หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องเล่าจากทีมภาคสนาม ในวันอองซาน ซูจีเยือนมหาชัย

โพสท์โดย ลูกสาวผู้ว่า

เก็บตกจากหมายข่าว : อองซาน ซูจี วีรสตรีทรงพลังแห่งเมียนมาร์

***ยาวหน่อยนะครับ แต่อยากให้อ่านให้จบ***

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว จะมีพลังมหาศาล ที่ทำให้คนพม่าเรือนหมื่นคนพร้อมใจยืนตากฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่งและตะโกนชื่อของเธอสุดเสียงต่อเนื่องยาวนานอย่างไม่ลดละ

"อองซาน ซูจี" หรือเมซู หรือแม่ซู ที่ปรึกษาของรัฐบาลพม่า ที่มาเยือนไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ตามคำเชิญของรัฐบาลไทย และเมื่อวานก็มีกำหนดการมาเยี่ยมเยือนพบปะกับประชาชนชาวพม่าที่อาศัยและทำงานอยู่ในประเทศไทยที่ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ซึ่งผมและทีมงานก็ได้รับมอบหมายให้ไปเฝ้าที่จุดดังกล่าว เพื่อรายงานข่าวถึงบรรยากาศที่เกิดขึ้น ตามกำหนดการแล้วนางซูจีจะมาถึงที่มหาชัย 16:30 น. แต่ผมก็ไปรอกันตั้งแต่ 9:00 น. เพื่อรายงานสดข่าวเที่ยง ข่าวเบรกตอนบ่าย ข่าวช่วงเย็น 16:30 น. และข่าวค่ำ 18:30 น. งานแน่นมากจริงๆ 😭😭😭 ซึ่งพอไปถึงก็เริ่มเห็นบรรยากาศของชาวพม่าที่ทยอยเดินทางมาที่ตลาดมหาชัยตั้งแต่เช้า บางคนมาจากต่างจังหวัดทุกสารทิศของประเทศ ลงทุนลางานกันมาเพื่อมาพบกับ เมซู หรือแม่ซูของพวกเขา ตลอดเวลาที่ผมเดินผ่านชาวพม่าผมจะเห็นพวกเขาถือดอกไม้ ถือธงชาติพม่า ถือรูปของเมซู และใส่เสื้อที่สกรีนรูปของเมซู พร้อมตะโกนคำว่า "เมซู จามาวาเซ ที่แปลเป็นไทยคือ "ขอให้แม่ซู จงสบายดี" ตลอดเวลา ทำให้รู้เลยว่าคนพม่ารักนางซูจีมากจริงๆ

เหตุการณ์เลยเวลาเที่ยงจนเข้าสู่เวลาบ่ายโมง ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับนักข่าวว่ามีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ลงทะเบียนสื่อมวลชนใหม่ จากตรงใต้หอประชุมที่จัดงาน ไปตรงทางเข้าด้านหน้าตลาดซึ่งห่างออกไปอีกเกือบ 300 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัย และต้องการตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆ ตรวจหาวัตถุระเบิด พวกเราก็อพยพกันออกไปด้านนอก ยืนต่อแถวตากแดดร้อนๆ ตอนบ่ายนานเกือบชั่วโมงเพื่อลงทะเบียน เพราะต้องบอกว่าวันนั้นสื่อฯ มากันเยอะจริงๆ ทั้งสื่อไทยและสื่อต่างชาติเกือบ 300 คน พอลงทะเบียนเสร็จก็จะได้ปลอกแขนสีม่วงมา ผมกับทีมงานยืนวางแผนกันว่าจะแบ่งทีมออกเป็น 2 ทีม โดยทีมนึงเก็บบรรยากาศด้านนอก ซึ่งผมจะอยู่ตรงจุดนี้ ส่วนอีกทีมจะอยู่ในหอประชุมเพื่อเก็บภาพตอนนางซูจีขึ้นพูดบนเวที ระหว่างที่ผมกับทีมงานยืนวางแผนกันอยู่นั้น ชาวพม่าที่อยู่ด้านในตลาดก็ค่อยๆ ถูกกวาดต้อนออกมาด้านนอก รวมทั้งก็เริ่มมีคนพม่าจากที่อื่นๆ ตามมาสมทบมากขึ้น จากที่มีตอนแรกเพียงไม่กี่ร้อยคน สักพักเดียวคนพม่ามาสมทบรวมกันเป็นพันคนและเพิ่มขึ้นหลายพันคนจนเป็นหมื่นคนในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ซึ่งโดยสัญชาตญาณของผมมันมีลางสังหรณ์ว่าอีกไม่นานความวุ่นวายมันกำลังจะเริ่มขึ้นแน่ เพราะดูแล้วเจ้าหน้าที่แค่นี้คงไม่น่าจะรับมือฝูงชนไหวแน่นอนหากพวกเขาพร้อมใจกรูกันเข้าไป

