ด่วน ! หน.คสช.ใช้ ม. ๔๔ ออกมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของ นร. - นศ. เจอคุก ๖ เดือน และปรับ ๖๐,๐๐๐ บาท ส่วนพ่อแม่โดนด้วย !
หัวหน้า คสช.ใช้ มาตรา ๔๔ ออกมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของ นักเรียน - นักศึกษา เปิดทางให้ จนท.กักตัวเด็กที่ก่อเหตุวิวาท ต้องจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน และ ปรับไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท โดยผู้ปกครอง ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ส่วนบุคคลใด ยุยุงให้ทุบตีทะเลาะววิาทกัน ต้องจำคุกไม่เกิน ๓ เดือน
คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๐/๒๕๕๙
เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนและนักศึกษา โดยที่ปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนและนักศึกษาก่อให้เกิดความสูญเสียต่อ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน รวมทั้งเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและสังคม แต่เนื่องจากมาตรการทางกฎหมาย ท่ีมีอยู่ไม่สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ทันต่อสถานการณ์
ทําให้เกิดอุปสรรคในการดําเนินการเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนและนักศึกษา จึงจําเป็นต้องกําหนดมาตรการทางกฎหมายเพิ่มเติม อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปและจัดระเบียบในสังคม อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามหมวด ๗ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ มีอํานาจกักตัวนักเรียนและนักศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทําร้ายร่างกายผู้อื่น หรือเตรียมการเพื่อก่อเหตุดังกล่าว เป็นการชั่วคราวไม่เกินหกชั่วโมง เพื่อนําส่งเจ้าพนักงานตํารวจ ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา บิดามารดา หรือผู้ปกครองแล้วแต่กรณี
ข้อ ๒ บิดามารดาหรือผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรม สั่งสอน และยับยั้งพฤติกรรม ที่ไม่ดีของเด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียนและนักศึกษา ที่อยู่ในความปกครองดูแลของตน รวมทั้งต้องปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก ตลอดจนต้องไม่สนับสนุน หรือ ปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียนและนักศึกษาในปกครองรวมกลุ่ม เพื่อก่อเหตุ ทะเลาะวิวาท
ทําร้ายร่างกายผู้อื่น หรือ เตรียมการเพื่อก่อเหตุดังกล่าว และให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอํานาจหน้าที่ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวติดตามและสอดส่องให้มีการดําเนินการอย่างเคร่งครัด ในกรณีที่พบเด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียนและนักศึกษารวมกลุ่มเพื่อกระทําการ ตามวรรคหนึ่ง ให้ถือเป็นความรับผิดชอบของบิดามารดา หรือ ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียนและนักศึกษา แล้วแต่กรณี และให้เป็นอํานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่จะแจ้งให้บิดามารดา หรือ
ผู้ปกครอง เข้ามารับทราบการกระทําของเด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียนและนักศึกษาดังกล่าว เพื่อให้คําแนะนํา ตักเตือน ทําทัณฑ์บน หรือ วางข้อกําหนดเพื่อป้องกันมิให้กระทําความผิดอีก หรือ อาจให้วางประกันไว้เป็นจํานวนเงินตามสมควรแก่ฐานานุรูป แต่จะเรียกเงินประกันไว้ได้ไม่เกิน ระยะเวลาสองปี หากเด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียนและนักศึกษาได้กระทําความผิดดังกล่าวซ้ำอีก ให้ริบเงินประกันเป็นของกองทุนคุ้มครองเด็กตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก
ข้อ ๓ ผู้ใดกระทําการอันเป็นการยุยง ส่งเสริม ช่วยเหลือ หรือสนับสนุน ให้นักเรียน หรือนักศึกษาฝ่าฝืนบทบัญญัติตามมาตรา ๖๔ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ ต้องระวางโทษ จําคุกไม่เกิน ๓ เดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ หากการกระทําตามวรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้นักเรียนหรือนักศึกษาไปก่อเหตุทะเลาะวิวาท หรือทําร้ายร่างกายผู้อื่น ผู้นั้นต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และหากเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเพราะการทะเลาะวิวาท หรือ ทําร้ายร่างกายนั้น ผู้น้ันต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ข้อ ๔ ให้โรงเรียนและสถานศึกษามีหน้าที่จัดให้มีกิจกรรมในการแนะแนวเพื่อตอบสนอง ต่อการแก้ไขปัญหานักเรียนและนักศึกษาทะเลาะวิวาท โดยร่วมมือกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกวดขันและเร่งรัดจัดทํามาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะ วิวาทของนักเรียนและนักศึกษา ให้เป็นรูปธรรม เพื่อเป็นการลดปัญหาสังคมโดยเร่งด่วน
ข้อ ๕ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๙
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