จองที่นั่งเครื่องบินริมหน้าต่าง แต่มาเจอครอบครัวฝรั่ง ลูกสาวงอแงจะนั่งริมหน้าต่างจนถูกแม่ดุ คำสอนแม่แต่ละคำทำอึ้งเลย!! เลี้ยงลูกได้ดีจริงๆ
เป็นเรื่องราวสุดน่าประทับใจของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ได้เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คชื่อ “เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ” ที่ได้อ่านแล้วยิ้มตลอดทั้งเรื่อง เป็นความรู้สึกดีๆ และรู้สึกชื่นชม ครอบครัวชาวต่างชาติรายนี้ที่สอนลูกได้ดีจริงๆ
โดยเล่าว่า…
ทริปกลับบ้าน พนมเปญ-ดอนเมือง
ผมนั่งแถว F คือริมหน้าต่าง เลือกเองไว้ตั้งแต่เชคอิน เพราะคิดว่าสะดวกสบายที่สุดแน่นอน พี่ที่มาด้วยกันนั่งแถวหลังถัดไป ขณะที่นั่งรอผู้โดยสารคนอื่นทยอยขึ้นเครื่องมา มีครอบครัวอเมริกันลูกสาววัยน่ารักหัวหยิกสีทองเดินมาหยุดที่แถวเดียวกับผม พ่อนั่งอีกฝั่งของทางเดิน ลูกสาวเดินเข้ามาเบาะกลางข้างผม เธอมองหน้าผมแล้วหันไปถามแม่
เด็กน้อย : Mom ทำไมหนูไม่ได้นั่งข้างหน้าต่าง
แม่ของเด็กน้อย : เราไม่ได้จองไว้ เราจองที่นั่งตรงกลางกับริมทางเดิน เราต้องนั่งตรงตามตั๋ว
เด็กน้อย : ทำไมละ (เริ่มเบะปากเสียงสั่นเครือ) หนูต้องการที่นั่งริมหน้าต่าง หนูอยากเห็นเมฆ
ผม : (หันไปบอกแม่นาง) ผมยินดีเปลี่ยนที่นั่งได้นะ ไม่มีปัญหา
แม่ของเด็กน้อย : (ทำมือปฏิเสธ) ไม่เป็นไรคะ เธอต้องเรียนรู้
เด็กน้อย : (ทรุดนั่งที่พื้น น้ำตาไหลพรากแต่ไม่มีเสียงร้องไห้) หนูต้องนั่งริมหน้าต่างสิ เมฆรอหนูอยู่นะ
แม่ของเด็กน้อย : ไม่ได้ ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ดีๆอย่าทำให้แม่ต้องอายอย่างนี้ ลูกโตแล้วไม่ใช่หรือ ไม่ใช่เบบี้ที่ยังฉี่ราดแพมเพิสอยู่
เด็กน้อย : (ยอมลุกขึ้นมายั่งแต่โดยดี)
ผม : (พยายามบอกเธออีกครั้ง) ผมเปลี่ยนที่นั่งกับสามีคุณได้เลยนะ ด้วยความยินดี
แม่ของเด็กน้อย : thank you (แล้วนางก็ยิ้มให้ พร้อมกระพริบตา แล้วหันไปทำหน้าดุใส่ลูกสาวอีกที) เธอกำลังทำให้พ่ออายอยู่รู้ไหม ถ้าเธองอแงแบบนี้แล้วใครบนเครื่องสักคนที่รู้จักพ่อ เค้าจะมองว่าพ่อและแม่เป็นคนไม่ดี ไม่เก่ง ไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะสอนให้ลูกสาวที่กำลังโตมีความรับผิดชอบไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ถ้าพ่อกับแม่ต้องโดนคนตำหนิ เราก็จะไปทำงานที่เดิมไม่ได้ ต้องตกงาน ดังนั้นก็จะไม่มีเงินซื้อขนมที่ลูกชอบ เสื้อสวยๆที่ลูกอยากได้ เราก็จะไม่มีเงินเหลือพอที่จะซื้ออาหารให้ลูกหมาของเราได้ ต้องยกให้คนอื่นไปเลยนะ ลูกต้องการแบบนั้นใช่ไหม (ฟังแบบจับเอาใจความมานะ something like that!!!)
