น จึงเกิดคำถามสำหรับผู้ที่ชอบไปเต้นแอโรบิกหน้าห้างสรรพสินค้าหรือในสวนสาธารณะ พอแอโรบิกเสร็จก็เข้าห้าง เข้าร้านอาหาร กินอาหารเดิมๆ ที่เคยกิน (ไม่ได้คุมอาหารเลย) จะลดน้ำหนักได้หรือไม่
การรวบรวมการศึกษาแบบ Systematic review and meta-analysis of randomized controlled trial การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการออกกำลังกายแบบแอโรบิกกับการลดน้ำหนัก ในฐานข้อมูลทางการแพทย์ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๑๓ จนถึงเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๓ ได้การศึกษาคุณภาพดี ๑๔ การศึกษา ในประชากร ๑,๘๐๐ กว่าคน ช่วงเวลาที่ออกกำลังกายแอโรบิกอย่างเดียว ๑๒ สัปดาห์ ถึง ๑๒ เดือน พบว่าผู้ที่ออกกำลังกายแอโรบิกโดยไม่ได้คุมอาหารได้ ๖ เดือนติดต่อกัน ช่วยลดน้ำหนักได้เฉลี่ย ๑.๖ กิโลกรัม และรอบเอวลดลงเฉลี่ย ๒.๑๒ เซนติเมตร ถ้าติดตามถึง ๑๒ เดือน น้ำหนักเฉลี่ยลดลง ๑.๗ กิโลกรัม (ลดเพิ่มขึ้นอีก ๐.๑ กิโลกรัมใน ๖ เดือนเท่านั้น) ส่วนรอบเอวลดลงเฉลี่ย ๑.๙๕ เซนติเมตร (รอบเอวกลับเพิ่มขึ้นจาก ๖ เดือนแรก ๐.๑๗ เซนติเมตรใน ๖ เดือนหลัง)
สรุปว่า ออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างเดียวโดยไม่ลดพลังงานที่กินจากอาหาร ลดน้ำหนักได้ไม่มากในระยะ ๖ เดือน และรอบเอวอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยที่ ๑๒ เดือน ดังนั้น การลดน้ำหนักรอบเอว จึงไม่แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างเดียว เพราะไม่ได้ผลมากพอ และไม่ได้ผลเลยในระยะยาว คงต้องคุมการกิน “พลังงาน” จากอาหารร่วมด้วย