เจนจุรี สาวสุราษฎร์ วัย27 บุกเดี่ยวประชิดนายก แจ้งมีคนปล่อยคลื่นทำลายสมองมนุษย์ กังวล มีคนฝังชิพในสมอง

โปรดใช้วิจารณญาณในการชม....โดน Mind Control

ระทึก....."เจนจุรี" สาวสุราษฎร์ วัย27 บุกเดี่ยว ประชิดนายกฯบิ๊กตู่ในงานอีเว้นท์ หน้าตึกบัญชาการ ทำเนียบฯ ร้องนายกฯให้ตรวจสอบ มีคนปล่อยคลื่นวิทยุ EG คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทำลายสมองมนุษย์

เผยตนเองโดน ไม่รู้ใครปล่อยมา ขอนายกฯช่วย.... ทีมรปภ. รวบทันควัน นายกฯ สั่งอย่ารุนแรง เขามาร้องเรียนอะไร ฟังเขา เขาไม่ได้มาร้าย....เผย กังวล มีคนฝังชิพในสมอง มีคลื่นวิทยุ อาจทำให้เป็นมะเร็งสมอง

mind control คืออะไร

satellite mind control Bioelectric weapon มีกลุ่มคนเชื่อว่ามันคือการทดลองตั้งโปรแกรมในสมองและควบคุมกระแสไฟฟ้าในร่างกาย อ่านความคิดผ่าน smarth phone หรือ Iphone โดยองค์กรลับCIA เพื่อควบคุมความคิด หรือตรวจสอบความคิดผ่านเครือข่าย โดยใช้ดาวเทียมสายลับ

ขณะเดียวกันก็เคยมีคนเขียนไว้ในเวบวิชาการดอทคอม ที่เล่าประสบการณ์ การถูก Mind Control เมื่อปี 2555 ดังนี้

ผมจึงอยากจะชวนพวกคุณทุกคนเข้าร่วมแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นของพวกเราทุกๆคน โดยเริ่มจากการเล่าเรื่องของตัวเองอย่างละเอียดว่าเริ่มได้ยินเสียงเมื่อไหร่และจบอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลที่จะหาผู้กระทำผิดกฏหมายมารับโทษตามกฏหมายให้ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเราทุกคนที่จะเข้าร่วมแชร์ประสบการณ์สำคัญในครั้งนี้จะต้องมีข้อปฏิบัติเดียวกัน 2 ข้อคือ

ผมขอเรียกเครื่องมือชนิดนี้ว่า "เครื่องรู้ความคิดมนุษย์ไร้สาย" นะคับเพื่อให้ง่ายแก่การที่เราจะสื่อสารกัน ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ถูก ควบคุม ติดตาม รู้ความคิดทั้งหมดของผมและรบกวนผมด้วยเสียงต่างๆเช่นกัน

เสียงต่างๆที่ผมได้ยินเช่น เสียงพูดของทั้งชายและหญิง ด้วยประโยคที่สุภาพบ้างไม่สุภาพบ้าง สลับกับการใช้เสียงที่บันทึกไว้จากรอบๆตัวผมแล้วนำกลับมาใช้เพื่อรบกวนผม เช่น เสียงเดิน-วิ่งโดยใช้ส้นเท้ากระแทกพื้นดังๆ , เสียงปิดประตูกระแทกดังๆ , เสียงสิ่งของหนักๆตกกระแทกพื้น , เสียงวีด เป็นต้น ผมเชื่อว่านอกจากพวกเราทุกคนแล้วยังมีคนอื่นๆอีกไม่น้อยที่ต้องถูกทำร้าย และ รบกวน ด้วยเครื่องมือชนิดนี้ สูญเสียความเป็นส่วนตัว สูญเสียทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตโดยปกติสุขทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

จึงเกิดความสงสัยและพยายามที่จะหาที่มาของเสียงที่ได้ยิน แต่ก็หาไม่พบ จึงพยายามที่จะฟังเรื่องต่างๆที่เสียงเหล่านั้นคุยกัน แต่ที่น่าประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นเสียงต่างๆทั้ง ชาย - หญิง เริ่มที่จะทักทายและเริ่มที่จะพูดคุยกับผม ซึ่งยิ่งทำให้ผมสงสัยว่าอาจถูกแอบดูหรือถูกแอบบันทึกภาพด้วยกล้องวงจรปิดจากจุดใดจุดหนึ่งภายในห้องพักของตัวเอง จึงเริ่มค้นหาอย่างจริงจังแต่ก็หาไม่พบ แต่จะได้ยินเสียงต่างๆทั้งชาย - หญิงเหล่านี้หลอกให้ค้นหาอยู่เสมอ

ยิ่งนานวันเสียงต่างๆเหล่านี้ก็เริ่มสร้างเรื่องต่างๆให้ผมคิดและค้นหามากขึ้น แต่สิ่งหนึงที่สำคัญไปกว่านั้นการพูดคุยของผมกับเสียงเหล่านั้นไม่ธรรมดาครับ เพราะแค่ผมคิดหรือพูดในใจ ไม่ต้องพูดออกเสียงจากปากเหมือนคนปกติก็สามารถพูดคุย โต้ตอบกับพวกเขาได้อย่างชัดเจน แม้แต่ตัวผมเองนั้นออกจากที่พักไปทำธุระนอกบ้าน ลงไปในอุโมงค์ใต้ดินเพื่อโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน เข้าไปในอาคารที่ไม่ค่อยจะมีสัญญาณของโทรศัพท์มือถือ หรือไปค้างแรมที่อื่นๆ เสียงต่างๆทั้ง ชาย - หญิง ก็ยังคงติดตามผมไปได้ทุกที่เช่นกัน

ผมจึงเริ่มค้นหาข้อมูลต่างๆจากอินเทอร์เน็ตและพอที่จะสรุปในเบี้องต้นว่าผมถูกควบคุม ติดตาม อ่านความคิดและรบกวนด้วยเสียงต่างๆจากเทคโนโลยีชนิดหนึ่งที่ในสมัยก่อนเรียกว่า "เครื่องจับเท็จไร้สายหรืออาจจะเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติที่คล้ายกัน" ที่ถูกพัฒนาขึ้นจนถึงขั้นสามารถรู้ความคิดของผู้ถูกควบคุมและยังสามารถติดตามไปได้ทุกที่โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ใดๆติดตั้งไว้ที่ผู้ถูกควบคุม ผมจึงสงสัยว่าเพราะเหตุใดจึงถูกควบคุม ติดตาม รู้ความคิดและรบกวนด้วยเสียงต่างๆ ด้วยคำพูดที่หยาบคาย ด่าพ่อ ด่าแม่ ตลอดเวลา ตั้งแต่ผมตื่นลืมตาขึ้นมาจนถึงเวลาที่ผมนอน

กระทั่งขณะที่ผมหลับและฝันก็ยังคงถูกกลุ่มบุคคลเหล่านี้รู้ถึงความฝันและถูกนำเรื่องที่ฝันมาใช้ในการสร้างเรื่องต่างๆเพื่อหลอกให้ผมคิดไปในทิศทางต่างๆตามที่เสียงเหล่านั้นต้องการ และสร้างเรื่องหลอกด้วยการใช้เสียงของบุคคลที่ผมรู้จักและนำเสียงเหล่านั้นมาเพื่อใช้พูดคุยกับผม และนี่คือคุณสมบัติของเครื่องรู้ความคิดมนุษย์ไร้หรืออาจจะเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติที่คล้ายกัน ตามที่ผมได้ประสบกับตัวเองดังนี้

และยังมีเสียงอื่นๆอีกมากมาย เสียงต่างๆที่ถูกนำมาใช้รบกวนนี้เป็นเสียงที่เกิดขึ้นจริงและเกิดขึ้นรอบๆตัวผม ซึ่งถูกบันทึกไว้แล้วนำกลับมาใช้เพื่อให้เสมือนว่าเป็นเสียงนั้นๆจริงๆเพื่อให้ยากแก่การตรวจสอบหาหลักฐานของการกระทำผิด จุดประสงค์คือต้องการใช้เสียงเหล่านั้นเพื่อรบกวนผมนั่นเอง

เป็นเรื่องอยากจริงๆครับที่จะนำเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไปเล่าให้ใครๆฟัง เพราะทุกคนที่ฟังก็คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คิดมากไปหรือเปล่า หรือไม่ก็ ไอ้นี่บ้าไปแล้ว ตลอดเวลาผมจึงต้องพยายามที่จะอดทนจากการถูกทำร้ายและรบกวนจากกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งด้วยเทคโนโลยีเครื่องรู้ความคิดมนุษย์ไร้สาย

ผมได้พยายามที่จะหาข้อมูลเพื่อหาหลักฐานและวิธีแก้ไขด้วยตัวเองจึงได้มาพบกระทู้ที่พวกคุณเขียนไว้ในเว็ป วิชาการดอทคอม ผมจึงส่งเมล์มาเพื่อขอให้พวกคุณร่วมแชร์ประสบการณ์ของทุกคน หรือหากเป็นไปได้ก็จะได้เข้าร่วมกันเพื่อให้ข้อมูลต่างๆและร่วมกันค้นหาข้อมุลเพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานเพื่อหาผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฏหมาย และที่สำคัญที่สุดคือเพื่อเป็นการหยุดกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ไม่ให้ใช้เทคโนโลยีเครื่องรู้ความคิดมนุษย์ไร้สายนี้ไปทำร้ายผู้อื่นอีกต่อไป

ผมขอขอบคุณพวกคุณทุกๆคนที่สละเวลาอ่านกระทู้นี้ของผมและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกคุณทุกๆคนจะร่วมเล่าและแชร์ประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้น เพื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นๆต่อๆไป ผมหวังเป็นอย่างยิ่งจะได้รับการตอบกลับจากพวกคุณทุกๆคนที่เคยถูกทำร้ายด้วยเทคโนโลยีเครื่องรู้ความคิดมนุษย์ไร้สายนี้ แต่หากกระทู้ของผมรบกวนผมต้องขออภัยด้วยครับ.