“Why Did He Do It?” ยังเป็นปริศนาต่อไป พ่อบอกเขาไม่ใช่คนเคร่งศาสนามากมาย อดีตเมียบอกเขาไม่มีลักษณะเป็นพวกสุดโต่ง “radicalization” แต่อาจไม่ “stable” สติสตังไม่สมประกอบ เพื่อนร่วมงานก็มองไม่เห็นศักยภาพหรือแนวโน้มที่จะเป็นคนซึ่งอ้างหลักศาสนาเพื่อก่อการ อันโหดร้ายได้ ส่วนคนเที่ยว Pulse บางคนบอกเขาเป็น homosexual แน่นอน เคยเห็นเขามาเต้น และพยายามหิ้วเด็กไปนอน บางคนบอกเขาใช้ app หาคู่เกย์ ตัวเขาเองเคยอ้างกับเพื่อนร่วมงานว่าเป็นสมาชิกกลุ่มอัลเคด้าห์บ้าง เฮสบัลเลาะห์บ้าง ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะทั้งสองกลุ่มเป็นศัตรูกัน และระหว่างปฏิบัติการ #OrlandoShooting เขาโทรเข้า 911 บอกกับตำรวจว่าเป็นผู้ภักดีต่อ ISIL
แต่จนถึงปัจจุบัน FBI ยังหาความเชื่อมโยงไม่เจอระหว่างปฏิบัติการของเขากับการสนับสนุนของ ISIL เมียคนปัจจุบันของเขา (ซึ่งมีลูกชายด้วยกันวัยสามขวบ) บอกว่าเคยขับรถพาเขามาดูลาดเลาที่ไนต์คลับแห่งนี้ และไปกับเขาตอนซื้ออาวุธ แต่พยายามบอกให้เขาเลิกล้มความตั้งใจ ดูเหมือนคุณ Noor Zahi Salman ภรรยาคนปัจจุบันจะเป็น “จิ๊กซอว์” สำคัญนำไปสู่กุญแจไขปริศนา แต่เขาจะให้ความร่วมมือแค่ไหน? ฝ่ายตำรวจเตรียมแจ้งข้อหากับเธอ จะใช้เป็น “plea bargain” เพื่อรีดข้อมูลจากเธอหรือไม่ ต้องดูกันต่อไป สงสารแต่ลูกของเขาซึ่งคงมีที่ยืนยากในสังคมเมื่อโตขึ้นมา
ในแง่ปฏิบัติการของตำรวจ คนยังติดใจสงสัยว่า ช่วงตีสามถึงตีห้า “timeline” ที่ตำรวจให้นักข่าวขาดรายละเอียดไป เพราะระหว่างนั้นมีคนถูกยิงบาดเจ็บแต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือทยอยตายไปหลายคน และที่ถูกยิงเพิ่มระหว่างหลบซ่อนตัวในห้องน้ำอีกล่ะ? ตำรวจอ้างว่าจำเป็นต้อง “เจรจา” เพื่อลดความเสียหาย แต่เจรจาอย่างไรไม่ปรากฏรายละเอียด และเหตุก่อการร้ายที่ Bataclan ชี้ให้เห็นแล้วว่า คนที่ปฏิบัติการไม่ต้องการ “แลกเปลี่ยน” อะไรทั้งสิ้น ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับอิสรภาพหรือข้อเรียกร้องอื่น ๆ แต่สมัยนี้คนร้ายเพียงแต่ต้องการ “ยืดเวลา” การเผชิญหน้า standoff ออกไปให้นานสุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้สื่อลงข่าวอย่างกว้างขวาง เพื่อความ drama ของเหตุการณ์ และเพื่อให้มีเวลาสังหารเหยื่อ (ไม่ใช่ตัวประกัน) ให้มากสุด
ส่วน FBI ก็ต้องตอบคำถามเช่นกันว่า ทำไม delist เอาชื่อ Omar Mateen ออกจากแบล็คลิสต์ถึงสองครั้งสองครา คนขายปืนให้เขาบอกว่า โอมาร์มีใบอนุญาตรปภ.ตั้งหลายใบ เพราะเขาเป็นพนักงานบริษัทรปภ.ใหญ่สุดในโลก G4S และผ่าน “full background check” ของตำรวจ ไม่มีทางจะไม่ขายอาวุธสงครามให้เขาได้ ส่วนสังคมอเมริกันคงต้องหาคำตอบกันต่อไปว่า โอมาร์ มาทีนซึ่งเกิดในนิวยอร์ก แต่โตและเรียนหนังสือในฟลอริดา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณสองชั่วโมง ญาติพี่น้องยืนยันว่าเขาเป็น “a proud American” พ่อเขาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูการ์ดที่เขาเขียนในวัน Mother’s Day ที่ผ่านมา เขาพูดถึงแม่อย่างหยดย้อย ก่อนลงมือไม่กี่วันเขาพาครอบครัวไปเที่ยวสวนสนุกและชอปปปิ้งมอลล์ Disney Springs เขามีโปรไฟล์อเมริกันมาก ๆ แล้วทำไมเขาจึงก่อเหตุก่อการร้ายร้ายแรงสุดนับแต่ 911 ในแผ่นถิ่นเกิดของตนเองได้? คงสรุปว่าเป็นเรื่อง “ศาสนา” ไม่ได้ในตอนนี้