เด็กน้อย : (นางพยักหน้ากับแม่เป็นครั้งๆไป พร้อมมองหน้าแม่และคิดตามไปทีละคำถาม มีเสียงสะอื้นเป็นครั้งคราว)
แม่ของเด็กน้อย : ถ้าอย่างนั้นลูกตัดสินใจยังไง จะร้องไห้เสียงดัง จะแย่งที่นั่งคนอื่นเค้า หรือจะเป็นเด็กสาวที่โตแล้วอย่างมีความรับผิดชอบ
เด็กน้อย : (นางสะอื้นไปตอบไป) ไม่ หนูต้องการเป็นเด็กสาวที่โตและมีความรับผิดชอบและไม่ยอมให้ยกหมาให้ใครไป
แม่ของเด็กน้อย : งั้นลูกจะต้องทำอย่างไร บอกแม่สิ
เด็กน้อย : หนูจะนั่งตรงนี้ และเป็นเด็กดี
แม่ของเด็กน้อย : (หันมาคุยกับผม) ขอบคุณมากในความใจดี แต่ฉันต้องสอนให้ลูกได้รับบทเรียน
ผม : เป็นการสอนลูกได้ดีมาก ผมชื่นชมครับ เดี๋ยวพอคนนิ่งแล้วผมจะเปลี่ยนที่นั่งให้นะครับ
แม่ของเด็กน้อย : ขอบคุณมาก (แล้วเธอหันไปบอกสามีที่นั่งถัดไปริมทางเดินอีกฝั่งนึง) มีคนไทยใจดีเค้าจะยอมเปลี่ยนที่ให้เรา แค่เค้าเห็นหน้าในวินาทีแรกที่ลงไปนั่งพื้น เค้าก็เอ่ยปากบอกเราเลยว่ายินดีมอบที่นั่งริมหน้าต่างให้เด็กคนนี้ (เธอหันมาบอกลูกน้อย) นี่ คนไทยใจดีคนนี้เค้ายินดีจะยกที่นั่งนี้ให้เธอนะ ต้องทำอย่างไร
เด็กน้อย : ต้องกล่าวขอบคุณ (นางหันมายิ้มแก้มปริ) Thank you
แม่ของเด็กน้อย : เค้าเป็นคนไทย ยูต้องทำอย่างไร
เด็กน้อย : (ยกมือขึ้นมาไหว้อย่างน่ารัก) Thank you
แม่ของเด็กน้อย : ดีมาก
จากนั้นลูกสาวก็กลายเป็นเริ่มคุยสนุกสนานหัวเราะกับแม่ ส่วนแม่ก็คุยกับผมเรื่องพนมเปญ เรื่องไทย จนเครื่องว่างจากคนเดินขึ้นเครื่อง ผมจึงลุกขึ้นเปลี่ยนที่นั่งให้ สาวตัวน้อยกล่าวขอบคุณอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มที่น่ารัก…
เพียงแค่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสักครอบครัวได้ความรู้สึกดีๆนี้ไปจากคนไทย ผมคิดว่าเป็นเครื่องการันตีว่าเค้าจะบินกลับมาเที่ยวบ้านเราอีกแน่นอนครับ
ช่วยกันครับ เพื่อการท่องเที่ยวของไทย และชื่อเสียงดีๆของไทย แม้เราจะเกลียดทูตอเมริกันเพียงใดในตอนนี้ แต่คนอเมริกันส่วนใหญ่ยังน่ารักเสมอครับ ครอบครัวนี้มาไทยปีละ 1 ครั้ง เหมือนคล้ายๆว่าคุณพ่อจะทำงานหรือทำธุรกิจที่กรุงเทพฯด้วย และจะไปต่อที่ลาว กัมพูชา หรือพม่าแล้วแต่ความสะดวกแต่ละปีครับ
ปล. ทั้งหมดเป็นการแปลโดยผมเอง ไม่ได้โอ้อวดอะไร เพราะมีความสามารถเพียงพอจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้แบบไปไหนไม่อดตายนะครับ บางคำอาจไม่เข้าใจร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็เข้าใจได้ด้วยรูปประโยคและภาษากายที่ประกอบครับ บางประโยคก็ something like that!!! ผมชื่นชมการเลี้ยงลูกของคุณแม่อเมริกันคนนี้มาก ก่อนลงเครื่อง คุณพ่ออุ้มเธอมาให้ขอบคุณผมอีกครั้งหนึ่ง น่ารักมากสาวน้อยคนนี้
ทั้งนี้ เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง กลับมียอดแชร์ถล่มทลาย แถมแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ครอบครัวนี้น่าชื่นชมมากๆ สอนลูกสาวได้ดีแบบไม่มีที่ติ ใช้เหตุและผลได้อย่างดี น่าเอาเป็นแบบอย่างเสียจริงๆ
http://www.doo-deedee.com/21287