14:00 น. ผมเริ่มเห็นชาวพม่ากลุ่มเล็กๆ กลุ่มนึงตรงทางเข้าเริ่มตะโกนด้วยอาการไม่พอใจหลังทราบว่าพวกตนจะไม่ได้เข้าไปในพื้นที่จัดงาน เพราะว่าทางสถานทูตพม่าได้เปิดรับลงทะเบียนคนพม่าเพียง 500 คนเท่านั้น เพื่อเข้าไปรับฟังนางซูจีในหอประชุม จากคนพม่าที่ไม่พอใจกลุ่มเล็กๆ เริ่มมีการกระจายข่าวไปทั่วบริเวณ และทำให้คนพม่าที่มารอเพื่อหวังที่จะได้พบเมซูรู้ว่าพวกตนจะถูกกันไม่ให้เข้าไปด้านไม่พอใจอย่างมาก จนเริ่มตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ ทำให้มีตัวแทนที่อ้างว่ามาจากสถานทูตพม่าเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ว่าต้องการให้ชาวพม่าทั้งหมดเข้าไปในบริเวณพื้นที่จัดงาน แค่พื้นที่โดยรอบด้านนอกก็ยังดี แต่เจ้าหน้าที่ไทยก็ยืนยันว่ายังไงก็ไม่ให้เข้า คล้อยหลังไม่นานกลุ่มคนที่ถูกรับเลือกว่าจะให้เข้าไปรับฟังนโยบายกับนางซูจี ได้เดินแถวเข้ามา ซึ่งเป็นพนักงานโรงงานที่มีการติดบัตรแสดงสัญลักษณ์ว่าได้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ถูกชาวพม่าที่อยู่ตรงนั้นกันไม่ให้เข้า และไล่ต้อนจนล่าถอยออกไป ผมไปถามชาวพม่าหลายคนว่าเจ้าหน้าที่เขาไม่ให้เข้าไปรอพบเมซู พวกเขารู้สึกยังไง ทุกคนบอกว่าเสียใจมากๆ และไม่ทราบมาก่อนว่าเขาเปิดให้ลงทะเบียนตอนไหน ที่ไหน บางคนรู้มาว่าในหอประชุมจะให้คนเข้าไปฟังนางซูจีพูดได้ 500 คนก็จริง แต่เหมือนได้ยินมาว่าใครมาก่อนก็ได้เข้าไปก่อนไม่ต้องลงทะเบียนมาล่วงหน้ และบอกว่ารู้สึกไม่ได้รับความเท่าเทียม และก็มีความเห็นอื่นๆ เยอะแยะมากมายในทำนองตัดพ้อ รวมทั้งกลุ่มสิทธิชาวพม่าที่จะเข้าไปชีแจงเรื่องประเด็นค่าแรงที่ไม่เป็นธรรมต่อชาวพม่าก็ไม่ได้เข้าไปเช่นกัน

เมื่อเหตุการณ์เริ่มไม่เป็นระเบียบเจ้าหน้าที่ไทยก็เริ่มตั้งแถว ตั้งแนวกัน คุมเข้มมากขึ้น เพราะใกล้เวลาที่นางซูจีจะมาแล้ว ส่วนชาวพม่า 500 คนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าไป ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำทุกวิถีทางที่จะพาคนกลุ่มนี้เข้าไปให้ทันเวลา โดยถ่ายคนใส่รถกระบะบ้าง รถทหารบ้าง และวิ่งฝ่าเข้าไป ชาวพม่าข้างนอกเห็นยิ่งไม่พอใจหนักเพิ่มไปอีก ตอนนี้นักข่าวเองก็ทำงานกันวุ่นวายมาก เพราะสิ่งต่างๆ มันเกิดขึ้นแบบไม่มีใครตั้งตัว ในตอนนั้นเจอใครหยิบจับใครได้ก็ดึงมาสัมภาษณ์ ดึงมาคุยกันหมด ซึ่งบอกเลยว่างานนี้เหมือนจับปูใส่กระด้งจริงๆ

และแล้วจุดพีคสุดของเรื่องราวก็มาถึง เมื่อขบวนรถของนางซูจีมาถึงที่จัดงาน และวิ่งผ่านเข้าไปข้างใน คนพม่าทั้งหมดส่งเสียงเฮ และเรียกเมซูๆๆ ดังกึกก้อง พร้อมกับพยายามฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่เข้าไป เจ้าหน้าที่เองก็ตั้งแถวคล้องแขนและก็ดันคนพม่าที่จะแหกกำแพงมนุษย์สุดชีวิต เหมือนเขื่อนที่กำลังกั้นแรงน้ำไม่ให้ไหลทะลักพังเขื่อน พร้อมกับตะโกนว่า "อย่าให้เข้าๆ" สุดท้ายแล้ว แรงตำรวจทหารแค่หยิบมือไม่สามารถต้านทานพลังคนพม่าเรือนหมื่นได้ เขื่อนบางๆ ที่กั้นไว้ก็แตกในที่สุด คนพม่าต่างวิ่งกรูเข้าไปโดยรอบพื้นที่จัดงาน ผมก็เลยต้องวิ่งตามเพื่อถ่ายภาพความชุลมุนที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงเหมือนเหล็กกระแทกพื้นโครมใหญ่ ผมหันไปดูที่ต้นเสียงก็เห็นแผงเหล็กที่กันชาวพม่าฝั่งตรงข้ามล้มลงตลอดแนวและคนพม่าฝั่งโน้นก็วิ่งกรูทะลักกันเข้ามาเหมือนน้ำไหลบ่าท่วม ผมกับช่างภาพพลัดหลงกันในที่สุด แถมเวลานั้นสัญญาณโทรศัพท์ก็กลายเป็นง่อยติดต่อใครไม่ได้เลย ผมได้แต่วิ่งๆๆๆๆ หลบซ้ายทีหลบขวาทีเพื่อไม่ให้วิ่งถูกชน จนได้ยินเสียงช่างภาพตะโกนเรียกชื่อผมอยู่ฝั่งตรงข้ามไกลๆ เลยวิ่งตามไปสมทบ สักพักในสถานีโทรมาว่าให้เตรียมเข้ารายงานสดเลยทันที แต่ช่างภาพบอกขอเวลาเตรียมตัวสักครู่ ผมเองก็มองหาที่ๆ จะเปิดหน้ารายงานสด สายตาเร็วกว่าความคิด ผมหันไปด้านหลังตรงบันไดทางขึ้นหอประชุม ผมเห็นทีวีช่องนึงกำลังเตรียมรายงานสดตรงจุดๆ นั้นซึ่งมันเป็นมุมที่สวยมากๆ เห็นฝูงชนเกือบทั้งหมดจากมุมสูง ไอ้เราก็ยอมไม่ได้ที่เห็นช่องอื่นจะได้มุมดีกว่าเรา 😆😆😆 เลยหันไปคุยกับช่างภาพว่า

ผม : เห้ย...!! ยังไม่เข้าสดใช่ป่ะ พอมีเวลาอยู่ใช่มะ พอดีกูเห็นช่อง...มันไปเปิดหน้าตรงข้างบนนั้นหน้าหอประชุมว่ะ แม่งมุมนั้นโคตรสวยเลย กูว่าไปตรงนั้นกันมะ?

ช่างภาพ : ไปได้เหรอวะ แม่งแน่นขนาดนั้นจะฝ่าเข้าไปไง?

ผม : กูว่ากูฝ่าได้ ...พร้อมไปกะกูมั้ยล่ะ?

ช่างภาพ : ได้!!! ไปเลย... (ไม่หยุดคิดหน่อยเหรอ... 😆😆😆)

ผมเลยต้องช่วยช่างภาพแบก Live U ที่เป็นตัวส่งสัญญาณถ่ายทอดสดที่โคตรหนักถึงหนักมากราวสิบกว่ากิโลขึ้นหลัง เพราะตอนนั้นผู้ช่วยช่างภาพก็พลัดหลงกับทีมเช่นกัน พอเอา Live U ขึ้นหลังได้ ช่างภาพแบกกล้องพร้อมขาตั้งเรียบร้อย ก็วิ่งใส่เกียร์หมา 4X100 แบบก้มๆ หลังเหมือนเต่า เพราะหากวิ่งหลังตรงๆ ตัวส่งสัญญาณมันจะไปทับเสาไวเลสที่เน็บตรงเข็มขัดด้านหลังทำให้เสาหักและไวเลสจะเจ๊งใช้งานไม่ได้ความซวยจะเยือนผมแทน สุดท้ายก็เลยต้องก้มตัวโค้งหลังวิ่งฝ่าคนพม่านับพันเข้าไปให้ถึงหอประชุม ผมทั้งมุด ทั้งแหวก ทั้งกระโดด เพื่อขอทางเข้าไป ปากก็พูด "ขอโทษครับ ขอทางหน่อยครับ" ไปตลอด จนไปถึงที่บันไดหอประชุมก็แทบหมดแรง แต่ก็ต้องเตรียมเข้ารายงานสดทันที เพราะในสตูส่งสัญญาณมาแล้ว ผมบอกข้างในว่า สคริปที่ส่งให้ก่อนหน้า ฉีกทิ้งไปเลย ไม่มีปล่อยเสียงแหล่งข่าว เพราะผมจะด้นบรรยากาศสดๆ และให้กล้องแพนเอา พอนับ 5-4-3-2-คิว ผมก็ด้นสดแบบเห็นอะไร ได้ยินอะไรก็พูดไปครับ เลยกลายเป็นบรรยากาศและมุมที่สุดๆ อีกมุมของผมลองดูได้ที่โพสล่าสุดก่อนหน้านี้เลย

หลังจากจบการรายงานสดใช่ว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น เพราะงานยังไม่จบนางซูจียังไม่กลับ มวลชนยังอยู่ แถมฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ ซึ่งแรงมากๆ ทั้งลมทั้งฝน ทีมช่างภาพยังคงถ่ายงานกันต่อแบบไม่ลดละ สื่อไทยสื่อต่างชาติที่เกาะติดรายงานข่าวก็ยังทำหน้าที่แบบไม่มีใครยอมใครท่ามกลางสายฝนที่ตกแรงดั่งพายุเข้า ทั้งผม ช่างภาพ ผู้ช่วยฯ เปียกแฉะไปตามๆ กัน จนกระทั่งถึงเวลาที่นางซูจีปรากฎตัวจะกลับแล้ว ฝนก็ยังเทหนักกว่าเดิมอีก คนพม่ายังคงปักหลักไม่ถอยไปไหน ส่งเสียงเรียกเมซูๆ ต่อเนื่อง ผมขนลุกมากที่ได้มาเจออะไรแบบนี้ มันสุดยอดมากๆ จริงๆ คืออธิบายไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าคนพม่าจะศรัทธานางซูจีมากมายถึงขนาดยอมยืนตากฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่งแบบไม่ยอมถอยไปไหน จนเมื่อซูจีกลับไปทุกอยากก็เริ่มค่อยๆ สงบลง ฝนก็หยุดตกซะงั้น และคนพม่าเริ่มทยอยกลับ ผมไปถามคนพม่าคนนึงที่มาในวันนี้ เขาบอกทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้เขาเพิ่งเคยเห็นเมซูตัวจริงด้วยสายตาตัวเองเป็นครั้งแรก เขาดีใจมาก แม้จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ ในระยะไกลๆ แต่เขาก็ดีใจที่สักครั้งก่อนตายเขาได้พบแม่ซูจี ซึ่งผมยอมรับแบบหมดใจเลยว่า นางอองซาน ซูจี หญิงเหล็กแห่งอิรวะดีคนนี้ คือสุดยอดจริงๆ

นี่คือประสบการณ์สุดมันส์ ระทึกใจ เหนื่อยใจ แต่ประทับใจในการรายงานข่าวอีกครั้งในชีวิต เพราะมันอาจเป็นการรายงานข่าวในสถานการณ์แบบนี้ครั้งเดียวในชีวิตเลยก็ได้ ส่วนคนดูก็จะได้รู้ว่า เหตุการณ์เฉพาะหน้าแบบนี้นักข่าวภาคสนามและทีมงานทุกคนทำงานหนักกันขนาดไหนเพื่อจะได้ภาพและรายงานสดให้ทุกคนได้เห็น สิ่งที่พวกเราต้องการคือกำลังใจเล็กๆ น้อยที่มาจากการที่ทุกคนเปิดดูเรา เพราะถ้าไม่มีคนดู เราก็ไม่รู้จะรายงานข่าวให้ใครดูเช่นกัน

สุดท้ายนี้ขอบคุณที่อ่านจนจบ และอย่าลืมคลิกดูข่าวที่ผมตั้งใจทำและชร์มาให้ดูด้วยนะครับ เพราะนั่นคือกำลังใจที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา ขอบคุณครับผม

บันทึกริชาร์ต ไมเยอร์ 23 ตุลาคม 2559

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวผู้ว่า's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวผู้ว่า
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (4/5 จาก 10 คน)
VOTED: tinpost, Darius, Dexter Suttipong, โอ๊ย, เพ้ยเพ้ย, bgs, แมวฮั่ว แมวขี้งอน, ผมชื่อ ไอ้โง่
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
โรคซึมเศร้าในผู้ชาย ภัยเงียบของผู้ชาย ต่างจากผู้หญิงอย่างไร?คุมตัว หนุ่มคลั่ง โวยวายจะถอนเงินหมื่น ช่วยชาติ ด่า จนท. ทำงานช้าเปิดประวัติป๋าเบียร์ คู่ชีวิตแม่ตั๊กความกล้าหาญของเด็ก ป.3 น้องปูอัดโคตะรักเมืองไทย ยกให้เป็นบ้านหลังที่สอง แฟนคลับแห่ต้อนรับอบอุ่น10 อันดับ เลขเด็ดมาเเรง งวดวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567จักรพรรดิ​นี​หว่านหรงเเละเหวินซิ่ว​(ซูเฟย)เเห่งราชวงศ์​ชิง​ภาพของเหล่าต้นไม้ ที่เหมือนจะกำลังจะหนีไปจากสถานที่ๆ พวกมันอยู่ แต่นี่คือความมหัศจรรย์ จากความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาตินั่นเองจ้าเกิดเหตุขโมยรถป้ายแดงกลางห้างย่านรัชดา มีแมวติดอยู่รถด้วย"ฮันนิ NewJeans" ได้รับเชิญจากรัฐสภาเกาหลีใต้ ในฐานะพยา นกรณีถูกคุกคๅมและกลั่นแกล้งในที่ทำงานชาวเลบานอนดับ1873รายด้วยน้ำมืออิสราเอล!เเพสชั่นล้วนๆ!! หนุ่มน้อยวัย 6 ขวบ รับจ้างเก็บอึน้องหมา หาเงินเลี้ยงแมวจร
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โรคซึมเศร้าในผู้ชาย ภัยเงียบของผู้ชาย ต่างจากผู้หญิงอย่างไร?กางเต้นท์ปลายฝนต้นหนาว'ลีน่าจัง'สู้! ลั่นไม่กลัวตาย!ประวัติของ “ครูพิมพ์ทอง” ผู้เสียสละที่ปกป้องลูกศิษย์จนวินาทีสุดท้าย"Choco Pie" ขนมที่ผู้นำโสมแดง..ไม่ปลื้มอย่างแรง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ดาว Onlyfans ทำคลิปล้อเลียน “พายุเฮเลน”วัดดังเมืองคอน ทำบุญสาทรเดือนสิบ อุทิศส่วนกุศลบรรพบุรุษ – เหยื่อรถทัวร์มรณะชาวเลบานอนดับ1873รายด้วยน้ำมืออิสราเอล!ความกล้าหาญของเด็ก ป.3 น้องปูอัด
ตั้งกระทู้ใหม่