กทม.ติดป้ายประกาศขอความร่วมมือ“ชุมชนป้อมมหากาฬ”รื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างออกภายใน 3 ก.ย.นี้
กทม.ติดป้ายประกาศให้ชุมชนป้อมมหากาฬ 5 จุด เพื่อชี้แจงขอความร่วมมือย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 3 กันยายน นี้ เพื่อพัฒนาปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะและปรับโฉมเป็นพื้นที่อนุรักษ์โบราณ สถาน
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2559 เวลา 10.00 น. บริเวณหน้าป้อมมหากาฬ เขตพระนคร นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา กทม. ตรวจ การติดตั้งป้ายประกาศกรุงเทพมหานครขอความร่วมมือในการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง ออกจากพื้นที่เวนคืนบริเวณป้อมมหากาฬโดยให้ออกจากพื้นที่ภายใน 3 ก.ย. 59 เพื่อ ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎมายที่สั่งการและตามนโยบายของรัฐบาล โดย กทม.พร้อมให้การสนับสนุนช่วยเหลือในการรื้อถอนขนย้ายสิ่งปลูกสร้างและสิ่ง ของสัมภาระแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า เป้าหมายวันนี้คือการติดประกาศด้านนอกเท่านั้นเนื่องจากชุมชนรับทราบนโนยบาย แล้ว จากนั้นจะทำหนังสือส่งถึงประชาชนที่ยังอยู่ในชุมชน โดยยืนยันว่า กทม.จะรื้อเพียง 12 หลังแรกที่ยินยอมให้รื้อถอน ในวันที่ 3ก.ย.นี้ ส่วนกรณีมติคณะกรรมสิทธิมนุษยชน ระบุถึงทางออกที่สามารถแก้กฎหมายนั้นคงดำเนินต่อไปแต่การรื้อถอนกทม.ก็ต้อง ปฏิบัติตามตามหน้าที่ อย่างไรก็ตามกระบวนการสร้างความเข้าใจมีมาตลอดขณะที่ชุมชนได้หารือกับผู้ บริหารอยู่แล้วแต่ตั้งเป้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้ง 56 หลังให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
นายศักดิ์ชัย กล่าวด้วยว่า จะนำหนังสือที่ กท 0908/1733 ลงวันที่ 15 ส.ค.ที่ ผ่านมา ส่งเป็นจดหมายถึงเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร เรื่องขอความร่วมมือในการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่เวนคืน บริเวณป้อมมหากาฬ เนื่องจาก กทม.มีความจำเป็นต้องเข้าใช้พื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมายที่สั่งการและตามนโยบายรัฐบาลในการปรับ ปรุงพื้นที่เพื่อจัดสวนสาธารณะให้ประชาชนพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมอนุรักษ์โบราณสถาณของชาติ สำหรับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และใช้ประโยชน์พื้นที่ เพื่อนันทนาการประกอบกิจกรรมการละเล่นทางวัฒนธรรมและเป็นแหล่งท่องเที่ยว ของกรุงรัตนโกสินทร์ จึงขอความร่วมมือโปรด หรือถอน ขนย้ายสิ่งปลูกสร้างและสิ่งของสัมภาระออกจากพื้นที่ เพื่อให้กทม.สามารถเข้าดำเนินการปรับปรุงพื้นที่โดยสะดวก
อย่างไรก็ตามกองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา ยินดีสนับสนุนช่วยเหลือในการรื้อถอนขนย้ายสิ่งปลูกสร้างและสิ่งของสัมภาระ ประชาชนสามารถแจ้งความประสงค์กับสำนักงานเขตพระนครได้ภายในวันที่ 3 ก.ย.นี้ หากเลยเวลาตามที่กำหนด กทม.มีความจำเป็นต้องดำเนินการหรือถอนอาคารตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ด้านนายพรเทพ บูรณบุรีเดช รองประธานชุมชนป้อมมหากาฬ กล่าวยืนยันว่าอีก 44 หลังคาเรือนที่เหลือ ซึ่งมีประชาชน 218 คน จะไม่ย้ายออกเพราะอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีทะเบียนบ้าน หากจะรื้อถอนบ้านก็เอาชีวิตไปด้วย ขณะที่ 12หลังแรกที่ยินยอมให้ กทม.รื้อ เป็นเพราะ กทม.เพิ่มเงินค่ารื้อถอนให้อีก 50,000 บาท อีกทั้ง12 หลังดังกล่าวเพิ่งย้ายมาอยู่หลังปี 2516 ไม่ได้อยู่ต่อสู้เหมือนกับ 44 หลังคาเรือนที่เหลือ ที่ร่วมกันต่อสู้มากว่า 24 ปี ที่ผ่านมา
สำหรับข้อความตามประกาศกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า “เนื่อง ด้วยกรุงเทพมหานครมีความจำเป็นต้องเข้าใช้พื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมายที่สั่งการและตามนโยบายของรัฐบาล ในการปรับปรุงพื้นที่จัดสวนสาธารณะเพื่อใช้ประโยชน์ในการพักผ่อนหย่อนใจ สำหรับประชาชนทั่วไปและอนุรักษ์โบราณสถานของชาติ สำหรับการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อการนันทนาการประกอบกิจกรรมการละเล่นทางวัฒนธรรม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของ กรุงรัตนโกสินทร์
ดังนั้นกรุงเทพมหานครจึงขอความร่วม มือมายังท่าน โปรดรื้อถอนขนย้ายสิ่งปลูกสร้างและสิ่งของสัมภาระออกจากพื้นที่ป้อมมหากาฬ เพื่อให้กรุงเทพมหานครสามารถเข้าดำเนินการปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้ได้โดย สะดวก ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครเข้าใจถึงความเดือดร้อนที่ท่านต้องประสบในการย้ายออกจากชุมชน ป้อมมหากาฬในครั้งนี้ จึงยินดีให้การสนับสนุนช่วยเหลือในการรื้อถอนขนย้ายสิ่งปลูกสร้างและสิ่งของ สัมภาระแก่ท่าน โดยสามารถแจ้งความประสงค์กับสำนักงานเขตพระนคร (ฝ่ายโยธา) โทร. 0 2628 5044 หรือกองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา โทร. 02245 9865 ในวัน เวลาราชการ ทั้งนี้ภายในวันที่ 3 ก.ย. 59 หากพ้นเวลาตามที่กำหนดกรุงเทพมหานครมีความจำเป็นต้องเข้าดำเนินการรื้อถอนอาคารตามอำนาจหน้าที่ต่อไป” ประกาศ ณ วันที่ 15 ส.ค. 59