กฟผ. ชี้แจงคณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดภาคใต้ พร้อมนำความคิดเห็นผู้นำศาสนาเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการ
กฟผ. ชี้แจงคณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดภาคใต้
พร้อมนำความคิดเห็นผู้นำศาสนาเป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการ
กฟผ. ชี้แจงคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดภาคใต้ พร้อมนำข้อเสนอและข้อห่วงกังวลของผู้นำศาสนา เป็นแนวทางในการพัฒนาโครงการ ยืนยันร่วมมือทุกภาคส่วนพัฒนาชุมชนควบคู่โครงการโรงไฟฟ้าเทพา รวมทั้งสนับสนุนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญภาคใต้ตอนล่าง
วันที่ 28 พฤษภาคม 2559 กฟผ. ร่วมกับ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล จัดเสวนา หัวข้อ “ก้าวไปด้วยกันกับโรงไฟฟ้าเทพา สู่การพัฒนาภาคใต้ที่มั่นคง” โดยมีนายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และนายวีระชัย ยอดเพชร หัวหน้าโครงการเตรียมงานพัฒนาโรงไฟฟ้าเทพา กล่าวต้อนรับและรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานแก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยมีคณะกรรมการอิสลาม ผู้สนใจและสื่อมวลชนร่วมรับฟังกว่า 400 คน
นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะกรรมการอิสลาม 5 จังหวัดภาคใต้ ทั้งจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล และคณะผู้บริหารของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มาร่วมเสวนาในครั้งนี้ เพื่อรับฟังข้อมูลการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเทพา จังหวัดสงขลา และเปิดรับฟังความเห็นจากผู้นำศาสนาในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดสัมมนาในครั้งนี้ จะเป็นอีกช่องทางที่พี่น้องอิสลามใน 5 จังหวัดภาคใต้ สื่อมวลชน และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ได้รับฟังข้อมูลโครงการโรงไฟฟ้าเทพา ในพื้นที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จากผู้บริหาร กฟผ. และแลกเปลี่ยนมุมมองการพัฒนาร่วมกันต่อไป จึงขอให้ผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นผู้นำทางสังคมและเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ได้ซักถามอย่างเต็มที่ เนื่องจากที่ผ่านมา อาจได้รับข้อมูลจากหลายฝ่าย จึงนับเป็นโอกาสดีที่จะได้รับฟังคำชี้แจงจากโครงการโรงไฟฟ้าโดยตรง
นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการกิจการสังคม กฟผ. กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าเทพามีความสำคัญต่อการพัฒนาพลังงานภาคใต้ และการพัฒนาพลังงานของประเทศ เนื่องจากภาคใต้มีความต้องการไฟฟ้าสูงขึ้นทุกปี ขณะที่กำลังผลิตในพื้นที่จะไม่เพียงพอในอนาคต กฟผ. ยืนยันว่าโรงไฟฟ้าเทพาจะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินเทคโนโลยีสะอาดที่ทันสมัย ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน นอกจากนี้ ชุมชนจะต้องได้รับประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเต็มที่ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
นายวีระชัย ยอดเพชร หัวหน้าโครงการเตรียมงานพัฒนาโรงไฟฟ้าเทพา กล่าวว่า กฟผ. พร้อมร่วมมือกับชุมชนในการพัฒนาโรงไฟฟ้าเทพาให้เป็นโรงไฟฟ้าสีเขียว เป็นแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอเทพาและภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งการดำเนินโครงการจะใช้แนวทางการมีส่วนร่วมของชุมชนทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบโรงไฟฟ้า การดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ช่วงการก่อสร้างจนโรงไฟฟ้าแล้วเสร็จ โดย กฟผ. ได้คำนึงถึงหลักสังคมและศาสนาตลอดเวลา การมารับฟังข้อเสนอและความเห็นของผู้นำทางศาสนาในครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้การพัฒนาโครงการมีความราบรื่น และเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นายพล คงเสือ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า และนายนฤมิต คินิมาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อมโครงการ-บริหาร ร่วมให้ข้อมูลในด้านอื่นๆ ที่เป็นประเด็นข้อห่วงใย ของชุมชนด้วย เช่น การแก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชนและแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน