คดีฆาตกรรมในญี่ปุ่นนั้นขอบอกเลยว่าไม่มีคดีไหนที่จะคลี่คลายได้ง่ายๆเลยแม้แต่คดีเดียว

คดีฆาตกรรมในญี่ปุ่นนั้นขอบอกเลยว่าไม่มีคดีไหนที่จะคลี่คลายได้ง่ายๆเลยแม้แต่คดีเดียว ไม่รู้คนประเทศนี้เขาจะฉลาดหลักแหลมอะไรกันนักกันหนา ยิ่งติดตามข่าวยิ่งชวนให้ปวดหัว เพราะเต็มไปด้วยปริศนาซ่อนเงื่อนมากมายจริงๆนะเออ ขอเวียนหัวกับตำรวจญี่ปุ่นด้วยคนเถอะนะ 〜

ภายหลังจากสามีเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน คุณยายอาเบะอาศัยอยู่คนเดียวที่ชั้นสามของแมนชั่นแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากสวนสาธารณะจุดที่พบศพราวๆ 700 เมตรเท่านั้นเอง ภาพสุดท้ายจากกล้องวงจรปิดของแมนชั่นที่สามารถจับภาพได้ก็คือ ตอนค่ำเวลาสองทุ่มวันอาทิตย์ที่19 คุณยายออกมาส่งลูกชายคนโตและภรรยาที่หน้าแมนชั่น จากนั้นคือช่วงเวลาแห่งความสำคัญสุดๆของคดีนี้เลยล่ะ นั่นก็คือเวลาตั้งแต่ 20:00 ของวันอาทิตย์ที่ 19 ไปจนถึงเวลา 09:00 ของวันรุ่งขึ้น เมื่อพนักงานบริษัททำความสะอาดได้มาเคาะห้องก็ไม่มีเสียงตอบรับ โทรศัพท์เข้าไปก็ไม่มีคนรับสาย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว 〜

ภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า 空白の 13 時間 〜 แปลได้เป็นภาษาไทยว่า 13 ชั่วโมงแห่งปริศนา หรือ 13 ชั่วแห่งความว่างเปล่านั่นแหละ
คือมันแทบไม่มีร่องรอยหรือเบาะแสใดๆให้สืบค้นได้เลย ทำให้ตำรวจก็มึนงงไปไม่น้อยเหมือนกันนะเออ 〜
จากการตรวจอย่างละเอียดของฝ่ายนิติเวช ในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆ ไม่มีรอยเลือด ไม่มีร่องรอยของขโมย ไม่มีข้าวของถูกขโมย กระเป๋าสตางค์และเงินสดอยู่ครบ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่มีอยู่มากมายทั้งที่จอดรถ ประตูทางเข้าแมนชั่น ริมถนนใหญ่ ทุกที่ไม่มีภาพน่าสงสัยใดๆเลย นั่นหมายความว่า ตลอดเวลา 13 ชั่วโมงคุณยายไม่น่าจะออกไปไหนเลย และนั่นก็แสดงว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่ว่าคุณยายน่าจะถูกฆ่าแล้วหั่นศพในห้องใดห้องหนึ่งของเพื่อนบ้านหรือบริเวณใกล้เคียงแถวๆนี้แหละ 〜

ทีมตำรวจระดมนักสืบมือโปรมาช่วยกันค้นหาความน่าจะเป็น นักสืบบอกว่า ฆาตกรที่ลงมือฆ่าไม่น่าจะวางแผนไว้ก่อนเพราะถ้าวางแผนไว้ก่อนจะต้องเอาไปทิ้งไกลๆกว่านี้แน่นอน น่าจะเป็นการลงมือแบบกระทันหันเพราะเอาศพไปทิ้งใกล้ๆแค่หกเจ็ดร้อยเมตรเอง แต่กล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณทางเข้าออกสวนสาธารณะก็ไม่มีภาพบุคคลหรือยานพาหนะที่น่าสงสัยแต่อย่างใดเลยนะ มึนไปเลยทีนี้โคนันก็โคนันเถอะ 〜

ข้อที่ต้องขบคิดต่อไปก็คือ คุณยายถูกฆ่าหั่นศพแสดงว่าฆาตกรต้องมีความแค้นฝังหุ่นต่อคุณยายแน่นอนใช่ไหม แต่จากการสอบถามชาวบ้านรอบๆที่รู้จักคุณยาย ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้หรอก เพราะคุณยายน่ารักมากมาย สดใสร่าเริง และเป็นมิตรกับทุกๆคน เวลาว่างคุณยายมีงานอดิเรกคือ ไปเรียนระบำฮาวายและเข้าคอร์สเรียนภาษาอังกฤษด้วยนะเออ เพื่อนๆปวดหัวแทนตำรวจญี่ปุ่นเจ้าของคดีเหมือนผมไหม ???

อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ลงทุนใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำออกจากบึงเพื่อหาอวัยวะที่ยังหาได้ไม่ครบนั่นก็คือ แขนขวาของคุณยายนั่นเอง 〜

ชาวบ้านบอกกับนักข่าวว่า ถึงแม่ว่าย่านนี้ค่อนข้างจะไฮโซและเงียบสงบเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยก็จริงอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย100%หรอกนะ เคยมีคดีฉกชิงวิ่งราว คดีคนโรคจิตดักฉุดหญิงสาวเข้าไปในห้องด้วยล่ะ กลางคืนไม่ค่อยมีใครกล้าเดินคนเดียวหรอกนะ ขอบอก 〜

ณ ตอนนี้มีข้อมูลแค่นี้แหละครับ กรุณาติดตามตอนต่อไปว่า เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป จะจบแบบไหนกันแน่ จบแบบสวยๆหรือพลิกล็อคโลกถล่มแบบเส้นผมบังภูเขา 〜

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากข่าวนี้ก็คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นนั้นช่างทำงานอย่างจริงจัง ทุ่มเทหามรุ่งหามค่ำเพื่อประชาชนผู้เสียภาษีทุกๆคนอย่างแท้จริง 〜
แต่อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกว่า คนญี่ปุ่นช่างฉลาดล้ำมากเกินไป และค่อนข้างลึกคิดลึกซึ้งจนน่ากลัว วันดีคืนดีไม่รู้ว่าเราอาจจะถูกฆ่าเอาสักวันก็เป็นไปได้นะจ๊ะ อย่าประมาทนะโยม จบข่าวภาคดึกครับ สาธุ 〜

後半へつづく ！！

☆彡☆*:.｡. o(≧▽≦)o .｡.:*☆😢😢😢😱😱😱☆彡

‪#‎Konanmeitantei‬