เอาแล้วไง... หมัดสองผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมันเรียกร้องให้ยุติการแซงชั่นรัสเซีย เกิดเหตุขู่วางระเบิดสนามบินแฟรงเฟิร์ตประเทศเยอรมันอพยพวุ่น
เอาแล้วไง... หมัดสองผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมันเรียกร้องให้ยุติการแซงชั่นรัสเซีย เกิดเหตุขู่วางระเบิดสนามบินแฟรงเฟิร์ตประเทศเยอรมันอพยพวุ่น
----------
1.) หลังจากที่เยอรมันและฝรั่งเศสควงแขนกันต่อต้านข้อตกลงการค้า TTIP ของสหรัฐเมื่อวานนี้ ในวันเดียวกันนี้ นาง Angel Merkel นายกรัฐมนตรีของเยอรมันก็ออกมาแสดงท่่าทีว่าอยากจะยกเลิกการแซงชั่นรัสเซียเต็มแก่แล้ว โดยวันที่ 30 ส.ค.59 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "แม์เกิลแห่งเยอรมันได้ 'มีความสนใจอย่างยิ่งยวด' ในการยุติการคว่ำบาตรทางการค้ารัสเซีย" (Germany’s Merkel Has 'Very Greatest Interest' in Ending Russia Sanctions)
ท่ามกลางการสร้างความสัมพันธ์รอบใหม่ระหว่างกรุงมอสโคว์และกรุงเบอร์ลินนั้น นายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เกิล ของเยอรมันได้ออกถึงความตั้งใจที่จะยกเลิกการแซงชั่นรัสเซียที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของกลุ่มประเทศตะวันตกจำนวนมากเริ่มจะผ่อนคลายจุดยืนของตนเองเกี่ยวกับการแซงชั่นกรุงมอสโคว์ และเมื่อเร็วๆนี้ ราววันที่ 19 สิงหาคม นางแมร์เกิลซึ่งเป็นบุคคลหนึ่งที่พูดทำนองสนับสนุนให้ปิดถนนที่จะนำไปสู่ความร่วมมื่อด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมทั่วโลก
แต่เมื่อวันจันทร์นี้ ดูเหมือนว่านายกรัฐมนตรีของเยอรมันจะเปลี่ยนจุดยืนโดยกล่าวว่าเธอมีความสนใจอย่างยิ่งยวดในการยุติการแซงชั่นรัสเซีย
นางแมร์เกิลกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "เมื่อพวกเรามีความก้าวหน้าในข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์กพวกเราก็จะคลายการคว่ำบาตรให้เร็วที่สุด" International Business Times รายงาน
[ขอตั้งข้อสังเกตว่าผู้นำเยอรมันยังไม่กล้าฟันธงซะทีเดียวว่าจะยกเลิกการแซงชั่นรัสเซียได้เมื่อไร การออกมาพูดแบบนี้ก็เพื่อแสดงท่าทีให้รัสเซียรู้ว่าเยอรมันไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับรัสเซียนะ และเพื่อให้สหรัฐในยามที่โอบามากำลังจะพ้นจากตำแหน่งว่าอียูเริ่มแข็งข้อต่ออิทธิพลของสหรัฐมากขึ้นเรื่อยๆ
ในความเป็นจริงนั้น สถานการณ์ในยูเครนตะวันออกยังมีการยิงตอบโต้กันอยู่เป็นระยะระหว่างฝ่ายรัฐบาลซึ่งมีสหรัฐและอียูหนุนหลังกับฝ่ายกบฏยูเครนซึ่งมีรัสเซียหนุนหลัง (แต่ที่ซีเรียนาโต้นำโดยสหรัฐหนุนพวกกบฏ รัสเซียหนุนฝ่ายรัฐบาล) มันเป็นไปไม่ได้ที่จะยกเลิกการแซงชั่นรัสเซีย หากฝั่งอียูอ้างเรื่องข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์ก เพราะว่ารัสเซียไม่ได้มีอำนาจไปสั่งการหรือควบคุมฝ่ายรัฐบาลยูเครนเลย พอฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ขัดแยังกันยิงปืนใหญ่หรือจรวดไปตกฝั่งตรงข้าม อีกฝ่ายก็ย่อมจะตอบโต้เป็นธรรมดา ต่างฝ่ายต่างก็อ้างว่าอีกฝ่ายกระทำก่อน แต่สหรัฐและอียูกลับลงแสร้รัสเซียแทน - ผู้แปล]
2.) ในวันเดียวกันนี้ ประธานาธิบดี Francois Hollande ของฝรั่งเศสก็ออกมาแถลงข่าวอีกว่า "การแซงชั่นต่อต้านรัสเซียเป็นอุปสรรคต่อโครงการต่างๆทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก" และได้เรียกร้องให้มีการยุติการแซงชั่นรัสเซียโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวในการกล่าวถ้อยแถลงต่อบรรดาเอกอัครราชทูตของฝรั่งเศสที่พระราชวัง Elysee ในกรุงปารีสเมื่อวันอังคารนี้
ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสกล่าวว่า "ผลกระทบต่อวิกฤตยูเครนจะต้องจบลงในความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป สำหรับผมแล้ว สถานการณ์เช่นนี้กำลังก่อให้เกิดความเสียหายระดับสูง เนื่องจากมันมีค่าใช้จ่ายสูงต่อผู้มีส่วนร่วมเหล่านั้นและอื่นๆ และมันก็เป็นอุปสรรคต่อโครงการทางเศรษฐกิจอีกมากมาย ก็เพราะการแซงชั่นเหล่านี้แหละ ดังนั้นมันจึงเป็นผลประโยชน์ของพวกเราที่จะขจัดความสัมพันธ์ประเภทนี้ให้ออกไปให้เร็วที่สุด และในวิถีทางที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
V
V
[หลังจากที่สหรัฐและอียูประกาศการทำสงครามแซงชั่นทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย ก็ถูกรัสเซียตอบโต้ด้วยการแซงชั่นกลับเช่นกัน ฝ่ายที่อ่วมที่สุดและสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในรัสเซียมากที่สุดก็คืออียู รัสเซียก็โดนหนักในช่วงแรก แต่ก็สามารถประคับประคองให้ตัวเองลุกขึ้นยืนได้ แม้จะอยู่ในช่วงที่ยังถูกสหรัฐและอียูแซงชั่นก็ตาม ในขณะเดียวกันกลับปรากฏว่ารัสเซียสามารถแสวงหาตลาดใหม่ ซัพพลายเอร์รายใหม่ หุ้นส่วนด้านการค้าใหม่ และได้พันธมิตรใหม่เพิ่มขึ้น (ศัตรูยังคงเป็นหน้าเก่าเหมือนเดิม) ใครเดือดร้อนหละคราวนี้? อียูสิครับ
ส่วนยูเครนไม่ต้องพูดถึง พวกนักการเมืองทำให้ประเทศเกิดความแตกแยกไปแล้ว พินาศยับเยิน เพระาไปหลงกลของสหรัฐและอียูว่าถ้าได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของอียูแล้วประเทศจะมีความก้าวหน้าชาวประชาจะหน้าชื่นตาบาน ที่ไหนได้ดูยูเครนในวันนี้เทียบกับก่อนที่จะเกิดวิกฤตยูเครนสิ แน่นอนรัฐบาลโปโรเชนโกของยูเครน สหรัฐ และอียูต่างก็พากันชี้นิ้วไปที่รัสเซียว่าเป็นสาเหตุของวิกฤตยูเครน - ผู้แปล]
3.) เมื่อสักครู่นี้ Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "อพยพวุ่นที่สนามบินแฟรงเฟิร์ตท่ามกลางการขู่วางระเบิด" (Evacuation Underway At Frankfurt Airport Amid Bomb Threat)
รายงานข่าวบอกว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ทำการอพยพผู้คนออกจากอาคารผู้โดยสารแห่งหนึ่งในสนามบินแฟรงเฟิร์ตหลังมีการขู่วางระเบิด และได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น "วันนี้ที่สนามบินแฟรงเฟิร์ต ผู้โดยสารจะต้องเข้าไปยังสถานที่ตรวจสอบด้านความปลอดภัยก่อนจะไปยังจุดตรวจได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว" สนามบินโพสต์ข้อความในทวีตเตอร์
โฆษกสนามบินกล่าวว่าการอพยพผู้คนเริ่มขึ้นเนื่องจากมีบุคคลต้องสงสัยคนหนึ่่งฝ่าด่านรักษาความปลอดภัยเข้าไปในสนามบินได้
[ก่อนหน้านี้คณะกรรมาธิการอียูได้มีคำตัดสินให้บริษัท Apple ของสหรัฐจ่ายภาษีย้อนหลังให้กับไอ์แลนด์ เพราะจากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่าบริษัทของสหรัฐกระทำผิดกฎหมายและหลบเลี่ยงภาษี และสหรัฐก็ขู่ว่าจะตอบโต้อย่างหนัก แต่ไม่ได้บอกว่าตอบโต้แบบไหน ต่อมาทั้งฝรั่งเศสและเยอรมันก็ร่วมมือกันต่อต้าน TTIP ของสหรัฐอีก ล่าสุดก็บอกว่าไม่เอาแล้วกับการแซงชั่นรัสเซีย อยากจะกลับไปขอจับมือกับรัสเซียเหมือนเดิม ท่าทีแบบนี้ขัดกับนโยบายของจักรวรรดิเฮเกโมนี่เจ้าโลกยิ่งนัก - ผู้แปล]
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
31/08/2559
------------