Bullying , Cyberbullying ในมุมมองของฆาตรกรสังหารหมู่
ภาพปกที่ได้เห็นนี่คือ Andy Williams ฆาตรกรสังหารหมู่ที่อายุน้อยที่สุด เขาถูกจับกุมในข้อหายิงเพื่อนร่วมชั้นของเขาในSantee เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บสาหัสไปอีกเป็น10 ด้วยอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น
ตามคำบอกเล่าของครูประจำชั้น และผู้ปกครอง พวกเขามองเห็นตรงกันว่า แอนดี้เป็นเด็กนักเรียน และ ลูกที่ฉลาดหลักแหลม อารมณ์ดี ถึงกับเรียกเขาว่าเป็น ตัวโจ๊กของห้อง ตามคำให้การนี้ช่างขัดแย้งเสียจริงกับการกระทำของเขา แล้วอะไรกันล่ะ ที่ทำให้ตัวโจ๊กของห้อง( The Class clowns)คนนี้ กลายเป็น หนึ่งในนักฆ่าสังหารหมู่ในคดีที่สะเทือนขวัญเรื่องหนึ่งในอเมริกาไปแล้ว ??
จากการสืบสวนของ FBI ได้เข้าไปรับรู้ความจริงบางอย่างที่ครอบครัวไม่เคยรู้เลย เมื่อความจริงเปิดเผย พบว่าหลังจากพ่อแม่แยกกันที่ Maryland เขาย้ายตามมาอยู่กับพ่อในSan diego ด้วยความที่แอนดี้เป็นเด็กใหม่ เขาถูกกลุ่มเพื่อนใหม่ในร.ร.Santana High. รุม รังแก ทุกๆวัน ถูกกีดกันจากสังคมรอบข้าง เพราะ เพื่อนที่ป็อบปูล่า ไม่ยอมรับแอนดี้ เค้าจึงถูกรังควาน ทำร้าย อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่เรื่องจะแดงขึ้น เป็นเวลาหลายเดือนถัดมา ต้องนับว่าเขาเป็นเด็กที่อดทนมาก มีหลายครั้งที่พ่อเห็นรอยช้ำที่หน้าของแอนดี้ แต่เขาตอบพ่อว่า เขาล้มจากการเล่นสเก็ต
แอนดี้มีสภาวะซึมเศร้า anti-social และเกลียดชังสังคม ในขณะที่่เขาต้องปั้นหน้าเข้าหน้าครูใหญ่ และ พ่อทุกๆวัน และต้องออกไปเผชิญกับสภาวะสังคมส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ แล้วยิ่งอเมริกาเป็นประเทศที่ผู้คนมีความเป็น extrovert (หรือ extravert คือ ผู้คนที่มีความต้องการในการเข้าสังคม) สูง รวมกันกับ San diego เป็นเมืองที่สังคมรวมกันเป็นกลุ่มก้อน เมื่อถ้าคุณไม่ใช่คนใน คุณก็คือคนนอก ในทุกๆวันเขาต้องเผชิญกับสิ่งนี้ซ้ำไปซ้ำมา จนวันนึงมันเกิดระเบิดขึ้น ในตอนนี้ แอนดี้รับโทษ จำคุกตลอดชีวิตอยู่ในคุกกลางทะเลทรายในทางใต้ของ California
เขาสารภาพในบทสัมภาษณ์ว่า...
"มันเหมือนเป็นเวลาที่โง่เง่าที่สุดเลย ผมแทบไม่เชื่อว่าตอนนั้นผมอายุ 15 ผมแทบไม่เข้าใจว่าอะไรจะตามมาหลังจากยิงเสร็จ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันผิดแต่ผมหยุดมันไม่ได้ สุดท้ายเมื่อรู้ตัว ผมต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุกซะแล้ว"
จากการสัมภาษณ์เพิ่มเติม นักจิตวิทยาพบว่า แอนดี้อยู่ในสภาวะ สิ้นหวัง หดหู่ ซึมเศร้าอย่างที่สุด และ อยากฆ่าตัวตาย จากการถูกEject ออกจากสังคม เขาพยายามอย่างมากเพื่อให้เข้ากับเพื่อนๆได้แต่ความหวังนั้นแทบจะเป็นศูนย์ เขาสารภาพเพิ่มเติมว่า เขาไม่ได้อยากจะยิงใคร เขาแค่อยากจะทำเสียงดังๆ สร้างพิ้นที่บนสังคมที่เขาถูกกัดกัน ให้ตำรวจโผล่มาแล้วยิงเขาซะ
ประเด็นนี้น่าสนใจมากๆ การฆ่าตัวตายโดยมือของตำรวจ คือเรื่องของการสังหารหมู่ของ 2 หนุ่ม Eric Harris และ Dylan Klebold ที่Columbine High. ที่พกอาวุธสงครามไปเป็นคลังแสง และ ระเบิดทำมือ เข้ากราดยิงเด็กวัยรุ่นไร้ทางสู้ในโรงเรียน สรุป เพื่อนร่วมชั้นเสียชีวิต 12 คน ครู 1 และบาดเจ็บสาหัสเกือบ 30 คน
