จะเหลือไว้ทำไม?…ชาวบ้านถึงกับงงหนัก 2 บริษัทสร้างเขื่อนสุดพิลึก สร้างไม่บรรจบกัน!!

ชาว อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ โวย โครงการเขื่อนกั้นตลิ่งน้ำปาด จ้าง 2 บริษัทต่างคนต่างทำ ปรากฏว่าทำเสร็จตามสัญญา ยังเหลือช่องโหว่อีกถึง 29 เมตร กรรมการเซ็นรับงานไปแล้ว ไม่มีใครรับผิดชอบ ชี้ หากฝนตกมีน้ำป่าไหลหลากจะพากันพังไปทั้งหมด…

นางจีรประภา คอนเอม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ฟากท่า พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 100 คน แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าในการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาด บริเวณหน้าวัดกกต้องสามัคคี ต.ฟากท่า อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ และทำการส่งมอบงานไปแล้วตั้งแต่เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา แต่ชาวบ้านงุนงงกับช่องโหว่ เขื่อนป้องกันตลิ่ง ที่ห่างกันประมาณ 29 เมตร ไม่ได้บรรจบกันตามแบบ ซึ่งรับงบประมาณจากสำนักงบประมาณมา 2 โครงการ รวมกว่า 30 ล้านบาท โดยมี 2 บริษัทได้รับเลือกเข้าดำเนินการ แต่เมื่อสร้างเสร็จกลับไม่มีการเชื่อมต่อของเขื่อนป้องกันตลิ่ง ยังมีช่องโหว่ที่ไม่ได้ทำหินยาแนวอีกประมาณ 29 เมตร…

ถ้ามีน้ำป่าไหลหลาก หรือฝนตกลงมาตลิ่งบริเวณดังกล่าวจะถูกน้ำกัดเซาะขยายช่องโหว่ และจากนั้นตลิ่งจะพังไปจนถึงคอสะพาน ซึ่งโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาดสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชาวบ้านจึงข้องใจว่ามีการตรวจรับไปได้อย่างไร และช่องที่ไม่ได้ทำ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ เพราะผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ได้ร้องไปที่โยธาจังหวัดที่ควบคุมการก่อสร้าง ก็ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถเข้ามาซ่อมสร้างในส่วนที่เป็นช่องว่างนี้ได้ โดยอ้างว่าทั้ง 2 บริษัทได้ทำตามสัญญาก่อสร้างในระยะทาง 463 เมตรแล้วและจากการตรวจสอบแบบของเขื่อนป้องกันตลิ่งน้ำปาด พบว่าตามแบบดังกล่าว ทั้ง 2 บริษัทจะต้องเริ่มจากจุดเริ่มต้นของโครงการ แล้วสร้างไปยังจุดสิ้นสุดของโครงการ แต่เมื่อก่อสร้างเขื่อนไปถึงจุดสิ้นสุดของโครงการครบตามระยะทางกลับไม่เชื่อมต่อกัน เพราะเป็นช่วงของทางโค้งของแม่น้ำ ขณะที่ฝั่งตรงข้ามซึ่งมีการสร้างเขื่อนด้วยกลับไม่มีรอยโหว่ ซึ่งคาดว่าจะมีการสร้างผิดแบบ ไม่ได้ก่อสร้างจากจุดเริ่มต้นไปหาจุดสิ้นสุดของโครงการ จึงทำให้เกิดช่องโหว่ยาวประมาณ 29 เมตร…

“ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบโครงการนี้ และกำลังรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบด้วย เพราะกลัวว่าถ้าหากฝนตกลงมา น้ำจะเซาะดินที่ไม่ได้ทำเขื่อนกั้นแนวตลิ่งจนสไลด์ลงแม่น้ำและพังได้”