หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สารภาพบาป...น้องจากไปเพราะกาแฟที่ฉันชง

โพสท์โดย แมวโย่ว์

เรื่องนี้ชายมิกซ์ขออนุญาตนำมาจากไดอารี่ของคุณ sirentee เป็นเรื่องที่อ่านแล้วสุดซึ้งในสายใยความผูกพันธ์ในครอบครัว และเป็นอุทาหรณ์สำหรับหลายๆคนด้วยครับ โดยคุณ sirentee ได้เล่าเรื่องไว้ว่า

เรื่องมันมีอยู่ว่า ครอบครัวของเรามีกัน 5 คน พ่อ แม่ พี่สาว พี่ชาย และ ฉันคือน้องสุดท้องแต่ไม่ท้ายสุด จริงๆฉันยังมีน้องอีกคนหนึ่ง ครอบครัวของเราลงมติว่าสมาชิกครอบครัวควรจะเป็นหกไม่ใช่ห้า และสำลีก็คือสมาชิกคนสุดท้ายในบ้านเล็กๆของเรา

เดิมทีบ้านของฉันเปิดเป็นร้านอาหารเล็กๆและขายของชำซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปตามชนบท ชีวิตของฉันก็เรื่อยๆมาเรียงๆตามประสาเด็กบ้านๆ ซึ่งมันไม่เกี่ยวอะไรเลยกับเรื่องที่จะเล่า เพราะงั้นเรามาเข้าเรื่องของสำลีกันเลยดีกว่า ถึงจุดนี้คุณคนคิดแล้วใช่ไหมว่าสำลีนี้มันตัวเชี้ยอะไร! ฉันขอเฉลยเลยละกัน สำลีเป็นลิงน้อยจากป่าใหญ่ผู้หลงเข้ามาอยู่ในดงมนุษย์ได้เพราะครอบครัวมีเงินที่เรารู้จักนำมาเลี้ยงไว้ให้ลูกๆของพวกเค้าดูเล่นนั้นเอง

แรกเริ่มสำลีเป็นแค่ลิงน้อยที่ถูกเลี้ยงในกรง นานๆคนจะเอาออกมาอุ้มมาเล่น เบือแล้วก็จับยัดกรงมันก็คงเป็นวงจรแบบนี้ หากวันหนึ่งครอบครัวนี้ไม่มีอันต้องเก็บกระเป๋าเพื่อยกกันไปท่องเที่ยวในภาคเหนือ ปัญหาก็คือ...แล้วใครจะเลี้ยงลิงละ แน่นอนค่ะหน้าที่นี้ก็ตกมาสู่พ่อแม่ของฉันในฐานะเพื่อนที่คบหากันมาอย่างยาวนาน

วันแรกที่ฉันได้เห็นเด็กลิงหน้าดำมันช่างแลดูน่าสงสาร ตัวมันเล็กมากและคอยแต่จะโบกมือเพื่อขอออกมาจากกรง แน่น่อนบ้านฉันไม่อาจต้านทานความน่าเอ็ดดูนี้ไปได้ ไม่ถึง 3 วัน กรงที่เจ้าของให้มาก็ไม่จำเป็นกับบ้านเราอีกต่อไป แม่ของฉันกลายเป็นแม่ลิงเฉพาะกิจ นางจะขายของโดยมีเด็กลิงติดสอยห้อยตามไม่ห่างตัว และด้วยลิงมันยังเล็กมากและยังต้องการอ้อมกอดจากแม่ ครอบครัวเราจึงต้องเริ่มแบ่งหน้าที่กันดูแลสมาชิกใหม่ และไม่ถึง 1อาทิตย์ครอบครัวเล็กๆของเราก็ลงมติตั้งชื่อให้ลิงน้อยโดยไม่แคร์เจ้าของที่ไม่รู้จะกลับมารับเมื่อไร พวกเราตกลงใจเรียกมันว่าสำลีเพื่อให้ตัดกับหน้าดำๆของเจ้าลิงเจ๋อ และลิงน้อยก็ดูจะคุ้นชินกับชื่อนี้ในเร็ววัน ไม่นานทุกคนในหมู่บ้านฉันก็รู้จักมันในนามสำลี

