นักเรียนหญิงโพสต์บ่นกลุ่มโจ๋นั่งขวางบน BTS โดนรุมถล่มจนดราม่า

(25 มิ.ย.) เฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict ได้โพสต์ภาพจากเฟซบุ๊กของนักเรียนหญิงรายหนึ่ง ซึ่งถ่ายภาพและโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลังเจอกลุ่มนักเรียนชายจากโรงเรียนหนึ่งนั่งบนพื้น BTS พร้อมส่งเสียงดัง โดยมีข้อความดังนี้

"ไร้มารยาทสุด เสียงดังมาก แบบนี้เท่เหรอ เรียกเฟี้ยวเหรอ งง สงสารโรงเรียนจัง ปล.เราบอกว่าสงสารโรงเรียนค่ะ นี่หมายถึงชื่อเสียงโรงเรียนจะเสีย ทั้งบีทีเอสไม่ได้มีเราคนเดียว เก็ทมั้ยอ่ะ? เราไม่ได้ด่าโรงเรียน ถ้ามันเป็นเรื่องปกติของสังคมก็ขอโทษด้วยค่ะ"

โดยหลังจากนักเรียนหญิงโพสต์ข้อความดังกล่าว ก็มีคนที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของกลุ่มนักเรียนชาย ศิษย์เก่า รุ่นพี่ หลังไมค์มาด่า หาว่านักเรียนหญิงคนนี้ทำลายชื่อเสียงของโรงเรียน และชักชวนคนเข้ามาคอมเม้นท์ในเฟซบุ๊กของนักเรียนหญิงด้วยข้อความคุกคาม เช่นชักชวนกันไปข่มขืน หรือจะส่งรุ่นพี่มาทำร้ายร่างกายนักเรียนหญิงและคุณแม่

ต่อมา 5 นักเรียนชายได้ยอมรับผิดกับทางโรงเรียน และทางโรงเรียนได้มาขอโทษกับนักเรียนหญิงแล้ว แต่ก็ยังพบว่ามีคนเข้ามาข่มขู่นักเรียนหญิงผ่านทางเฟซบุ๊กอยู่

ซึ่งคุณแม่ของนักเรียนหญิงได้โพสต์ข้อความชี้แจงว่า ลูกสาวของตนโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กที่มีครอบครัว เพื่อน และคนที่รู้จักจริงๆ เพียงสองร้อยกว่าคนเท่านั้น หากลูกสาวของตนเองอยากดังคงโพสต์ลงบ่นเฟซบุ๊กเก่าซึ่งมีงานถ่ายแบบ งานดีเจ และมีผู้ติดตามเยอะ

โดยลูกสาวของตนเองมีผลการเรียนดี และกลับบ้านตรงเวลาทุกครั้งและอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง และพูดคุยปรึกษากับผู้ใหญ่ทุกเรื่อง ซึ่งเรื่องดังกล่าวลุกลามใหญ่โต มีการข่มขู่ทำร้ายร่างกาย หรือแม้กระทั่งจะลงแขก และยังเข้ามาข่มขู่ในเฟซบุ๊กของคุณแม่ จึงตัดสินใจฟ้องร้อง โดยคุณแม่ของนักเรียนหญิงขอบคุณโรงเรียนที่ติดตามดูแลเรื่องนี้ และชื่นชม 5 นักเรียนที่กล้ายอมรับผิด

ขณะที่นักเรียนหญิงซึ่งเป็นผู้โพสต์ภาพ ก็โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า มีคนถามว่าทำไมถึงไม่เข้าไปเตือน และถ่ายประจาน และทำไมไม่อัดคลิป โดยระบุว่า ขณะนั้นใกล้ถึงสถานีที่ตนจะลงอยู่แล้ว และการถ่ายคลิปยิ่งจะเป็นการประจานมากกว่าเดิม อีกทั้งในวันนั้น ตนเองปิดตาอยู่ข้างนึง และอีกข้างสายตาสั้น -300 จึงไม่กล้าเดินเข้าไปเตือน

ทั้งนี้ เรื่องราวดังกล่าวมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่ระบุว่า การกระทำดังกล่าวแทนที่จะเป็นการปกป้องชื่อเสียงของโรงเรียนอย่างที่อีกฝ่ายอ้าง กับเป็นสร้างชื่อเสียให้มากกว่า พร้อมแนะนำให้แจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด