หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

25 ข่าวและปรากฏการณ์ในรอบปี '34...ปีแห่งความรุ่งโรจน์ของวงการบันเทิงไทย

โพสท์โดย SpiderMeaw

ในช่วงปี พ.ศ. 2534 เรียกว่าเป็นปีทองของวงการบันเทิงในเมืองไทย เป็นปีที่มีการเติบโต และเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้านต่าง ๆ ดังจะเห็นได้จากเรื่องราวและข่าวคราวต่อไปนี้ ที่น่าจะทำให้พวกเราทุก ๆ คนได้อมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ และแปลกใจอย่างนึกไม่ถึง มาทบทวนกัน...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

1. “จินตหรา” ลุยจอแก้ว
หลังหมดสัญญากับค่ายหนัง “ไฟว์สตาร์” เพราะเล่นหนังจอเงินมามากเรื่องเสียนาน “แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์” ก็ตัดสินใจลงจอแก้วเป็นครั้งแรกด้วยงานแสดงละครโทรทัศน์ที่ออกอากาศในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 เรื่อง 2 ช่อง คือ “สี่แผ่นดิน” และ “เชลยศักดิ์” ทำให้แฟนละครจอแก้วจดจำเธอคนนี้มากยิ่งขึ้น และพิสูจน์แล้วว่าเธอเล่นละครได้ดีไม่แพ้ตอนเล่นหนัง และเธอก็ทำหน้าที่ได้สำเร็จ คว้ารางวัลกลับมาอีกด้วย ซึ่งเราหวังว่าเธอยังคงเล่นละครควบคู่กับหนังอย่างต่อเนื่องต่อไป ตราบใดที่แฟนคลับของเธอยังศรัทธา  




2. “สี่แผ่นดิน” ละครน้ำดีแห่งปี
จากวรรณกรรมชีวิตอิงประวัติศาสตร์ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่มีการสร้างเป็นละครเวทีและละครโทรทัศน์มาแล้วหลายครั้ง จนเมื่อช่อง 3 นำมาทำละครโทรทัศน์สมัยใหม่ ก็เป็นที่สนใจอย่างมาก เพราะเป็นละครที่มีนักแสดงชั้นนำมาร่วมแสดงกันมากมาย แต่คนที่หนักหนาที่สุดก็เห็นจะเป็นมือใหม่จอแก้วอย่าง จินตหรา สุขพัฒน์ ที่ต้องรับบทเป็น “แม่พลอย” ในวัยสาวจนถึงวัยชรา ละครออกอากาศยาวจากเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนธันวาคม และมีการเปลี่ยนแปลงเวลาออกอากาศหลายครั้ง แต่ก็ไม่ทำให้แฟนละครต้องผิดหวังกับผลงานชั้นเยี่ยมชิ้นนี้  เพราะเป็นละครที่ครบอรรถรสจริง ๆ ทั้งสุข ทั้งเศร้า ไม่มีฉากรบราฆ่าฟันเหมือนละครพีเรียดเรื่องอื่น ๆ อีกทั้งยังได้ข้อคิดดี ๆ ในทุก ๆ ตอนที่ละครออกอากาศไปด้วย




3. “วิถีคนกล้า” หนังไทยลงทุนสูงที่สุดแห่งปี
หลังจากที่ ยุทธนา มุกดาสนิท พับโปรเจ็กต์ 2482 นักโทษประหาร ซึ่งหมดสิทธิ์ฉาย เลยขอยกกองถ่ายไปถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อถ่ายทำหนังเรื่องใหม่เอี่ยมของเขา ที่ว่ากันว่าเป็นหนังที่สร้างสถิติใหม่ให้กับวงการหนังไทยในรอบปีนี้ เพราะเป็นหนังที่ลงทุนสูงสุด ใช้ฟิล์มถ่ายทำเปลืองที่สุด ใช้เวลาถ่ายทำและตัดต่ออย่างพิถีพิถันนานร่วมปี โดยได้ดาราทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่มาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่ง ทั้ง จรัล มโนเพ็ชร, นรินทร์ ทองคำ, พุฒิชัย อมาตยกุล, ณ หทัย พิจิตรา และ ธิศวรรณ สุวรรณโพธิ์ จนเรื่องนี้เป็นที่ถูกตาของเหล่านักวิจารณ์และกรรมการตัดสินผลรางวัลจากสถาบันต่าง ๆ ผลก็คือได้รับรางวัลตุ๊กตาทองถึง 7 ตัว และรางวัลจากสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติเป็นครั้งแรกอีก 1 ตัว เรียกว่าเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีก็ว่าได้ แต่น่าเสียดายจังที่ผลงานดี ๆ เรื่องนี้กลับไม่ได้รับความนิยมจากคอหนังเท่าที่ควร อ้างว่าวิถีนี้ดูยากไปสักหน่อย...555




