เรื่องของฮาจิโกะ หมาผู้ซื่อสัตย์
– เรื่องของฮาจิโกะ –
________________
.
ถ้าพูดถึงสุนัขที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกในฐานะ หมาน้อยผู้ซื่อสัตย์ผู้รอคอยเจ้านายของมันตลอดเวลา ณ สถานีรถไฟชิบุยะทุก ๆ วัน แม้ว่า เจ้านายของมันจะตายไปแล้วก็ตาม เรื่องราวของมันกลายเป็นที่ประทับใจไปทั่วโลกทีเดียว
.
เราเลยต้องนำเรื่องราวของมันมาเล่าอีกครั้ง
.
ฮาจิโกะ เป็นสุนัขพันธุ์อะกิตะ เป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมืองที่ศาสตาจารย์นามว่า เอซะบุโระ อุเอะโนะ" ศาสตราจารย์ภาควิชาการเกษตรกรรมแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียวได้เลี้ยงเอาไว้ มันเป็นสุนัขที่ฉลาดแสนรู้และซื่อสัตย์ต่อเจ้านายเป็นอย่างยิ่ง ทุก ๆ วันมันจะวิ่งไปรับเจ้านายของเขาที่สถานีชิบุยะเสมอ ๆ เพื่อรอเขากลับมาจากทำงาน มันทำแบบนี้ทุกวันจนแทบเป็นภารกิจของมันด้วยซ้ำ
.
ทว่าวันหนึ่งเจ้านายของมันอย่างศาสตราจารย์อุเอะโนะได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหันด้วยภาวะเลือดออกในสมอง
.
เขาไม่ได้กลับไปหาฮาจิโกะเหมือนเช่นปกติอีกแล้ว
.
แต่เจ้าหมาน้อยก็ไม่มีวันรู้ว่า เจ้านายของมันตายไปแล้ว มันยังคงไปรอเขาอยู่ที่นั่นทุกวัน แม้ว่า จะมีคนพยายามบกมัน มันก็ไม่สนใจและรอคอยเจ้านายของมันให้กลับมา
.
เรื่องราวของฮะจิโกเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากกระแสปากต่อปาก จากคนสู่คน หลายคนเห็นมันมารอแบบนั้นแทบทุกวัน ตอนแรกก็มีคนพยายามไล่มันไปด้วยซ้ำ แต่เพราะ กระแสของผู้คนที่เข้าใจว่า มันคือ หมาน้อยที่รอคอยการกลับมาของเจ้านายของมัน แม้ว่า เขาจะไม่มีวันได้กลับมาอีกแล้วเท่านั้น ความประทับใจนี้กลายเป็นเรื่องราวที่เล่าขานผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ในปี 1932 เรื่องราวของมันถูกตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์อาซาฮีทำให้ชื่อเสียงของ ฮาจิโกะ หมาน้อยผู้ซื่อสัตย์โด่งดังไปทั่วมีคนไปเยี่ยม ไปให้กำลังใจมัน ให้อาหาร หรือช่วยเหลือมันแทบตลอดเวลา
.
แม้ว่าเจ้านายของมันจะตายไปกว่า 9 ปีแล้วก็ตาม
.
มันยังคงรอคอยเจ้านายอยู่แบบนั้นไม่เปลี่ยนไป
.
ชื่อเสียงของฮาจิโกะเป็นที่ประทับใจของคนทั่วไป ทุกคนประทับใจในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ฮาจิโกะกลายเป็นเรื่องราวที่ผู้คนญี่ปุ่นจดจำและประทับใจในฐานะตัวอย่างของความซื่อสัตย์และภักดีแม้ว่าเจ้านายจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างยิ่ง ไม่ต่างกับเรื่องราวของโอชินเลยแม้แต่น้อย
.
กระทั่งปี 1935 เจ้าหมาน้อย ฮาจิโกะที่อายุมากแล้วก็ลาโลกใบนี้ไปด้วยโรคชรา ถึงเวลาแล้วที่มันจะต้องออกตามหาเจ้านายของมันต่อไปในโลกข้างหน้า
.
ความประทับใจของผู้คนที่มีต่อเจ้าหมาตัวนี้ เรื่องราวของมันถูกเล่าขานต่อไปไม่รู้จับผ่านสื่อบันเทิงมากมายทั้งภาพยนตร์ การ์ตูน หรือกระทั่งเกม มีการเก็บรักษาร่างของมันไว้อย่างดีที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่น มีการทำป้ายอนุสรณ์ตั้งอยู่ในสุสานอะโอะยะมะ ในมินะโตะกุ ของกรุงโตเกียวข้างหลุมศพของเจ้านายของมันและมีการสร้างอนุสาวรีย์ที่หน้าสถานีรถไฟชิบุยะอันเป็นจุดที่มันรอคอยเจ้านายที่นั่นจนสิ้นชีวิต
.
และปัจจุบันได้มีผู้ใจบุญที่หลงใหลเรื่องราวของฮาจิโกะนั้นได้ทำอนุสาวรีย์ใหม่ขึ้นเป็นรูปอาจารย์อุเอะโนะและเจ้าฮาจิได้พบกันอีกครั้งในวาระรอบครบการจากไปของมันครบ 80 ปีในปี 2015และ ด้วยเหตุผลว่า พวกเขาอยากให้ทั้งสองคนได้เจอกันเสียที ซึ่งแม้จะเป็นรูปปั้นที่สร้างขึ้นแต่ก็สร้างความประทับใจให้ผู้คนได้ทันที
.
ในที่สุดมันก็ได้เจอกับเจ้านายของมันอีกครั้ง
.
ปัจจุบันรูปปั้นฮาจิโกะกับเจ้านายของมันตั้งอยู่ที่คณะเกษตร มหาวิทยาลัยโตเกียว
.
นี่คือเรื่องราวของฮาจิโกะ หมาน้อยผู้ซื่อสัตย์แห่งญี่ปุ่น
.
(ข้อมูลจากนิตยสาร Filmax และ Bioscope)