เสี่ยง ไม่เสี่ยง ต้องสังเกต! 8 วิธี สังเกตตับ จับสัญญาณมะเร็ง
จากสถิติของประเทศไทย โรคมะเร็งที่ครองแชมป์เป็นอันดับ 1
นั่นก็คือ #มะเร็งตับ
มะเร็งตับ เปรียบได้กับฆาตกรต่อเนื่องที่พรากชีวิตผู้คนบนโลกใบนี้ไปทุกๆวินาที และดูเหมือนจะยังไม่มีอัจฉริยะคนใดมาหยุดยั้งจ้าฆาตกรเลือดเย็นนี้ลงได้ง่ายดายนัก
เพราะอันที่จริงแล้วสาเหตุหลักของ มะเร็งตับ นั้นเกิดจากพฤติกรรมที่ไม่ใส่ใจสุขภาพของตัวเราเองหากเรามีพฤติกรรมเสี่ยง ควรรู้จักการสังเกตสุขภาพของตัวเราเอง จะได้ไม่ต้องมีคำว่า “รู้ตัวเมื่อสาย”
และนี่คือ 8 วิธี สังเกตตับ จับสัญญาณมะเร็ง แบบง่ายๆด้วยตนเอง ก่อนที่จะถึงมือแพทย์
1. จุกเสียดแน่นท้องและท้องบวมขึ้นแบบผิดสังเกต
2. ตัวเหลืองและตาเหลือง (อาการนี้สังเกตไม่ยาก)
3. น้ำหนักตัวลดลงผิดสังเกต
4. เบื่ออาหาร ไม่รู้สึกอยากอาหาร
5. รู้สึกอ่อนเพลียง่าย
6. มีไข้บ่อยๆโดยไม่ทราบสาเหตุ
7. คลำพบก้อนที่บริเวณตับ
8. ปวดท้องโดยเฉพาะบริเวณข้างขวาส่วนบน ในบางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปที่หลังหรือไหล่
ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคตับอักเสบเมื่อเกิดมีอาการดังกล่าว ควรจะรีบปรึกษาแพทย์ เพราะอาจมีมะเร็งตับแทรกซ้อนได้ ในทำนองเดียวกันผู้ที่ไม่มีอาการแต่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งตับ เป็นพาหะเชื้อไวรัสตับอักเสชนิดบี และซี หรือดื่มสุรามาก หรือมีประวัติกรรมพันธุ์คนใกล้ชิดในครอบครัวเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับ ควรปรึกษาแพทย์ และได้รับการตรวจเป็นระยะๆ โดยเจาะเลือดหาระดับแอลฟาฟีโตโปรทีน และทำอัลตราซาวด์ของตับ เพื่อตรวจหามะเร็งตับในระยะต้นๆ ได้
การป้องกันโรคมะเร็งตับอาจทำได้โดยการลดปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การรักษาภาวะตับอักเสบเรื้อรังและป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี โดยการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีในทารกแรกเกิด ไม่ดื่มสุรา/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับแข็ง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารก่อมะเร็งได้แก่ อาหารที่มีราขึ้น อาหารที่ใส่ดินประสิวและไนไตรท์ อาหารหมักดอง เป็นต้น
ที่มา: คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์การแพทย์สิริกิติ์, มหาวิทยาลัยมหิดลคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, เว็บไซต์หมอชาวบ้าน, หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
#clubคนรักสุขภาพ