ย้อนอดีต 8 อุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย!
อันดับ 6 เหตุการณ์รถแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
วันที่เกิดเหตุ 24 กันยายน พ.ศ. 2533
จำนวนผู้เสียชีวิต 80 ราย
เรียกว่าเป็นข่าวอุบัติเหตุที่ครึกโครมมากที่สุดในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้ค่ะ กับเหตุการณ์รถแก๊สแอลพีจีระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่เปลี่ยนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ให้กลายเป็นทะเลเพลิงภายในเวลาไม่กี่วินาที กับหลายสิบชีวิตที่ต้องสูญเสีย และอีกหลายสิบชีวิตที่ไม่ได้สูญเสียแต่ก็ต้องใช้ชีวิตเสมือนตายทั้งเป็น
ในเวลา 4 ทุ่มของคืนนั้น บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ยังคงมีรถจำนวนมากสัญจรผ่านไปมา อยู่ดีๆ ก็มีรถบรรทุกแก๊สคันหนึ่งขับลงทางด่วนเพชรบุรีตัดใหม่ด้วยความเร็วสูงเพื่อให้พ้นไฟแดง และก็เกิดเหตุไม่คาดคิด เมื่อมีรถอีกคันขับตัดหน้า จนรถแก๊สเบรคไม่อยู่และพลิกคว่ำอย่างรุนแรง ตัวรถได้ไถครูดไปกับพื้นเสียดสีกับพื้นถนน ทำให้ถังบรรจุแก๊สรูปแคปซูล 2 ถัง ถังละ 20,000 ลิตร หลุดออกจากตัวรถ ปริแตก และเกิดเป็นความร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดแก๊สที่บรรจุอยู่ภายในได้พวยพุ่งออกมาและเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหลายครั้ง ประกายไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็วจนทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นทะเลเพลิงในชั่วพริบตา เผาผลาญทั้งตึกรามบ้านช่องและชีวิตผู้คนบริเวณนั้นภายในเวลาไม่กี่วินาที!
ผู้เสียชีวิตจำนวนมากคือคนที่นั่งอยู่ภายในรถและไม่สามารถลุกหนีได้ทัน ส่วนผู้คนที่อาศัยตามบ้านเรือนใกล้เคียงต่างก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้หลายราย รวมแล้วมีบ้านเรือนตึกแถวถูกไฟไหม้เสียหายไป 51 หลัง และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 80 ราย เรียกว่าเป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงและสะเทือนขวัญมากที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ
อันดับ 5 เหตุการณ์สายการบินวัน-ทู-โก แอร์ไลน์ เที่ยวบิน 269
ไถลออกนอกรันเวย์ที่สนามบินภูเก็ต
วันที่เกิดเหตุ 16 กันยายน พ.ศ. 2550
จำนวนผู้เสียชีวิต 90 ราย
เป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปไม่กี่ปีและทุกคนน่าจะยังจดจำได้ เมื่อสายการบินวัน-ทู-โก แอร์ไลน์ เที่ยวบิน 269 ซึ่งได้เดินทางออกจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่ภูเก็ต กำลังจะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตในขณะที่ฝนตกหนัก ส่งผลให้รันเวย์ลงจอดลื่น ทันทีที่ล้อเครื่องบินแตะรันเวย์ เครื่องเกิดลื่นไถลออกนอกรันเวย์ และชนเนินเขาที่ติดกับสนามบินจนเครื่องบินขาดออกเป็น 2 ท่อนและเกิดเพลิงลุกไหม้รุนแรง ทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิตจำนวน 90 รายจากทั้งหมด 123 ราย โดยเป็นชาวต่างชาติ 55 ราย และคนไทย 35 ราย
ผู้โดยสารที่รอดชีวิตส่วนมากเล่าว่า ที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้เนื่องจากพยายามรีบวิ่งหนีไปยังทางออกฉุกเฉินและกระโดดออกมา ก่อนหน้าที่เครื่องบินจะระเบิดในไม่กี่นาที
อันดับ 4 เหตุการณ์สายการบินไทย เที่ยวบิน 261 ตกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วันที่เกิดเหตุ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2541
จำนวนผู้เสียชีวิต 101 ราย
ในวันที่ 11 ธันวาคม 2541 สายการบินไทย เที่ยวบินที่ 261 (TG261) ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มุ่งหน้าสนามบินจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเครื่องบินเริ่มลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี สภาพอากาศมีฝนตกหนักและทัศนวิสัยไม่ดีเนื่องจากมีพายุเข้า
นักบินพยายามนำเครื่องลงจอด 2 ครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ และในการลงจอดครั้งที่ 3 เครื่องยนต์เกิดมีปัญหา ทำให้เครื่องบินตกกระแทกพื้นอย่างรุนแรง เครื่องเสียการทรงตัวพุ่งตกลงไปในป่ายางห่างจากสนามบินไป 2 กิโลเมตรกว่า และขาดออกเป็น 3 ท่อน! ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 101 รายจากผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 145 ราย และหนึ่งในผู้รอดชีวิตก็คือนักร้องซุปเปอร์สตาร์ในยุคนั้น นั่นก็คือ “เจมส์ เรืองศักดิ์” นั่นเอง เรียกว่าเป็นข่าวฮือฮาขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับในช่วงนั้น
สำหรับสาเหตุการตกของเครื่องบินยังไม่เป็นที่สรุปแน่ชัด บ้างก็ว่ามาจากสภาพอากาศที่เลวร้าย บ้างก็ว่ามาจากความประมาทของนักบิน บ้างก็ว่ามาจากการที่ผู้โดยสารเปิดใช้โทรศัพท์มือถือในขณะที่เครื่องทำการบิน ทำให้คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ไปรบกวนการทำงานของเครื่องบิน แต่ถึงจะยังไม่สรุปแน่ชัดว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ การบินไทยก็มีกฎออกมาว่า ห้ามผู้โดยสารใช้อุปกรณ์สื่อสารระหว่างโดยสารเครื่องบิน
อันดับ 3 เหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่าถล่ม
วันที่เกิดเหตุ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2536
จำนวนผู้เสียชีวิต 137 ราย
โรงแรมรอยัลพลาซ่า หรือชื่อเดิมว่าโรงแรมเจ้าพระยาเมืองใหม่ เป็นโรงแรมหรูอันดับต้นๆ ของจังหวัดนครราชสีมาในสมัยนั้น ถือเป็นโรงแรมหรู 1 ใน 5 ของจังหวัดเลยทีเดียว
แต่ภาพลักษณ์ที่หรูและสวยงาม กลับแฝงไปด้วยภัยร้ายที่กำลังก่อตัว เช่น ในตอนแรกโรงแรมมีเพียง 3 ชั้น แต่ต่อมามีนักท่องเที่ยวและลูกค้าเข้ามาพักเรื่อยๆ จึงได้ตัดสินใจสร้างเพิ่มเป็น 6 ชั้นเพื่อรับรองลูกค้า ซึ่งทำโดยผิดหลักการก่อสร้างและวิศวกร โดยไม่ได้ใส่ใจถึงกฎความปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย
จนในที่สุด หายนะก็เกิดขึ้นในเช้าของวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2536 ตัวโรงแรมเกิดการทรุดตัวและถล่มลงมาอย่างรุนแรง ทับร่างของคนหลายร้อยที่กำลังอยู่ในโรงแรมทั้งพนักงานโรงแรมและแขกที่เข้าพัก จากการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตและรอดชีวิตเป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์ พบผู้เสียชีวิต 137 ราย กลายเป็นเหตุการณ์ตึกถล่มที่รุนแรงมากที่สุดของประเทศไทยและติด 1 ใน 5 ของเหตุการณ์ตึกถล่มที่รุนแรงที่สุดในโลก
และในวันที่ 13 สิงหาคมของทุกปี จะมีการทำบุญให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ในบริเวณที่เกิดเหตุด้วย
อันดับ 2 เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานตุ๊กตาเคเดอร์
วันที่เกิดเหตุ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2536
จำนวนผู้เสียชีวิต 188 ราย
มาถึงอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากที่สุดเป็นอันดับ 2 นั่นก็คือ เพลิงไหม้โรงงานตุ๊กตาเคเดอร์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 188 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 500 ราย ถือเป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย
ในช่วงเย็นของวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 ขณะที่คนงานกว่า 1,400 ชีวิตกำลังทำงานอยู่ในโรงงาน ของบริษัทเคเดอร์อินดัสเตรียล ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานตุ๊กตาขนาดใหญ่ ประกอบด้วยอาคาร 5 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 ได้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงที่ชั้นล่างของอาคาร 1 เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นโรงงานที่มีเศษผ้าและวัตถุไวไฟเป็นจำนวนมาก
คนงานที่อยู่ชั้นบนของตึกต่างกระโดดลงมาเพื่อหนีความตายกันอย่างโกลาหล บางคนรอดชีวิตมาได้แต่ก็ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นพิการไปตลอดชีวิต และหลังจากเพลิงได้ลุกไหม้ไปได้ 15 นาที ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดตามมา นั่นคือตัวอาคารได้ถล่มลงมาอย่างรุนแรง ฝังร่างคนงานทั้งที่ยังหนีออกมาไม่ได้และที่หนีออกมาได้แล้วแต่ยังอยู่บริเวณตึกโรงงาน! สรุปแล้วมีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 ราย กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่สะเทือนขวัญมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ นอกจากนี้โรงงานยังไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ถูกต้อง เช่น มีทางหนีไฟที่น้อยเกินไป ไม่เคยซักซ้อมการหนีไฟ รวมถึงยังก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานจึงทำให้ถล่มลงมาอย่างยับเยิน
อันดับ 1 เหตุการณ์สายการบินเลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004 ตกที่จังหวัดสุพรรณบุรี
วันที่เกิดเหตุ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2534
จำนวนผู้เสียชีวิต 223 ราย
อุบัติเหตุที่เกิดกับสายการบินเลาดาแอร์ เที่ยวบินที่ 004 ในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 ที่ทำให้ทุกๆ คนบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด ถือเป็นอุบัติเหตุทางการบินที่ร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ประเทศไทย
เวลา 5 ทุ่มเศษของคืนวันนั้น สายการบินเลาดาแอร์ เที่ยวบิน 004 ซึ่งบินมาจากฮ่องกงและจอดรับผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมืองของประเทศไทย ได้ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มุ่งหน้าสู่เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย พร้อมผู้โดยสาร 213 คนและลูกเรืออีก 10 คน
หลังจากบินขึ้นได้เพียง 10 นาที ก็เกิดความผิดปกติกับเครื่องยนต์ มีสัญญาณเตือนดังขึ้น แต่กัปตันและผู้ช่วยคิดว่าเป็นเหตุการณ์ปกติและไม่ได้แก้ไขอะไร ในที่สุดเครื่องบินสูญเสียแรงยก โดยเครื่องยนต์ด้านซ้ายดันไปข้างหลัง แต่เครื่องยนต์ด้านขวากลับดันไปข้างหน้า ทำให้เกิดการฝืนปรับทิศทางจนเครื่องฉีกออกเป็นส่วนๆ กลางอากาศ ทุกคนบนเครื่องบินเสียชีวิต และในจำนวนนั้นก็เป็นผู้โดยสารชาวไทยจำนวน 39 ราย
ปัจจุบันได้มีการสร้างสุสานเลาดาแอร์เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบริเวณที่เครื่องบินเคยตกนั่นเอง
คลิปประกอบจากมื้อดึกสยองขวัญ