ทั้งสองมีแรงจูงใจแบบเดียวกันกับแอนดี้เลยนั่นก็คือ ถูกรังแก และ กีดกันจากสังคม โดยในบันทึกของดีแลนนั้น เขาพร่ำเพ้อถึง ความตาย ชีวิตที่หดหู่ทุกข์ระทม ชีวิตที่มีอยู่เพื่อการถูกลงโทษ ผู้หญิงที่เขาแอบรักแต่เธอไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเขา การอยู่อย่างไม่มีตัวตนในสังคม ความเกลียดชัง และ อยากจะแก้แค้นมนุษยชาติ (ดีแลนใช้คำว่า KILL MANKIND ) และในวิดีโอฟุตเทจ ยังมีเบาะเเสให้เห็นว่าเขาต้องการอยากที่จะฆ่าตัวตาย ด้วยวิธีที่ทำให้สังคมหันมาสนใจเขามากที่สุด คือการสังหารหมู่ที่สยดสยองที่สุดครั้งหนึ่งในโลก แล้วยิงตัวตายก่อนจะถูกตำรวจจับ
ส่วนของตอนนี้แอนดี้อายุน่าจะราวๆ 30 กลางๆรับใช้โทษทัณฑ์ที่เขาก่อขึ้น โดยที่เขาไม่ได้อยากจะทำมัน และเป็นฆาตรกรสังหารหมู่เพียงคนเดียว ที่ยังมีชีวิตอยู่ ในขณะนี้
ตามสถิติ ฆาตรกรจะยิงตัวตาย หรือ โดนตำรวจยิงเสียชีวิตเกือบทั้งหมด : https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_rampage_killers
พอดีวันสองวันก่อนเห็นมีเรื่องไซเบอร์บูลี่ CyberBully ในเฟสบุ๊คที่ดังๆอย่าง ชายที่รองเท้ามีรู เเล้วมีคนถ่ายวีดีโอ ไปด่ากันว่าเป็นโรคจิต ผมตัวผู้เขียนเห็นแรงจูงใจที่ครบถ้วนมากในตัวผู้ชายคนนี้ ทั้ง ถูกกีดกันทางสังคม ครอบครัวที่ไม่เข้าใจว่าเขาถูกใส่ร้าย เขาซึมเศร้า เขาสิ้นหวัง เขาเกลียดชังสังคม เขาขยะแขยงโซเชียวมีเดีย จะขาดอย่างเดียวตรงการเข้าถึงอาวุธสังหาร ยังเข้าถึงได้ยากอยู่ แต่ถ้าแรงจูงใจมากพอข้อนี้ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ (จากญี่ปุ่นชายคนหนึ่งใช้มีดแทงคนพิการตายไป19ศพ มีดนะครับ มีด จากชายคนนึงที่กราดยิงผู้คนตายไป 9 บาดเจ็บบานนอีกที่ มิวนิค ไม่นานมานี้) ล้วนเริ่มต้นจากการ รังแก ทั้งสิ้นครับ
เลยอยากมาเล่าสู่กันฟังให้เพื่อนๆครับ ว่าที่ไปโทษตัวฆาตรกร ว่าจิตใจเขาทำด้วยอะไร เเต่กลับกัน พวกเราเนี้ยแหละครับ เป็นคนสร้างสัตว์ร้ายแบบนี้ขึ้นมาในโลกของเราเอง แต่ใช้เพียงคำว่า "ไม่เป็นอะไรหรอก คิดมากไปป่าว ซีเรียสอะไรนักหนา"และมองข้ามมันไปปล่อยให้เหยื่อทางคำพูดนั้นทนทุกข์ทรมาน และไอขี้คลาด ไอขี้แพ้พวกนี้แหละครับ น่ากลัวกว่าอันธพาลที่ดีแต่รังแกทั้งหลายเสียอีก
จิตใต้สำนึก สันดานดิบ และ อารมณ์ที่ตื่นเต้นสุดๆของมนุษย์ ปัจจัยพวกนี้เนี้ยแหละครับ มันเอาชนะได้ทุกๆตรรกะ จารีต หรือแม้กระทั่งกฏหมายได้อย่างง่ายเดียวเลยทีเดียว ใช้สังคมออนไลน์อย่างมีสตินะครับ อย่าไปทำร้าย หรือ สาดโคลนใส่กันเลย เราแทบจะไม่รู้เลยว่าคำพูด หนึ่งคำไปของเรากระทบรอยร้าวที่ใกล้จะระเบิดของใครบ้าง ♥♥
"ถ้าเรารู้จักศัตรูของเราดีพอ เราจะรู้สึกรักพวกเขาไปด้วย" รู้สึกรักแอนดี้ขึ้นมาแล้วใช่มั๊ยครับ ?
ปล. ขออภัยทางมีการพาดพิงถึงบุคคลใด ทางผู้เขียนอยากจะบอกเล่าเรียงราวในเชิงการศึกษาเท่านั้น ถ้าผิดกฎหรือทำให้ขุ่นเขืองใจประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย