ไร้วี่แวว ทายาทกระทิงแดง ไม่เข้าพบอัยการ ชี้เบี้ยวอีกโดนหมายจับแน่ ส่วนข้อหาขับรถเร็วเกิน ก.ม.กำหนด ก็ขาดอายุความแล้ว
ยังไร้แวว “บอส-วรยุทธ” ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง อัยการ รอถึง 4 โมงวันนี้เท่านั้น ขีดเส้นตายนัดหน้า หากเบี้ยวไม่แจ้งเหตุเจอหมายจับ ระบุ ฟ้องคดีอาญาต้องมีตัวผู้ต้องหามาแสดงต่อศาล
ที่สำนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง 53 เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ กล่าวถึงการนัดส่งตัว นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา อายุ 31 ปี ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผบ.หมู่ป. สน.ทองหล่อ เสียชีวิต บริเวณถ.สุขุมวิท เมื่อปี 2555 ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ได้แจ้งให้นายวรยุทธ มาพบอัยการวันนี้ว่า จนถึงขณะนี้ นายวรยุทธ หรือทนายความ ยังไม่ได้ติดต่อกับอัยการว่าจะขอเลื่อนการเข้าพบ หรือจะมาพบในเวลาใด อย่างไรก็ดีการเข้าพบอัยการต้องไม่เกินเวลาทำการในเวลา 16.00 น.
นายสุทธิ กล่าวอีกว่า หากวันนี้ นายวรยุทธ ไม่เดินทางมาพบอัยการตามนัดโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องใดๆ อัยการจะประสานไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่ออีกครั้ง เพื่อสอบถามถึงมูลเหตุที่ยังไม่สามารถติดตามตัวนายวรยุทธมาได้ และจะให้พนักงานสอบสวนแจ้งนัดการส่งตัวกับนายวรยุทธ ให้มาพบอัยการอีกครั้ง แต่ถ้ายังไม่เดินทางเข้าพบและไม่มีการแจ้งเหตุขัดขัดข้องอีก ลักษณะดังกล่าวจะเข้าข่ายประวิงเวลา ทำให้การส่งฟ้องล่าช้าออกไปโดยไม่มีเหตุจำเป็นที่สมควร อัยการจะประสานให้พนักงานสอบ ขอศาลออกหมายจับนายวรยุทธ ผู้ต้องหา เพื่อให้ได้ตัวมาฟ้อง โดยอัยการจะไม่ปล่อยเวลาให้ต้องเลื่อนคดีไป จนทำให้คดีขาดอายุความ ซึ่งอายุความสูงสุด 15 ปี
อย่างไรก็ดี หากระหว่างนี้ ทนายความของนายวรยุทธจะเดินทางมาขอเลื่อนการส่งตัวฟ้อง ก็สามารถทำได้แต่ต้องมีเหตุอันควรจำเป็นและสุดวิสัยจริงๆ เช่น การผ่าตัดกระทันหันอย่างไส้ติ่ง หรือ การเจ็บป่วยร้ายแรงอย่างมะเร็ง แต่ก็ต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลที่เชื่อถือได้มายืนยัน
นายสุทธิ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาญาติของผู้เสียชีวิต ได้ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอให้พิจารณาดูว่ามีข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์อีกหรือไม่ โดยตนเพิ่งได้รับหนังสือเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตนกำลังพิจารณา แต่เพื่อไม่ให้เป็นการล่าช้า อัยการยังยืนยันที่จะยื่นฟ้องตามคำสั่งเดิมใน 2 ข้อหาไปก่อน คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงความตาย และไม่หยุดรถช่วยเหลือ
หากเป็นเช่นนี้ญาติผู้ตายสามารถยื่นคำร้องเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้หรือไม่ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาฯ กล่าวว่า อาจจะทำไม่ได้ เพราะปรากฎข้อเท็จจริงว่าญาติผู้ตายได้เซ็นสัญญายอมความต่อหน้าพนักงานสอบสวนไปแล้ว เมื่อครั้งที่มีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย“
เมื่อถามว่า อัยการจะให้เวลาพนักงานสอบสวนอีกเท่าไหร่ในการแจ้งนัดให้นายวรยุทธมาพบอัยการอีกครั้งที่ 2 นายสุทธิ กล่าวว่า ในทางปฏิบัติจะให้เวลาพนักงานสอบสวน 15-20 วัน แต่พนักงานสอบสวนก็ต้องให้ฝ่ายผู้ต้องหาเตรียมตัวด้วย ซึ่งระยะเวลาทั้งหมดจะไม่เกิน 30 วัน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเหตุจำเป็นด้วย อย่างไรก็ดี ถ้าผู้ต้องหาไม่มาโดยไม่แจ้งเหตุอีก อัยการคงมองเป็นเหตุอื่นไม่ได้นอกจากการประวิงเวลา ซึ่งต้องออกหมายจับ เพราะขณะนี้ตัวผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในการควบคุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการฟ้องคดีอาญา ตามหลักเกณฑ์ถ้าผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในการควบคุมหรือถูกขังอยู่ในเรือนจำต้องมีตัวผู้ต้องหามาแสดงในวันที่ฟ้องด้วย
ส่วนใน facebook Siriwanna Jill ก็มีการแสดงความเห็นเพิ่นเติมดังนี้
หนีแล้วชัวร์ ทายาทกระทิงแดง ชนนายดาบตำรวจ ลากยาวไปจนเสียชีวิต ไม่โผล่ไปพบ พนง.สส.สน.ทองหล่อ หลังถูกออกหมายเรียก นายวรยุทธ อยู่วิทยาให้มาพบภายใน 25 พ.ค. เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังจาก อัยการสั่งฟ้อง 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ และแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที
เหตุเกิดปี 2555 แต่คดียืดเยื้อ จนทำให้ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่า กฎหมายกำหนด ที่ยื่นฟ้องดำเนินคดี ขาดอายุความ
หลังจากที่พนักงานสอบสวน ได้ออกหมายเรียก นายวรยุทธ ตามคำร้องขอของอัยการ ให้มาพบตามกำหนด สามารถเดินทางไป พบพนักงานอัยการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ทันที เนื่องจากพ้นความรับผิดชอบของตำรวจ คดีนี้สำนวนทั้งหมดส่ง ให้ทางอัยการและอยู่ระหว่างขั้นตอน ในชั้นศาลเรียบร้อยแล้ว หากแต่ว่าทางอัยการ จะร้องขอให้สอบปากคำผู้ใดเพิ่มเติม หรือหากทางจำเลย ไม่มาตามนัดหมาย สามารถออกหมายจับได้ เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานมา แต่อย่างใด