บางทฤษฎีบอกว่าการออกกำลังกายไม่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักจริงหรือ?
เรามักจะได้ยินว่าการออกกำลังกายคือองค์ประกอบสำคัญในการลดน้ำหนัก แต่ความจริงคือมีหลักฐานชี้ว่าการออกกำลังกายติดต่อกันนานหลายปีอาจส่งผลดีต่อสุขภาพแต่อันที่จริงแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักเลย หลังจากที่ศึกษามามากกว่า 60 ทฤษฎีฉันก็ได้ข้อสรุปดังต่อไปนี้
ข้อเท็จจริงที่คาดไม่ถึงสุดๆอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการออกกำลังกายคือต่อให้คุณออกกำลังกายมากเท่าไหร่แต่แคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญก็เป็นเพียงส่วนน้อยจากพลังงานโดยรวมเท่านั้น มีองค์ประกอบหลักสามอย่างที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานได้แก่ 1) อัตราการเผาผลาญพื้นฐานหรือพลังงานที่ถูกใช้ 2) พลังงานที่ถูกใช้ในการย่อยสลายอาหาร และ 3) พลังงานที่ถูกใช้ในระหว่างออกกำลังกาย
อัตราการเผาผลาญพื้นฐานจะอยู่ที่ร้อยละ 60-80 ของพลังงานที่ถูกใช้ไปทั้งหมด ส่วนการย่อยอาหารจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 ขณะที่การออกกำลังกายจะใช้พลังงานเพียงร้อยละ 10-30 เท่านั้น (อย่าลืมว่าการออกกำลังกายจะรวมถึงการเคลื่อนไหวทุกอย่าง เช่น การเดินรอบๆหรือการขยับตัว เป็นต้น)
การคำนวณหาปริมาณแคลอรี่ที่หายไประหว่างออกกำลังกายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
สมมติว่ามีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งน้ำหนักตัวราว 90 กิโลกรัมได้ออกกำลังกายโดยการวิ่งที่มีความเข้มข้นระดับปานกลางนาน 60 นาทีเป็นเวลา 4 วันต่อสัปดาห์ ขณะที่รับประทานแคลอรี่เข้าไปในปริมาณเท่าเดิมและเมื่อเขาทำแบบนี้ติดต่อกัน 30 วัน น้ำหนักตัวของเขาก็ลดลงไปราวสองกิโลกรัม และถ้าผู้ชายคนนี้ตัดสินใจพักผ่อนมากขึ้นก็อาจทำให้น้ำหนักตัวลดลงไปอีก ดังนั้นถ้าใครมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานหรือเป็นโรคอ้วนและพยายามที่จะลดน้ำหนักก็เป็นไปได้ว่าอาจต้องใช้เวลามากอย่างน่าเหลือเชื่อและการลดน้ำหนักโดยการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวก็อาจต้องอาศัยความอุตสาหะสุดๆ
การออกกำลังกายอาจส่งผลกระทบต่อการลดน้ำหนักไม่มากก็น้อย
ปริมาณอาหารที่รับประทานเข้าไปย่อมมีส่วนเชื่อมโยงกับการออกกำลังกาย ยิ่งเราออกกำลังกายมากเท่าไหร่บางครั้งเราก็ยิ่งกินมากเท่านั้นหรือบางครั้งก็น้อยลงถ้าเราไม่ได้ออกกำลังกาย การศึกษาหนึ่งในปี 2009 ชี้ว่าดูเหมือนคนเราจะรับประทานอาหารเพิ่มขึ้นหลังจากที่ออกกำลังกายเนื่องจากพวกเขาคิดว่าร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ออกไปมากแล้วหรือไม่ก็เป็นเพราะพวกเขารู้สึกหิวมากกว่าเดิม นอกจากนี้การศึกษาในปี 2012 ยังพบอีกว่าคนเราจะประเมินค่าพลังงานที่สูญเสียไประหว่างออกกำลังกายมากกว่าปกติและรับประทานอาหารมากขึ้น
ทั้งนี้ยังมีหลักฐานชี้ว่าผู้คนบางกลุ่มจะเคลื่อนไหวช้าลงหลังจากที่ออกกำลังกายรวมถึงใช้พลังงานน้อยลงในการทำกิจกรรมทั่วไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนหรือขยับตัวน้อยลงเนื่องจากรู้สึกเหนื่อย หรือแม้แต่ใช้บันไดเลื่อนแทนที่จะขึ้นลงบันได การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะถูกเรียกว่า “พฤติกรรมการชดเชย” ซึ่งเรามักจะทำโดยไม่รู้ตัวหลังจากที่ออกกำลังกายเพื่อชดเชยปริมาณแคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญไป
เราต้องปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายมีคุณประโยชน์มากมายหลายอย่างแต่อาจไม่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก มีการพิสูจน์แล้วว่าการออกกำลังกายนั้นถือเป็นยารักษาโรคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก ทั้งช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง ปรับสมดุลความดันโลหิต รักษาระดับคลอเรสเตอรอลและน้ำตาล ส่งเสริมในเรื่องของการนอน การสร้างสมาธิ พลังงาน และอารมณ์ ซึ่งดีกว่าผลิตภัณฑ์ยาแพทย์แผนปัจจุบันเสียอีก
แต่น่าเสียดายที่การออกกำลังกายไม่ใช่ทางเลือกของการลดน้ำหนัก และตราบใดที่เรายังสนับสนุนว่าการออกกำลังกายสามารถป้องกันหรือรักษาโรคอ้วนในเด็กหรือผู้ใหญ่ได้ สังคมก็จะยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของการออกกำลังกายต่อไปรวมถึงการควบคุมน้ำหนักในระยะยาวด้วย ปัจจุบันเป็นที่รู้แน่ชัดแล้วว่าการออกกำลังกายนั้นดีต่อสุขภาพแต่ไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะกับการลดน้ำหนัก ดังนั้นอย่าคาดหวังว่าเราจะสามารถลดน้ำหนักได้โดยการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว
ดูคลิปวีดีโอ The science is in: Exercise isn’t the best way to lose
Source : vox.com