สามอาทิตย์ผ่านไปสำลีจากลิงเนอสเซอรี่ก็เติบโตกลายเป็นลิงอนุบาล ความน่ารักของนางยิ้่งทวีคูน นางเป็นลิงว่าง่ายไม่ดื้อไม่ซน นางไม่เคยต้องกลับไปอยู่ในกรงเลยนับตั้งแต่ย้ายสัมมะโนมาอยู่กับเรา แต่งานเลี้ยงย่อมมีเลิกราหลังจากสำลีมาอยู่กับเราเกือบเดือนกว่าๆ เจ้าของก็กลับมารับนางกลับในคืนหนึ่ง คืนแรกที่นางจากไปบ้านดูเงียบลงถนัดตา โดยเฉพาะแม่ที่ดูหงอยเฝ้าคอยแต่กังวลกลัวสำลีจะอยู่ในกรงได้ไหม กลัวมันจะเหงา กลัวมันจะไม่กินข้าว แม่ได้แต่กลัวและบ่นถึงมัน ตอนนั้นฉันเองก็คิดถึงมันเหมือนกัน แต่แล้วไม่ถึงสามวันเจ้าของก็นำมันกลับมาคืนครอบครัวเรา คำอธิบายคือสำลีไม่อาจทนอยุ่ในกรงได้อีกต่อไป มันคอยแต่กรีดร้องและใช้นิ้วเล็กๆฉีกทึ้งกรงจนเลือดซิก และเมื่อไม่อาจเลี้ยงมันแบบที่เราเลี้ยงได้ เจ้าของจึงจำเป็นต้องยกมันให้แก่ครอบครัวของเราอย่างหมดทางเลือก และแน่นอนที่ทางเราก็แสนยินดี

ทุกวันนับตั้งแต่มีสำลีกลับเข้ามาในครอบครัว กิจวัตน์หมุนเวียนโดยมีสำลีอยู่ร่วมทุกๆกิจกรรม เช้าๆแม่จะเอาสำลีมาไว้ที่ห้องของฉันเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนสำลียามที่แม่ต้องไปทำอาหาร เรากินข้าวเช้าโดยมีสำลีนั่งอยู่กลางโต๊ะมีจานเล็กๆเป็นของตัวเอง มีแม่และพ่อที่พยายามสอนให้มันจับช้อนกินเช่นคน วันทั้งวันสำลีจะเกาะติดแม่ขายของ เกาะติดพ่อออกไปทำสวน บางครั้งก็นั่งเริดๆเปิดหน้าต่างรับลมยามพ่อแม่พามันออกไปซื้อของในตลาด และเมื่อถึงยามพระอาทิตย์ตก สำลีก็จะรีรอแม่และคนอื่นๆอยู่หน้าประตู จนแม่เสร็จสิ้นภาระกิจทั้งหมดนางก็จะเอื้อมมือไปจับมือแม่ ภาพทั้งคู่ที่จูงมือเดินเข้าห้องนอนพร้อมกันจึงเป็นอะไรที่ชินตา

และในวันที่ไฟดับจนต้องจุดเทียนกินข้าว วันนั้นฉันและพี่ๆช่วยกันวาดผังครอบครัวบนผนังบ้าน มีพ่อ มีแม่ มีพี่ชาย มีพี่สาว มีฉัน และแน่นอนเราสามพี่น้องช่วยกันวาดสำลีลงในแผนผัง มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากและเป็นแบบนั้นมาตลอดจนกระทั้งวันหนึ่งที่ฉันรู้สึกขี้เกียจไปโรงเรียน วันนั้นฉันอ้างกับแม่ว่าปวดท้องจนกระทั้งได้นอนตีพุงยิ้มย่องดูทีวีสมใจไม่ต้องแบกกระเป๋าไปโรงเรียน ฉันนอนดูทีวีไปเรื่อยๆจนกระทั้งไปสะดุดกับโฆษณาคอฟฟี่เมคตัวใหม่

ภาพกาแฟสีดำที่ถูกโรยด้วยคอฟฟี่เมดเป็นฟองสีขาวราวเกลียวคลื่นมันช่างติดตา เห็นแล้วฉันก็รีบไปแคะเงินจากกระปุกแอบเดินไปซื้ออุปกรณ์ต่างๆเพื่อจะสร้างเกลียวคลื่นกาแฟแบบในทีวี เพื่อให้ได้กาแฟสีดำสนิทฉันต้องใส่กาแฟไปเกือบค่อนซอง และหลังจากมองดูผงสีขาวถูกละลายต่อหน้าสมใจ ฉันก็ตักมันเข้าปากเพื่อชิมและบอกได้เลยว่ามันเป็นอะไรที่แย่เต็มกลืน ฉันหมดความสนใจจากกาแฟตรงหน้าและพาตัวเองกลับไปนอนดูทีวีโดยไม่คิดจะเก็บกวาดอะไรที่ทำเอาไว้ และไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหนตื่นมาอีกทีก็เจอแม่ที่กำลังบ่นถึงกาแฟถ้วยที่ถูกทิ้งไว้ระงม

"ใครกันมาชงกาแฟทิ้งไว้ สำลีมันกินไปเกือบครึ่งแก้ว"

เสียงบ่นของแม่ทำให้ฉันเงียบไป ใครจะไปสารภาพให้โง่ ฉันได้แต่เพียงเงียบทั้งที่ใจก็แอบเป็นห่วงสำลี แต่ทุกอย่างก็ดูปกติจนกระทั้งเช้าวันต่อมาสำลีเริ่มมีทีท่าไม่ดีเลยในสายตาฉัน ภาพสำลีที่ไม่ยอมกินอาหารทำให้ฉันรู้สึกผิดในใจ ยิ่งเวลาผ่านไปสำลียิ่งดูแย่ลงจนพ่อแม่เองเริ่มเป็นกังวล ตอนนั้นฉันที่รู้ตัวเองดีว่าเป็นต้นเหตุก็พยายามอย่างที่สุดเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้เพื่อที่จะให้สำลีกลับมาเป็นปกติ

แต่นับวันสำลียิ่งมีอาการแย่ลง ตอนนั้นบ้านของฉันเรียกว่าเข้าสู่ยุคมืดเลยก็ได้ พ่อแม่แทบไม่มีใจที่จะทำงาน เราผลัดเปลี่ยนกันมาเฝ้าสำลี คอยป้อนน้ำ ป้อนข้าว ทำทุกทางเท่าที่เราจะทำได้ เมื่อเห็นท่าไม่ดีถึงที่สุดฉันก็บอกแม่ให้พามันไปหาหมอ แต่คุณคงจะเข้าใจนะหลายปีก่อนตามชนบทเล็กๆเราจะไปหาสัตวแพทย์ที่ไหนได้ ตอนนั้นฉันเครียดถึงจุด ทุกคืนฉันไม่อาจหลับตาลง ได้แต่นั่งเฝ้าดูสำลีที่หายใจรวยริน กลัวจับใจ กลัวทุกวินาทีที่ฉันต้องห่างมัน ยามนั้นทุกวันที่ฉันต้องทิ้งสำลีไปโรงเรียนคือสิ่งที่แย่ที่สุด ทั้งวันใจฉันเฝ้ารอแต่เวลาที่จะได้กลับบ้าน ทุกนาทีที่ฉันต้องห่างมันดูช่างยาวนาน ทันทีที่ฉันกลับถึงบ้านฉันจะรีบวิ่งไปหาสำลี ไม่มีอะไรสำคัญกับฉันไปมากกว่าสำลีอีกแล้วในเวลานั้น

แล้วไม่นานหลังเลิกเรียนฉันก็กลับมาพบว่าสำลีไม่ได้อยู่บนเตียงที่เคยอยู่ ใจฉันตกไปอยู่ตรงตาตุ่มกลัวที่จะถามแม่เหลือเกินว่าสำลีไปไหน และเหมือนแม่จะรู้ว่าใจฉันคิดอะไร แม่รีบบอกว่าสำลีอาการไม่สู้ดีแม่ก็เลยบอกให้เจ้าของเก่าพามันไปหาหมอในอีกเมือง ว่าแล้วแม่ก็ยื่นเงินให้ฉันจำนวนหนึ่ง ท่านอยากให้ฉันเอาเงินไปซื้อขนมที่อยากกิน อาจเป็นเพราะตั้งแต่สำลีป่วยฉันแทบไม่เคยไปไหนหรือทำอะไรเลยนอกจากนั่งเฝ้ามัน

เมื่อได้ยินว่าสำลีไปถึงมือหมอใจฉันโห่ร้องด้วยความยินดี สำลีรอดแล้ว สำลีจะหายแล้ว ฉันรู้สึกใจชื้นขึ้นมากพร้อมกับรับเงินวิ่งตรงไปยังร้านขนม และในขณะที่เดินยิ้มระรื้นกลับบ้านด้วยความสบายใจ คุณยายใจดีข้างบ้านก็เอ่ยทักทายฉันเหมือนทุกวัน แต่แล้วหูฉันก็มาสะดุดกับคำพูดของคุณยาย ท่านเอ่ยว่ารู้สึกสงสารสำลีมากและดีใจที่มันไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป วินาทีที่ได้ยินหน้าฉันถึงกับชา ฉันค่อยๆถามย้ำว่าที่ยายพูดหมายถึงอะไร แล้วยายก็เริ่มเล่าถึงช่วงเวลาที่สำลีจากไป ตบท้ายด้วยว่าสำลีถูกนำไปฝั่งไว้หลังบ้านใต้ต้นกระท้อนต้นใหญ่นั้นเอง

หลังฟังจบฉันรู้สึกหูอื้อตาลายได้เพียงเดินไปยังต้นกระท้อนที่ยายพูดถึง ทุกย่างก้าวใจมันเย็นเฉียบหวังเพียงจะไม่พบอะไรที่นั้น ขอให้ยายข้างบ้านเข้าใจผิด แต่เมื่อไปถึงใต้ต้นกระท้อนสิ่งที่ฉันเห็นถนัดตาคือร่องรอยดินที่ถุกขุด ทันทีที่ฉันเห็นเนินดินเล็กๆน้ำตาฉันก็ร่วงหล่น ฉันได้แต่เพียงยืนค้างนิ่งมองหลุมดินอยู่แบบนั้น ทำได้เพียงรู้สึกผิด หากวันนั้นฉันย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะไม่ชงกาแฟแก้วนั้น แต่ฉันไม่อาจกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้แต่นั่งอยู่ข้างๆหลุมศพของสำลีจนกระทั้งฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ทำได้เพียงนึกถึงช่วงเวลาดีๆที่เคยมีร่วมกัน ก่อนกลับฉันเด็ดดอกไม้เท่าที่หาได้ไปตั้งไว้บนเนินเล็กๆเนินนั้น

ขอโทษนะสำลี ยกโทษให้พี่ด้วย ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้สำลีมาเกิดเป็นน้องชายของพี่จริงๆนะ หลับให้สบายนะสำลี ฉันตัดใจบอกลาและพาตัวกลับไปยังบ้าน แม่ร้องให้ทันทีที่เห็นหน้าเศร้าๆของฉัน เรากอดกันร้องให้เมื่อมองไปยังที่ๆสำลีจะยืนรอทุกคนในบ้านอยู่เสมอ พ่อขับรถออกไปทันทีที่สำลีสิ้นใจ ท่านหายไปอยู่ในสวนถึงสามวัน ในขณะที่พี่ๆก็เอาแต่เศร้าทุกครั้งที่มองไปยังผนังบ้าน นับจากวันที่สำลีจากไปบ้านก็เต็มไปด้วยความเศร้า มันเงียบเหงาแต่ชีวิตก็ยังต้องเดินกันต่อ

แม้เวลานั้นจะล่วงเลยผ่านมาแล้วถึงสิบเก้าปี แม้ทุกวันนี้ผังครอบครัวที่พนังบ้านจะไม่มีภาพครอบครัวเราอยู่อีกแล้ว แต่ฉันก็ไม่เคยจะลืมเลือนสำลีได้เลย นับตั้งแต่เสียสำลีไปฉันก็ไม่เคยแตะกาแฟอีก ทุกครั้งที่ได้กลิ่นมันเรื่องของสำลีก็จะกลับมาหลอกหลอนฉันในทันที และคงจะเป็นแบบนี้ไปจนตาย ฉันก็ไม่รู้ว่าก่อนตายจะได้มีโอกาสบอกความจริงนี้กับครอบครัวไหม ความจริงที่ไม่มีวันจะเปลี่ยนมันได้...ว่าฉันเองคือผู้ร้ายที่ชงกาแฟที่ฆ่าสำลี!

ปล 24 กรกฏาคมนี้ หวังว่าจะได้ไปเยี่ยมหลุมศพสำลีนะ รักและคิดถึงเสมอ

ชายมิกซ์เชื่อแน่ๆว่าเจ้าสำลีจะต้องรับรู้ถึงความรักที่คุณ sirentee มอบให้และยังคิดถึงมันอยู่เสมอ

ขอบคุณที่มา: ไดอารี่คุณ sirentee http://diary.postjung.com/sirentee
ขอบคุณรูปประกอบจาก: http://www.konnokkok.com/เรื่อง-นายเอกเขนก-ภาพ-วี/ (รูปประกอบไม่เกี่ยวข้องกันเนื้อหา)
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
แมวโย่ว์'s profile


โพสท์โดย: แมวโย่ว์
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4/5 จาก 8 คน)
VOTED: Tä Köhler, แมวฮั่ว แมวขี้น้อยใจ, Chawap, Dont sweat it, Darius, ไข่ต้มยางมะตูม, ริเชริว
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวบ้านต่างแย่งกันไปตักน้ำมัน หลังรถบรรทุกน้ำมันคว่ำ ต่อมารถน้ำมันระเบิด ทำคนดับแล้วกว่า 70 คนพ่อแม่กระโดดตึกฆ่าตัวตาย หลังเห็นลูกสาวกระโดดตึก หลังสอบไม่ผ่านบอร์ดเกม (Board Game) กิจกรรมยอดฮิต มีประโยชน์มากกว่าแค่ความสนุกตำรวจได้รับแจ้งว่า มีเณรออกบิณฑบาตเจอเจอกระสุน M16 จำนวน 10 นัด จึงรุดไปตรวจสอบ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ราย ช้อคหมดสติที่งานดนตรีภูเก็ต ก่อนจะเสียชีวิตทั้งคู่ในเวลาต่อมา เพื่อนเผยคาดว่าเสพกัญชาเกินขนาด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
กระทรวงเกษตรประกาศรับซื้อปลาหมอคางดำ 600,000 กิโลกรัม ในเดือนกุมภาพันธ์นี้การแบนเทคโนโลยีจากจีน เกมการเมืองหรือความจำเป็นด้านความมั่นคง?ทำไมอเมริกาถึงแบน TikTok และผลกระทบที่เกิดขึ้นตำรวจบุกค้นโกดังย่านสมุทรปราการ พบยากันยุงหนีภาษีนำเข้าจากต่างประเทศจำนวนมาก พบว่ามีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์
ตั้งกระทู้ใหม่