4. “กลิ้งไว้ก่อน พ่อสอนไว้” หนังไทยยอดฮิตแห่งปี
จากเรื่อง รักแรกอุ้ม และ พริกขี้หนูกับหมูแฮม ที่คอหนังประทับใจในความโรแมนติก สมจริง ศรีสุภาพ เจ้าของนิคเนม “คิง” ก็ลุยกำกับหนังเรื่องที่ 3 ของเขา ในชื่อที่ออกจะชวนเฮฮาตามประสาวัยรุ่น โดยนักแสดงของเรื่องเป็นหน้าใหม่เกือบทั้งหมด ทั้ง แท่ง ศักดิ์สิทธิ์, มอส ปฏิภาณ, หมอก ณัฐสิมา, ปิงปอง สะแกวัลย์, ปราโมทย์ แสงศร ฯลฯ ทำให้หนังเรื่องนี้ทำรายได้การฉายสูงสุดในรอบปี และเหล่านักแสดงที่กล่าวมาก็พลอยแจ้งเกิดไปด้วย จนมีหนังแนววัยรุ่นวัยเรียนที่จะตามมาอวดคอหนังอีกหลายเรื่องถึงกับเรียกว่าเป็นเทรนด์ฮิตของหนังสำหรับวัยรุ่นยุคนี้




5. ทีวี 24 ชม.
เรียกว่าเป็นการปลดแอกครั้งยิ่งใหญ่ของวงการโทรทัศน์ไทย หลังจากที่อัดอั้นอยู่นานหลายปี เมื่อคณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) มีมติอนุมัติให้สถานีฟรีทีวีทุกช่อง (3, 5, 7, 9, 11) ขยายเวลาเปิด-ปิดหรือเพิ่มเวลาการออกอากาศของทางสถานีตามนโยบายเสรี “ทีวี 24 ชั่วโมง” ไม่ใช่เปิดตอนเย็นแล้วเลิกตอนเที่ยงคืนเช่นแต่ก่อนแล้ว ทำให้ผู้จัดรายการและสตูดิโอต่าง ๆ มากมายตื่นตัวเข้ามาผลิตรายการและเช่าเวลาในช่วงเวลาที่เพิ่มขึ้นของทางสถานี  ซึ่งประชาชนก็จะรับรู้ข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงได้ตลอดทั้งวันเลย




6. กำเนิด “3 หนุ่ม 3 มุม”
นับเป็นละครจบในตอนของค่ายเพลงแกรมมี่ที่นำ “กบ ทรงสิทธิ์”, “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์” และ “มอส ปฏิภาณ” มาแสดงเป็นตัวนำเรื่องร่วมกัน เรื่องราวสนุก ๆ ดูวุ่น ๆ แต่จบที่ความเข้าใจของสามพี่น้องที่อาศัยในบ้านหลังเดียวกัน จึงเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าแฟนคลับของนักแสดงนำและผู้ที่ชื่นชอบละครแนวใหม่ ทำให้ทุกช่วงเย็นวันเสาร์ ที่ช่อง 7 สี เป็นช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นอีกช่วงหนึ่ง เพราะไม่ว่าใครเดินผ่านไปไหนก็เป็นต้องเจอ 3 หนุ่ม 3 มุม ได้สนิทใจแน่นอน




7. “แสงระวี” ฟีเวอร์
คงไม่มีผู้หญิงคนใดที่มาแรงสุดขีดได้เท่า “จุ๋ม-แสงระวี อัศวรักษ์” แน่นอน จากนางงาม นักบัลเล่ต์ มาเข้าสู่วงการบันเทิง ผ่านทั้งงานละครโทรทัศน์ ละครเวที โฆษณา มาสู่แวดวงเสียงดนตรี ทำให้เสียงเพลง “แมงมุม” จากเธอคนนี้ขยุ้มหัวใจคนนับสิบล้านได้สำเร็จ ภาพลักษณ์ในฐานะนักร้องจึงออกมาเป็นสาวเซ็กซี่ ที่เป็นที่กล่าวขานมากกว่าในแง่คุณภาพของเสียงร้อง เรียกว่าเอาจริง แรงจริง เป็นสุดยอดความเซ็กซี่แห่งปีที่ยังไม่มีใครทาบได้เท่ากับเธอคนนี้




8. “แม่เบี้ย” ละครแรงแห่งปี...แรงจนต้องย้ายเวลาดึกขึ้น
อาณาจักรบันเทิงอย่าง “กันตนา” เคยหยิบเรื่อง “แม่เบี้ย” มาสร้างเป็นหนังใหญ่ เรียกความนิยมได้พอสมควร แต่เมื่อกันตนาอีกเช่นกันหยิบเรื่องเดียวกันมาสร้างเป็นละครจอแก้วในอีก 2 ปีถัดมา ก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นกลางอากาศระหว่างที่ละครกำลังฉายอยู่ทางช่อง 7 สี เพราะละครเรื่องนี้มีฉากเลิฟซีนที่เร่าร้อน จนชื่อเสียงของผู้ที่มาเป็นเมขลา อย่าง แสงระวี อัศวรักษ์ ในฐานะนักแสดงนั้นดังกระเดื่องไม่แพ้ในฐานะนักร้องออกเทป จนทาง กบว. มีมติให้ย้ายวันเวลาออกอากาศ จากปกติในวันพุธ และวันพฤหัสบดี ตอน 3 ทุ่ม ไปเป็นในคืนวันอังคาร เวลา 4 ทุ่มครึ่งจนละครอวสาน แม้อาจจะดึกไปหน่อยสำหรับคนที่พยายามชม แต่ภาพแรง ๆ จากละครเรื่องนี้ยังคงเป็นที่ติดตาชั่วนิรันดร์




9. “เบิร์ด” ส่งท้ายแฟน ๆ ก่อนลาพัก กับ “ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด”
หลังจากเข็นอัลบั้ม “พริกขี้หนู” ออกมาให้แฟน ๆ ได้ครื้นเครงมาหลายเดือน ก็ถึงเวลาที่ซูเปอร์สตาร์เมืองไทย “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” เปิดแสดงคอนเสิร์ต แบบ เบิร์ด เบิร์ด ครั้งใหม่ในชื่อตอน “ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด” ซึ่งครั้งนี้เรียกเสียงกรี๊ดที่ไม่สิ้นสุดแน่นศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยกันตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. ถึง 15 ก.ย.

พร้อมความหลากหลายทั้งการแสดงและแขกรับเชิญที่แฟนเพลงจะต้องประทับใจ แต่ไม่น่าเชื่อว่าพี่เบิร์ดของแฟน ๆ จะเล่นคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนลัดฟ้าไปพักผ่อนที่ต่างแดนชั่วคราว ซึ่งในการนี้เขายังได้ฝากบทเพลงที่มีชื่อเดียวกับคอนเสิร์ต โดยเอาชื่อบทเพลงต่าง ๆ ที่ผ่านมาของเขามาร้อยเรียงอยู่ในบทเพลง เป็นการทิ้งท้ายไว้ให้แฟนเพลงได้ระลึกถึงและซาบซึ้งไปกับบทเพลงจากเขาคนนี้


 

10. “ตูมตาม” ดาราเด็กเนื้อหอมที่สุดแห่งปี
ถ้าจะกล่าวถึงดาราเด็กไทยที่โด่งดังและมีค่าตัวสูงสุดเหนือกว่าใคร ก็เห็นจะมีเพียง ด.ช.วศิน มีปรีชา หรือน้องตูมตามนี่แหละ ที่ยังเป็นขวัญใจของผู้ใหญ่และเด็ก ๆ ด้วยกัน เด็กวัย 6 ขวบ กับค่าตัว 6 หลักคนนี้มีผลงานแสดงให้เห็นในหลาย ๆ สื่อและแทบจะทุกวัน จนคุณแม่ พิราวรรณ ประสพศาสตร์ ต้องเลี้ยงลูกหนักกว่าเดิม แม้จะมีข่าวที่ออกมาไม่ดีไม่งามในสายตาผู้ใหญ่ออกอยู่บ้าง แต่ด้วยความน่ารักน่าถนอม ก็ไม่ได้ทำให้ประกันความดังของเจ้าตัวน้อยคนนี้เลือนหายไป โลกนี้จึงมีเพียงตูมตามเท่านั้นที่กล้าได้...จริง ๆ นะตัวแค่เนี้ย




11. “ลูกศร” ออกเทปทิ้งทวนก่อนลัดฟ้าไปเรียนต่อที่บอสตัน
ทำเอาแฟนคลับใจหายใจคว่ำเมื่อ“ลูกศร-ธนาภรณ์ รัตนเสน” ดาราสาวที่เก่งทั้งเรื่องเต้น เล่นละคร และร้องเพลง จะไปเรียนต่อด้านการจัดการที่บอสตัน สหรัฐอเมริกา แต่ก่อนหน้านั้นเธอได้ฝากผลงานแสดงละครเรื่อง “ตะวันชิงพลบ” และออกอัลบั้มเดี่ยวชุด “ลูกศรลมกรด” ที่ฉีกภาพลักษณ์คุณหนูที่คุ้นตามาเป็นสาวเปรี้ยว จนผู้สันทัดกรณีบางท่านมองว่าจะตีตลาดแข่งกับ จุ๋ม แสงระวี ทั้งในเรื่องของซาวด์ดนตรี การร้อง และการแต่งกายของนักร้อง

อีกทั้งมีการทุ่มโปรโมทผ่านนิตยสารทีวีพูล ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับค่ายเทป ซาวด์โปรเจ็กต์ เทปชุดนี้จึงเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แถมยังได้ออกคอนเสิร์ตทางรายการโลกดนตรี และ 7 สีคอนเสิร์ต อีกด้วย ซึ่งจากนั้นแทนที่จะเดินสายไปโชว์ตัวทั่วประเทศ เธอกลับต้องสั่งลาแฟนคลับไปเรียนต่อทันที อีกแป๊บเดียวก็จะกลับสู่มาตุภูมิแล้ว




12. “เจ-ทัช-ติ๊ก-ติ๊นา” ศึกป๊อปแดนซ์ สนั่นเมือง!!
เรียกว่าเป็นปีแห่งความตื่นเต้นของวงการเพลงไทย เพราะแนวดนตรี “ป๊อปแดนซ์” ระบาดถึงเมืองไทย ค่ายเพลงต่าง ๆ ก็ดึงนักร้องหน้าใหม่ออกมาร้องมาเต้นกันทั่วบ้านทั่วเมือง โดยค่ายแกรมมี่นำร่องด้วยสาวเฉี่ยวอย่าง “คริสติน่า อากีล่าร์” ตามมาด้วยหนุ่มหล่อน้องชายของสมาชิกวงนูโว “เจ เจตริน” ทางด้านคู่แข่งอย่างอาร์เอสก็ส่ง “ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง” ที่แม้จะเป็นอัลบั้มชุดที่สองของเขา แต่ก็เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในฐานะหนุ่มเท้าไฟ 

 อีกค่ายที่ช่วงหลัง ๆ ส่งอัลบั้มรวมเพลงซูเปอร์ฮิตออกมาไม่ขาดสายอย่างนิธิทัศน์ ก็พา “ติ๊ก ชิโร่” อดีตมือกลองวงพลอย มาลุยเดี่ยวด้วยสไตล์การร้องและเต้นในแบบของตัวเอง พวกเขาและเธอที่เอ่ยถึงก็โด่งดังกันถ้วนหน้า รวมไปถึงมือใหม่หัดเต้นอีกมากมายก็ต่างโยกย้ายส่ายเอวไปตาม ๆ กัน นั่นคือกระแสหลักของปีนี้




13. ดาราออกเทป..อีกแล้ว มาช่ามาแล้ว-จารุณีขีดเอง
ลากยาวต่อจากหลายปีที่แล้วกับกระแสดาราออกเทป โดยปีนี้มีนางเอกยอดนิยมอย่าง “จารุณี สุขสวัสดิ์” กับ “มาช่า วัฒนพานิช” ซึ่งเคยร้องเพลงประกอบโน่นประกอบนี่มาบ้าง แต่คราวนี้เป็นการออกเทปอย่างเต็มตัว ทำให้ได้แฟนคลับเพิ่มอีกกลุ่มหนึ่งคือคนที่ชื่นชอบในเสียงเพลง โดยจารุณี แต่งตัวเข้าคีตามาดังระเบิดกับเพลง แจงแวง

ขณะที่ มาช่า แต่งตัวเข้าแกรมมี่ มาในแบบร็อกเบาเบาพร้อมนำเพลง แตกหัก ออกสู่ความนิยมได้อย่างรวดเร็ว เลยโด่งดังกันไปทั้งคู่ นี่อาจรวมถึง ปวีณา ชารีฟสกุล จากหนังเรื่อง เวลาในขวดแก้ว ที่(กลับมา)ดังในชุด ไม่ใช่ของเล่น กับ เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ที่จะมาแย่งชิงตลาดอีกด้วย




14. เกมส์โชว์ดัง ทำแจ็คพอตแตกถี่ยิบ
ในช่วงปีนี้ หากใครติดตามชมรายการประเภทเกมส์โชว์ทุกรายการ คงรู้กันแล้วว่าเป็นปีที่มีการทำแจ็คพอตแตกอยู่หลายครั้งจากหลายรายการด้วยกัน อาทิ มาตามนัด, จุดเดือด, เจาะใจใส่จอ, เวทีทอง รวมถึงรายการ “ชิงร้อยชิงล้าน” ที่ปีนี้มีผู้พิชิตเงินล้านถึง 3 คู่ ได้แก่ ป้าทอง-สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต กับหลานชาย, ฝาแฝด ดาว-เดือน และคู่นักมายากล ฟิลลิป-ลิซ่า

โดยเฉพาะคู่หลังนี้ไม่เคยเล่นเกมส์โชว์มาก่อนเลย เมื่อทั้งคู่ตอบคำถามสุดท้ายตรงกัน เงินล้านก็หาเขาและเธอทันที เป็นที่ดีอกดีใจทั้งผู้แข่งขันเอง พิธีกร เจ้าของรายการ และผู้ชมทางบ้านที่ร่วมลุ้นร่วมเชียร์มาตลอดรายการ




15. “คาราบาว” จัดคอนเสิร์ตรวมวงยุคคลาสสิกฉลอง 10 ปี
สมาชิกวงคาราบาวยุคคลาสสิกที่สร้างชื่อจากอัลบั้มเมดอินไทยแลนด์ ได้กลับมารวมตัวเฉพาะกิจขึ้นคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย(?) เมื่อวันที่ 25-26 พ.ค. ในโอกาสที่คาราบาวมีอายุ 10 ปี จะขาดเพียง เขียว-กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร ที่ติดภารกิจทำอัลบั้มของตัวเอง จนที่ เอ็มบีเค ฮอลล์ มาบุญครอง เนืองแน่นไปด้วยแฟนเพลงทั้งเก่าทั้งใหม่ที่มาร่วมรำลึกด้วยกัน

งานนี้คาราบาวขนบทเพลงของพวกเขาตั้งแต่ชุดแรกมาบรรเลงให้ได้ฟังกันอย่างเต็มอิ่ม อีกทั้งมีการสร้างสีสันด้วยแขกรับเชิญ ไม่ว่าจะเป็นทีมนักดนตรีออเคสตร้าที่มาร่วมบรรเลงบทเพลงที่ยิ่งใหญ่ การแสดงรำกลองยาว และการแสดงลำตัดเด็กที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเดินทางตลอด 10 ปีของคาราบาว สอดแทรกมุขตลกอิงกระแสได้อย่างน่าขบขัน  เรียกว่าเป็นคอนเสิร์ตที่สมบูรณ์แบบและประทับใจกันไปตลอดงานแม้จะขาดเพียงบางอย่างก็ตาม




16. “สุสานคนเป็น” ละครดังแห่งปี
แฟนละครช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ เคยติดตามชมละครเรื่อง คู่กรรม จนเป็นละครที่ทำสถิติเรตติ้งสูงสุดในรอบปีก่อน(และหลายปีก่อน) มาถึงปีนี้ละครแนวสยองเรื่องนี้ก็ทำให้แฟนละครต้องติดตามและลุ้นกันตลอดเรื่อง เพราะแรงฤทธิ์ของคุณนายลั่นทม ซึ่งรับบทโดย แก้ว อภิรดี ระบาดกันไปทั่วทุกมุมเมือง คว้าตำแหน่งละครที่มีเรตติ้งสูงสุดแห่งปีได้อย่างสุดใจ ส่วนละครที่ติดอันดับรองลงมาอย่าง ความรักของคุณฉุย และ ริษยา ของช่อง 7 สี่แผ่นดิน ของช่อง 3 และ สะใภ้สารพัดพิษ ของช่อง 5 ก็ดูตื่นเต้นไม่แพ้กัน นั่นคือความนิยมในรอบปีที่ผ่านไป




17. “กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน” บุกเบิกหนังฟิล์มนัวร์สัญชาติไทย
เรียกว่าเป็นการฉีกความจำเจของวงการหนังไทย เมื่อผู้กำกับมือทอง มานพ อุดมเดช จับมือกับ ทีเคอาร์กรุ๊ป สร้างหนังชื่อยาวเรื่องนี้ขึ้นมาในลักษณะฟิล์มนัวร์ (Film Noir) หรือหนังสะท้อนด้านมืด เป็นเรื่องแรกของเมืองไทย นำแสดงโดย ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย, อังคณา ทิมดี, มานพ อัศวเทพ

และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุรศักดิ์ วงษ์ไทย ที่พลิกมาดดาราจอมกวนมาออกซีเรียสหน่อย ๆ และก็ไม่ทำให้แฟนคลับของหนุ่มเอ็มต้องผิดหวัง เมื่อเขาได้รับรางวัลผู้แสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมจากสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1 อีกทั้งหนังยังได้รับรางวัลอีกหลายเวที แม้ว่าหนังเรื่องนี้ได้รับคำชมไม่น้อย แต่ในความนิยมเมื่อเป็นหนังทางเลือกใหม่ที่ดูไม่ชินตานัก รายได้ของหนังก็เลยไม่เปรี้ยงปร้างเช่นเดียวกับหนังเรื่องวิถีคนกล้า




18. หนังไทยชื่อแปลก!!!
ในห้วงปี 2534 มีหนังไทยที่เข้าฉายมากกว่า 100 เรื่อง ซึ่งในจำนวนนั้นมีหนังที่ตั้งชื่อแปลก ๆ อยู่หลายเรื่อง ทั้งหนังที่ตั้งชื่อย๊าว...ยาว บ้างก็ตั้งชื่อจนแปลไม่ออก ไม่ว่าจะเป็น กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน, กลิ้งไว้ก่อน พ่อสอนไว้, บุญชู 6 โลกนี้ดีออกสุดสวยน่ารักน่าอยู่ถ้าหงุ่ย หรือจะเป็น สยึ๋มกึ๋ย, มาห์, โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ, ม่อกสองต้องได้สาม

รวมถึงหนังที่ใกล้จะฉายอย่าง รองต๊ะแล่บแปล๊บ, ยุ่งดะมะด๊อง ฯลฯ ทำเอาคนดูหนังทั้งหลายแหล่เกิดอาการมึนงงไปกับชื่อหนัง มีข้อสันนิษฐานว่า การที่ตั้งชื่อหนังแบบนี้นั้นเป็นภาษาวัยรุ่น เพราะกลุ่มเป้าหมายผู้ชมหลักที่เข้าใจได้ดีที่สุดคือวัยรุ่นเท่านั้น ก็คาดการณ์ว่าในปี 2535 จะมีหนังไทยชื่อแปลกปล่อยออกมาอีกมากกว่านี้ และเมื่อนั้นวงการหนังไทยคงจะอ้ารับกับความมึนงงที่มันกว่าเดิมแน่ ๆ


 

19. “เท่ห์ อุเทน” นักร้องดาวรุ่งวัยละอ่อนแห่งปี
เดินทางจากเชียงใหม่  “เท่ห์-อุเทน พรหมมินทร์” หนุ่มน้อยนิคเนมแปลกวัย 17 ปีที่ผ่านประสบการณ์การร้องเพลงและเล่นดนตรีมาอย่างโชกโชน ก็ได้เวลาออกเทปของตัวเองในชื่อชุด “แด่คนหวังดี” จากการสนับสนุนของ ชัย ศิษย์ประเสริฐ อัลบั้มชุดนี้มีหลายเพลงที่เลียนทำนองจากเพลงประกอบหนังจีนชื่อดัง

แต่บทเพลงที่สร้างชื่อได้มากที่สุดก็คือ "โกหกหน้าตาย"  ด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบป่าล้อมเมือง ผลตามมาก็คือยอดขายเทปของเขาถล่มทลาย ด้วยความสามารถ ลีลา น้ำเสียงอันหวานหยดของเขา จึงเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงได้อย่างรวดเร็ว เหตุนี้เองเท่ห์จึงเตรียมบันทึกเสียงในอัลบั้มชุดต่อไปทันที




20. มวยนัดสุดท้ายของ “เขาทราย” รายการถ่ายทอดสดที่มีเรตติ้งสูงสุดแห่งปี
เมื่อช่วงหัวค่ำของวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค. มีการแข่งขันชกมวยสากลป้องกันแชมป์โลกนัดที่ 19 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายก่อนแขวนนวม ของนักชกไทยนาม “เขาทราย แกแล็กซี่” ที่สนามเทพหัสดิน โดยมีแขกระดับวีไอพีมาร่วมชมมวยนัดนี้กันอย่างคับคั่ง รวมถึงนายกรัฐมนตรี อานันท์ ปันยารชุน

นัดนี้เขาทรายต้องมาเจอกับนักชกดีกรีรองแชมป์โลกจากเม็กซิโก นามว่า “อาร์มันโด คาสโตร” ผลปรากฏว่าเขาทรายเอาชนะคาสโตรอย่างเป็นเอกฉันท์ ท่ามกลางความสนใจอย่างใจจดใจจ่อของคอมวยทั่วประเทศที่เปิดโทรทัศน์รับชมการถ่ายทอดสดไฟท์สำคัญครั้งนี้ จนสภาพการจราจรในหัวเมืองดูโล่งถนัดตา และขึ้นเรตติ้งอันดับ 1 ของรายการถ่ายทอดสดในรอบปีเลยก็ว่าได้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและความซาบซึ้ง ไม่เว้นแฟนสาวชาวยุ่นของเขาทรายที่คอยให้กำลังใจและร้องไห้โฮถึงขอบสนาม เพราะอีกไม่นานทั้งคู่ก็จะเข้าพิธีวิวาห์กันแล้ว




21. “ศาลาเฉลิมกรุง” ปิดปรับปรุง
และแล้วความสุข ความบันเทิง เป็นอันต้องเปลี่ยนแปลงเป็นลูกใหญ่ หลังจากที่ศาลาเฉลิมไทยต้องรื้อทิ้งเพื่อสร้างสถานที่ใหม่เมื่อ 3 ปีก่อน ศาลาเฉลิมกรุง จุดนัดพบกลางใจของคอหนังมากว่า 60 ปี ก็ต้องปรับเปลี่ยนรูปโฉม โดยไม่ได้รื้อทิ้งเช่นศาลาเฉลิมไทย แต่เพื่อต้องการปรับเปลี่ยนเป็นโรงแสดงละครที่ทันสมัยสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่โรงมหรสพที่จัดฉายภาพยนตร์อยู่เป็นประจำอีกแล้ว

ซึ่งจะปรับทิศทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ชม และเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ของตนเองใหม่ให้ดูโอ่อ่ากว่าเดิม โดยที่โครงสร้างอาคารบางส่วนยังคงสภาพเดิมไว้ งานนี้สร้างความเสียดายและความอาลัยของคอหนังอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ต้องเสียใจมากขนาดนั้น แค่ปิดปรับปรุงสักสองสามปี ไม่แน่ว่าอาจจะมีการฉายหนังเป็นกรณีพิเศษด้วยก็เป็นได้ ทำใจไว้เถิดคนไทย ศาลาแห่งความสุขกลางกรุงจะกลับมาแน่นอน




22. “ธรรมศักดิ์” นักพากย์ชื่อดัง อ้างพระเอกเป็นเอดส์!?
ทำเอาผู้ชมรายการ สี่ทุ่มสแควร์ เมื่อคืนวันหนึ่งต้องตกตะลึงถึงกับเป็นข่าวใหญ่ เมื่อทางรายการได้เชิญคุณธรรมศักดิ์ สุริยน นักพากย์และนักแสดงชื่อดังมาเปิดใจชีวิตครอบครัวและการทำงานของเขา แต่มาติดที่สุดในช่วงที่อางูทำนายวงการบันเทิงว่า มีพระเอกหนังไทยชื่อดังบางคนกำลังเป็นโรคเอดส์

จนต้องมีการควานหาตัวพระเอกคนนั้นให้เจอ แต่ผลสรุปก็ยังไม่เปิดเผย งานนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการบันเทิง โดยเฉพาะ อ.ไพจิตร ศุภวารี นายกสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติคนแรก ได้มาตักเตือนกรณีดังกล่าว โดยกล่าวว่า การพูดอ้างอิงของคุณธรรมศักดิ์นั้นเป็นการพูดโดยไม่ยั้งคิด ปากมันพาไปมากกว่า และขอวิงวอนดารานักแสดงและคนทำงานในวงการบันเทิงทุกคนเล็งเห็นและรณรงค์ปัญหาโรคเอดส์ เพราะเอดส์รักษาไม่ได้แต่ป้องกันได้นะจ๊ะ




23. กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยระลอกสอง “พุ่มพวง” ขานเพลงส้มตำจนกระหึ่ม
หลังจากประสบความสำเร็จในคอนเสิร์ต “กึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย” เมื่อปี 2532 สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเล็งเห็นว่ายังมีบทเพลงลูกทุ่งดี ๆ อีกมากมายที่สมควรได้รับการยกย่อง จึงจัดคอนเสิร์ตภาค 2 ขึ้นมาเอาใจคอเพลงลูกทุ่งร่วมสมัย เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทอดพระเนตรการแสดงครั้งนี้  โดยทีเด็ดของงานครั้งนี้อยู่ที่ราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ซึ่งนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลได้เดินทางมาขึ้นเวทีคอนเสิร์ต โดยอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพฯ “ส้มตำ” มาขับกล่อมต่อหน้าพระที่นั่งฯ

ซึ่งหลังจากวันนั้นเพลงนี้ก็กลายเป็นเพลงดังไปอีกเพลงที่ดังยิ่งกว่าต้นฉบับเสียอีก จนมีคนเอาไปร้องต่อจนติดปากมากมาย




24. “ขยี้” หนังที่ยังไม่ฉาย แต่ได้รางวัลตุ๊กตาทอง 4 ตัว
นับเป็นเรื่องฟลุคแห่งปีของวงการหนังไทย เมื่อผลประกาศรางวัลตุ๊กตาทอง ประจำปี 2534 ปรากฏว่า ภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นขวัญใจภูธรเรื่อง “ขยี้” ของผู้กำกับ ปุ๊ก ยังเติร์ก คว้ารางวัลทั้งสิ้น 4 สาขา (เป็นรองจากเรื่องวิถีคนกล้าที่ได้รับรางวัลมากที่สุด) อันได้แก่ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บันทึกเสียงยอดเยี่ยม, ผู้แสดงสมทบฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม

โดย กันตา ดานาว และ ผู้แสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม โดย ลิขิต เอกมงคล และ สามารถ พยัคฆ์อรุณ รับรางวัลร่วมกัน ท่ามกลางเสียงอื้ออึงและความงงงันของคอหนัง เพราะเป็นหนังที่ยังไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ อีกทั้งมีอุปสรรคขณะการถ่ายทำมากมาย ทำให้ทุนสร้างบานปลาย จนป่านนี้ก็ยังไม่มีใครได้ดูหนังม้ามืดอย่างเรื่องนี้เลยแม้แต่คนเดียว




25. “จอนนี่-จริยา” พบรักนอกจอ
นายแบบและอดีตนักดนตรีวงแกรนด์เอ็กซ์ที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงอย่าง จอนนี่ แอนโฟเน่ มาลงเล่นละครเวทีเป็นครั้งแรกในเรื่อง “สุดสายปลายรุ้ง” ของแดสเอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ซึ่งต้องพบกับนางเอกของเรื่องคือ นก-จริยา สรณะคม และ ส้มโอ-เพ็ญ พิสุทธิ์ ดาราช่อง 3 ทำให้ผู้ชมในโรงละครเอยูเออินไปกับความโรแมนติกของเขาและเธอ

จนเกิดข่าวที่หลายคนไม่คาดคิด คือ จอนนี่ กับ นก จริยา ซึ่งมีอายุมากกว่า พบรักนอกจอกันจริง ๆ เป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ อยู่นับเดือน (ก่อนจะแต่งงานกัน จนมีครอบครัวแล้ว) ทางด้าน เพ็ญ พิสุทธิ์ ก็กำลังคบหากับดีเจชื่อดัง วินิจ เลิศรัตนชัย (และก็ได้แต่งงานจนมีครอบครัวอีกเช่นกัน)




- - - - - - - - - - -

*ขอแถมให้อีกหนึ่งเรื่องเป็นกรณีพิเศษที่คงจะทำให้ทุกคนต้องจดจำ*

3579 พร้อมใจถ่ายทอดรายการพิเศษวันพ่อตลอดวัน
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. สิ่งที่ประชาชนพร้อมใจกันก็เกิดขึ้นเมื่อทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยความร่วมมือของสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ผุดโปรเจ็กต์สำคัญที่รวมตัวได้ยากนัก(เพราะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว) ด้วยการนำรายการที่โด่งดังของแต่ละช่อง มาจัดทำรายการพิเศษการกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่ 10 โมงเช้า ไปจนถึงเที่ยงคืน  

ซึ่งจะนำรายได้จากการจัดรายการเข้าสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆทำให้สภาพการจราจรในวันนั้นดูปลอดโปร่ง เพราะคนดูอยู่บ้านเปิดจอตู้กันทั้งวัน จนไม่จำเป็นต้องกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปไหนเลย โดยรายการที่เข้าร่วมในวันนั้น ได้แก่ โลกดนตรี, มาตามนัด, ทไวไลท์โชว์, ตามไปดู, สี่ทุ่มสแควร์ และละครเทิดพระเกียรติเรื่อง จากฟ้าสู่ดิน ที่นำแสดงโดย ฉัตรชัย เปล่งพานิช ตัวแทนจากวิก 3 กับ กมลชนก โกมลฐิติ ตัวแทนจากวิก 7 สี




- - - - -(ภาพและข้อมูล รวบรวมจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดเรื่องที่เกิดขึ้นในปี 2534) - - - - - -

 

ภาพ 3 นักร้องหนุ่มขาแดนซ์แห่งปี '34 จาก 3 ค่ายยักษ์ มารวมตัวกันในอีก 20 กว่าปีถัดมา


ขอบคุณที่มา:คนหยังเขียด (สมาาชิกเวบไซต์พันทิป)
http://pantip.com/topic/35519243?utm_source=facebook&utm_medium=pantip_page&utm_content=Boom&utm_campaign=35519243
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
SpiderMeaw's profile


โพสท์โดย: SpiderMeaw
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
72 VOTES (4/5 จาก 18 คน)
VOTED: iLay, Ployza, oLuxo, แมวฮั่ว แมวขี้น้อยใจ, เลี้ยงเห็ดครับเนาะ, Sailor Mercury, Dont sweat it, ผะอบทิพย์, pe pe, เสียสติ, zerotype
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เมืองจันทบุรีแจงข่าวรถทัวร์ควันพุ่งเจมส์ พอตเตอร์ เป็นคนเลวจริงหรือ ?5 กับดักชีวิตที่ควรก้าวข้ามถ้าอยากมีชีวิตที่ดียุคอดีตของวงอิสซึ่น ( ISN'T )คุณแม่สงสัยทำไมไม่มีใครเล่นกับลูกสาวเลย ก่อนรู้ความจริงจากครู ทำแม่รู้สึกผิดคุ้มเจ้าหลวงเชียงใหม่ พลตรีเจ้าแก้วนวรัฐอุทาหรณ์!พ่อติดเครื่องเก๋งซื้อนมผง ไม่ถึง 2 นาที ประตูล็อคลูกสาววัย 2 ขวบติดสิ่งที่คุณเห็นเป็นอันดับแรก..บอกนิสัยคุณ (1)เกิดอะไรขึ้น ทนายแก้วประกาศชัด “โง่แค่เงียบ” หลังถูกมือดีพยายามดิสเครดิต
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เมืองจันทบุรีเจมส์ พอตเตอร์ เป็นคนเลวจริงหรือ ?อุทาหรณ์!พ่อติดเครื่องเก๋งซื้อนมผง ไม่ถึง 2 นาที ประตูล็อคลูกสาววัย 2 ขวบติด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
อุทาหรณ์!พ่อติดเครื่องเก๋งซื้อนมผง ไม่ถึง 2 นาที ประตูล็อคลูกสาววัย 2 ขวบติดป้าหลามเหนียวเมืองคอนเฮ! ถูกหวย 12 ล้าน แก้บนครูหมอมโนราห์ เหมาหนังน้องเดียว,มโนราห์ไข่เหลี่ยม ปะทะ เอกชัย ศรีวิชัยแจงข่าวรถทัวร์ควันพุ่งเกิดอะไรขึ้น ทนายแก้วประกาศชัด “โง่แค่เงียบ” หลังถูกมือดีพยายามดิสเครดิต
ตั้งกระทู้ใหม่