ประชุม G 20 เจ้าหน้าที่รปภ.จีนเข้มงวดหนักไม่สนโต้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว“นี่คือประเทศเรา นี่คือสนามบินของเรา”

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังลงจากเครื่องบิน “แอร์ฟอร์ซ วัน” ที่สนามบินเมืองหางโจ จังหวัดเจ้อเจียง ประเทศจีนเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2016 (ภาพ รอยเตอร์)

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจีนรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดในการประชุมจี 20 ไม่สนใจสหรัฐแม้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวจะบอกว่าป็นเครื่องบินของสหรัฐและ ประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ถูกตอกกลับว่าที่นี่ประเทศจีน สนามบินของจีน เผยเสรีภาพหนังสือพิมพ์ก็ทำอะไรไม่ได้จะต้องเดินตามแนวทางของพรรค

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองหางโจว (Hangzhou) มณฑลเจ้อเจียง เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2016 ว่าได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อเครื่องบินโบอิ้ง 747 “แอร์ฟอร์ซ วัน”ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เดินทางมาถึงและจอดที่สนามบินเพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติ หรือ Government 20 โดยมีจีนเป็นเจ้าภาพการประชุม   

ภายหลังจากเครื่องบินจอด นางซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐพยายามที่จะเดินผ่านเชือกกั้นที่ใช้กั้น สื่อมวลชนไม่ให้เข้าไปใกล้ประธานาธิบดีสหรัฐทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความ ปลอดภัยของจีนเข้ามาขัดขวางพร้อมกับต่อว่าในลักษณะเกรี้ยวกราด ก่อนที่เจ้าหน้าที่ Secret Service หรือหนวยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐจะเข้ามาทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่จีนเพื่อเปิดทางให้กับนางไรซ์เข้าไปพบประธานาธิบดีโอบามา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางไรซ์ตอบโต้ว่าอย่างไรนั้นผู้ สื่อข่าวฟังไม่ชัดเพราะในระหว่างนั้นยืนรอทำข่าวและภ่ายภาพผู้นำสหรัฐอยู่ บริเวณใต้ปีกเครื่องบิน  Air Force One ที่ยังไม่ได้ดับเครื่อง อีกทั้งก็ยังไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่จีนที่เข้ามาขวางนางไรซ์นั้นทราบหรือไม่ ว่าเธอเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐไม่ใช่ผู้สื่อข่าว  

ก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่หญิงของทำเนียบขาวรายหนึ่งซึ่ง ทำหน้าที่ดูแลผู้สื่อข่าว(ที่เดินทางร่วมมากับประธานาธิบดีสหรัฐ) ว่าพวกเขาจะยืนอยู่ตรงไหนได้บ้างเพื่อบันทึกภาพของประธานาธิบดีโอบามาใน ระหว่างลงจากเครื่องบิน ทำให้เจ้าหน้าที่จีนผู้เดียวกันนี้เข้ามาขัดขวาง เธอจึงพูดไปว่า “นี่เป็นเครื่องบินของสหรัฐและของประธานาธิบดีสหรัฐ” แต่เจ้าหน้าที่จีนคนดังกล่าวตะโกนกลับเป็นภาษาอังกฤษว่า “นี่คือประเทศของเรา นี่คือสนามบินของเรา” (This is our country. This is our airport) ผู้ สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวบอกกับเจ้าหน้าที่จีนว่าโดยทั่วไป แล้วผู้สื่อข่าวจะไม่ถูกกันอยู่หลังเชือกกั้น พวกเขาสามารถที่จะเข้าไปสัมภาษณ์ประธานาธิบดีได้ถึงตัวเหมือนเช่นที่ปฏิบัติ ในสหรัฐ  

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบารัค โอบามา คงไม่รับทราบเพราะกำลังได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐในจีน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนที่มาให้การต้อนรับ  จากนั้นรถลิวมูซีนประจำตำแหน่งประธานาธิบดีก็ตรงออกจากสนามบินโดยมีนางซูซาน ไรซ์ ร่วมนั่งไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเหตุที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าพรรค คอมมิวนิสต์จีนพยายามควบคุมอย่างเข้มงวดกับสื่อต่างๆ อีกทั้งในการประชุมจี 20 ครั้งนี้จีนก็วางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมาก  การประชุมมีพิธีเปิดวันที่ 4 กันยายนและปิดประชุมวันที่ 5 กันยายน

สำหรับเมืองหวางโจเมื่อวันที่ 3 กันยายนนั้นบนถนนและห้างร้านต่างๆดูเหมือนว่าจะปิดเงียบผิดปกติ ทั้งๆที่เป็นเมืองที่มีประชาชนจำนวนมากกว่า 9 ล้านคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเข้าใจการควบคุมและเข้มงวดกับสื่อ ท้องถิ่นต่างๆและไม่เว้นแม้แต่สื่อต่างประเทศในจีน อีกทั้งยังมีการบล้อคเว็บไซต์ต่างๆด้วย

ในการเดินทางเยือนจีนครั้งก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโอบา มาเคยหยิบยกเรื่องเสรีภาพการแสดงออกของสื่อพูดกับผู้นำจีน แต่ก็ได้รับคำตอบว่าสื่อต่างๆจะต้องเดินตามแนวทางของพรรคและจะต้องเสนอข่าว ไปในทางบวก

สำหรับนางซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐเป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูต เคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฝ่ายกิจการแอฟริกาในสมัยที่ 2 ของประธานาธิบดีบิล คลินตัน,เคยเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำองค์การสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เมื่อฮิลลารี คลินตัน ไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ชื่อของเธอถูกเสนอทำหน้าที่แทน แต่ขณะนั้นสถานกงสุลสหรัฐที่เบงกาซี ประเทศลิเบียถูกโจมตีและมีเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐตาย 4 คน  กลายเป็นข้อถกเถียงกันมากทำให้เธอขอถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี ต่างประเทศและเข้ามารับหน้าที่ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติซึ่งตำแหน่งนี้ อยู่ในระดับเดียวกับรัฐมนตรี

ซูซาน ไรซ์ เดินทางมาจีนเมื่อเดือนกรกฎาคมเพื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง

ซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษาควมมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ (ซ้าย)กับจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในห้องประชุม  West Lake Statehouse เมืองหางโจ ประเทศจีนเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2016 โดยมีฝ่ายรักษาความปลอดภัยของจีนสตรียืนรักษาความปลอดภัย  (JONATHAN ERNST/REUTERS)