มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แนะแบงก์ไม่ควรเก็บค่าธรรมเนียมเปลี่ยนบัตร ATM แบบชิป
ผู้บริโภคแนะธนาคารไม่ควรเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มแบบเดิมเป็นแบบชิป เหตุจ่ายรายปีแล้ว
จากกรณีที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตจากแถบแม่เหล็กเป็นแบบชิป โดยตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2559 บัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งในประเทศจะเป็นบัตรแบบชิป ส่วนบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตแบบเดิม ยังคงใช้งานได้ตามปกติจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 นั้น
นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ในการเปลี่ยนแปลงระบบของบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตมาใช้เป็นบัตรแบบชิปนั้น เป็นการเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายระบบของบัตรนั้น บางธนาคารอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้บริโภคหรืออาจไม่เรียกเก็บก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องของการแข่งขันกันระหว่างธนาคาร
“หากทำได้ ธนาคารก็ไม่ควรเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้บริโภค เพราะการเปลี่ยนถ่ายบัตรจากระบบเก่ามาระบบใหม่ถือเป็นการดูแลลูกค้าในระดับหนึ่ง ซึ่งผู้บริโภคก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมบัตรรายปีอยู่แล้ว” นางนฤมลกล่าว