รองโฆษก สตช. แจงไม่แจ้งข้อหาไตร่ตรองฆ่า ย้ำเป็นลูกหลานตำรวจ ก็อยู่เหนือ ก.ม. ไม่ได้
รองโฆษก สตช. ระบุการแจ้งข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กับแก๊งวัยรุ่น ฆ่าชายพิการ ต้องดูพยานหลักฐาน แต่ถ้าญาติไม่พอใจการทำคดี ก็สามารถยื่นฟ้องเอาในชั้นศาลได้ ย้ำเป็นลูกหลานตำรวจ ก็อยู่เหนือ ก.ม. ไม่ได้ …
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2559 พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงถึงกรณีที่โลกสังคมออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์การทำคดีที่กลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการ เสียชีวิต ไม่เป็นธรรม ว่า เรื่องดังกล่าวรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ชี้แจงรายละเอียดทางคดีแล้ว ประกอบกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับให้ตำรวจดำเนินคดีด้วยความเป็นธรรม แต่ตามขั้นการแจ้งข้อหากับกลุ่มผู้กระทำผิด ตำรวจสามารถดำเนินการได้ตลอดเวลา ก่อนที่พนักงานอัยการสรุปสำนวนและความเห็นส่งฟ้องต่อศาล แต่หากญาติไม่พอใจกับข้อหา ก็สามารถยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นโจทก์ร่วมในคดีได้เช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกัน รองโฆษก สตช.กล่าวถึงเรื่องการแจ้งข้อหาว่า ข้อกฎหมายฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น แตกต่างจากข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ว่ามีรายละเอียดการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่างกัน เนื่องจากการจะแจ้งฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต้องมีการวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี
พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ กล่าวด้วยว่า ยืนยันว่า แม้ผู้ต้องหาจะเป็นลูกหลานตำรวจ ก็จะไม่มีใครช่วยเหลือแน่นอน ทุกอย่างต้องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม.