ขุดพบกำไล 19 อัน ฝังกับโครงกระดูกอายุ 1.5 พันปี ที่กระนวน จ.ขอนแก่น
วันที่ 23 พ.ค.2559 ที่บริเวณสวนหลังบ้านของนายบุญโฮม บอมโคตร อายุ 53 ปี ทิศใต้บ้านผักหนามคำ ม.8 ต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น มีชาวบ้านจำนวนมาก เดินทางมาดูโครงกระดูกที่ฝังอยู่ในดิน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นกระดูกคนแปดศอก หรือคนโบราณ สภาพกระดูกที่เห็นนั้น ฟันมีสภาพสมบูรณ์ กระดูกสันหลังยังเรียงกันเป็นข้อๆ ส่วนชิ้นส่วนอื่นกระจัดกระจายอยู่ใกล้ๆ กัน
นายบุญโฮม เจ้าของที่ดิน เผยว่า ก่อนจะพบโครงกระดูก เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีชาย 3 คนมาหา ขออนุญาตเอาเครื่องสแกน เข้าไปหาวัตถุโบราณในพื้นที่สวนของตน จึงอนุญาตให้เข้าไป โดยภรรยาขอตามชาย 3 คนไปด้วย จนประมาณตี 3 ของวันที่ 16 พ.ค. ทั้ง 3 คนก็ออกจากพื้นที่สวน พร้อมกำไลแขน รวม 19 อัน ซึ่งทั้ง 3 คน บอกว่า เป็นสมบัติโบราณที่ได้จากโครงกระดูกมนุษย์โบราณที่ฝังอยู่ใต้ดิน จากนั้นทั้ง 3 คนก็ขับรถออกไป เช้าวันเดียวกันหลานชายจึงเอาเสียมไปขุดในจุดที่ 3 คนนั้นขุดเอาไว้ ปรากฏว่าพบโครงกระดูกฝังอยู่ใต้ดิน จึงรีบวิ่งออกมาด้วยความตกใจกลัว
วันนี้ (23 พ.ค.) นายวัชรเดช เกียรติชานนท์ นายอำเภอกระนวน พร้อมด้วย น.ส.ศิริวรรณ ทองขำ นักวิชาการโบราณคดี จากสำนักศิลปากรที่ 9 ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงกระดูกดังกล่าว ภายหลังการตรวจสอบ น.ส.สิริวรรณ เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า เป็นกระดูกมนุษย์ อายุประมาณ 1,500 ปี และพบสิ่งของเครื่องใช้ที่ถูกฝังอยู่รวมกันหลายชนิด รวมทั้งเครื่องประดับที่ชาวบ้านเก็บไปแล้วนำมาคืนรวม 13 ชิ้นซึ่งเป็นสิ่งของและเครื่องประดับในยุคโลหะหรือยุคเหล็ก อายุประมาณ 1,500 ปี
ทางด้านนายวัชรเดช เกียรติชานนท์ นายอำเภอกระนวน เผยว่า หลังจากผู้นำชุมชนแจ้งว่า พบโครงกระดูกในที่ดินชาวบ้าน ก็ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที พบว่าเป็นเรื่องจริงจึงสั่งให้กันพื้นที่ดังกล่าวไว้ พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้บุคคลที่นำสิ่งของเครื่องใช้ไป นำมาคืน ตอนนี้ชาวบ้านนำเครื่องประดับมาคืนแล้ว รวม 13 ชิ้น เป็นกำไล 10 อัน ปลายหอก และแหวน 3 วง ซึ่งทางอำเภอได้มอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น เก็บรักษาไว้ แต่ยังมีเครื่องประดับอีก จำนวน 6 ชิ้นที่ชาย 3 คนเอาไป ซึ่งจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามกลับคืนมา เพราะสิ่งของเหล่านี้เป็นสมบัติของแผ่นดิน บุคคลใดเอาไปจะต้องมีความผิด ฉะนั้นให้รีบนำมาคืน....