หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

William Burke and William Hare นักล่าศพแห่งเอดินเบอร์ค

โพสท์โดย Faithbook

 

 

William Burke and William Hare นักล่าศพแห่งเอดินเบอร์ค
 



บางครั้งความอยากรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการศึกษาภายในร่างกายของมนุษย์เพื่อพัฒนาวิชาการแพทย์นั้น ก็นำไปสู่การเกิด
อาชญากรรมและการฆาตกรรมได้เหมือนกัน.


ในศตวรรษที่ 19 ที่ผ่านมา การศึกษากายวิภาคสหราชอาณาจักรวิทยาก่อนปี 1832 ค่อนข้างเป็นยากลำบากเนื่องจากขาดแคลน
อุปกรณ์จำเป็นที่จะเรียนรู้และสิ่งที่เขาต้องการอย่างมากคืออาจารย์ใหญ่เนื่องจากกฎหมายในตอนนั้นไม่ช่วยเอื้อสนับสนุนการนำ
ซากศพที่ถูกต้องตามกฎหมายมากนัก เพราะกฎหมายระบุว่าให้อนุญาตใช้ร่างกายของผู้ตายในคดีอาชญากรรมเท่านั้นแปลง่ายๆ
คือศพที่จะนำมาใช้ได้ คือศพของนักโทษประหารเท่านั้น ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ทำให้หมอบางคนจำเป็นต้องใช้วิธีแอบขุดศพขึ้นจากหลุม
และมีอาชีพใหม่ก็คือ นักล่าศพ ซึ่งเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมายมีพฤติกรรมลักลอบขุดศพที่เพิ่งถูกฝังใหม่ๆ ไปขายให้กับนักศึกษาแพทย์
ซึ่งมันสร้างรายได้แก่พวกเขามาก โดยศพหนึ่งจะได้เงินประมาณ 4 - 7 ปอนด์ ทำให้บางครั้งญาติของผู้ตาย ถึงกับต้องนอนเฝ้าที่สุสาน
จนกว่าศพของผู้เป็นที่รักจะเน่าเปื่อยยุ่ยจนใช้การไม่ได้ ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการของนักล่าศพ


โดยปกติแล้วนักศึกษาแพทย์ที่รับซื้อศพนั้นไม่สนใจอยู่แล้วว่าศพที่พวกเขารับซื้อนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร จะเป็นศพขโมยหรือได้มา
แบบผิดกฎหมายก็ไม่สน ขอให้มีศพพวกเขายินดีจ่ายโดยไม่ลังเลที่จะตรวจสอบ เป็นเหตุทำให้ธุรกิจล่าศพนั้นเป็นที่นิยมมากในสมัยนั้น

วิลเลียม แฮร์ และ วิลเลียม เบอร์ค  ก็เป็นหนึ่งในสนใจธุรกิจนี้ หากแต่วิธีการที่เขาจะได้ศพ(อาจารย์ใหญ่)นั้นเหนือชั้นกว่านักล่าศพ
ทั่วไปอย่างมาก เมื่อพวกเขาคิดลงทุนแบบหน้าด้าน ด้วยฆ่าคนให้กลายเป็นศพเสียเอง เพื่อนำไปขายในราคาแพงลิบลิ้ว ได้เงินง่ายๆ
สบายๆ ศพเดียวไม่พอ เพราะพวกเขาทำวิธีนี้หลายครั้งหลายหน คนบริสุทธิ์เป็นๆ รายแล้วรายเล่าต่างสังเวยฆาตกรคู่นี้ จนกลายเป็น
ที่มาของฆาตกรต่อเนื่องนามนักล่าศพแห่งเอดินเบอร์คในที่สุด
 
 
วิลเลียม แฮร์ และวิลเลียม เบอร์ค  (William Burke and William Hare)


 
วิลเลียม แฮร์ และวิลเลียม เบอร์ค เป็นฆาตกรต่อเนื่องและขโมยที่ออกอาละวาดในเอดินเบอร์ค  สหราชอาณาจักร(สก็อตแลนด์) ใน 1827  และ1828 พวกเขาฆ่าเหยื่อไป 17 ราย ส่วนมากเน้นที่ลอบทำร้ายคนชรา หรือคนอ่อนแอไร้พิษสงไร้ญาติ และหลังจากพวกเขาฆ่าแล้ว เขาก็เอาศพนั้นไปหลอกขายที่วิทยาลัยเอดินเบอร์คซึ่งพวกเขาต้องการซื้อศพเพื่อชำแหละเพื่อศึกษา ลูกค้าหลักคือหมอ โรเบิร์ต น๊อกซ์ ทำการรับซื้อ และนอกจากนั้นพวกเขาก็มีผู้สมรู้ร่วมคิด คือภรรยาของพวกเขาสองคนคือ เฮนเลนภรรยาของเบอร์ค และมากาเร็ตภรรยาของแฮร์

วิลเลียม เบอร์ค เกิดในปี 1792 ในเอรนี่ ใกล้สตราเบน ทางตะวันตกสุดของเขตทีโรน ไอร์แลนด์ทางเหนือ ทำอาชีพหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็น ค้าขาย คนรับใช้ของเจ้าหน้าที่ในโดนากัล และเข้ากลุ่มทหารกองหนุน ก่อนจะอพยพมาอยู่ถิ่นสก็อตแลนด์ใน ค.ศ.1817
หลังย้ายมาอยู่สก็อตแลนด์ เบอร์คทำงานเป็น คนงานขุดคลอง และที่สก็อตแลนด์นี้เองเขาก็ได้แต่งงานกับ แมคโดวเกล เฮเลน
หญิงสาวทำงานเป็นกรรมกร คนทอผ้า คนทำขนมปัง และช่างปะรองเท้า

ทางด้านวิลเลียม แฮร์ เขาเกิดในปี 1792  หรือ 1804 บ้านเกิดของเขานั้นไม่ระบุเพราะมีหลายแหล่งที่อ้างไว้หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็น Poyntzpass ใกล้ หรือเดอร์รีย์ แถวๆไอร์แลนด์ทางเหนือ ซึ่งคล้ายกับเบอร์ค เขาอพยพไปอยู่นอกประเทศ
และไปอาศัยในเมืองหนึ่งในถิ่นสก็อตแลนด์ และงานเป็นคนงานขุดคลอง และต่อมาเขาก็ย้ายไปเอดินเบอร์ค  ที่นั้นเขาพบที่
ชื่อผู้ชายโลกัวเจ้าของกิจการบ้านพักใน West Port และเมื่อโลกัวตายในปี ค.ศ.1826 เขาก็ได้เป็นเจ้าของที่ดินและ
แต่งงานกับมาร์กาแรทหญิงม่ายของโลกัว  ต่อมาฤดูใบไม้ร่วง ปี 1838 เบอร์คกับภรรยาก็ย้ายมาพักบ้านของแฮร์ แล้วทำงาน
เป็นลูกจ้างเมื่อนานวันเข้าทั้งสองก็สนิทกันจนกลายเป็นเพื่อนรักในที่สุด


 
มันเริ่มขึ้นในตอนเช้าวันหนึ่ง เมื่อทั้งสองพบว่าผู้เช่าคนหนึ่งซึ่งเป็นชายชราผู้รับเงินเบี้ยบำนาญกองทัพเก่าเกิดอาหารหัวใจวายตาย
บนเตียงบ้านพักของเขา ชายชราคนนั้นค้างชำระหนี้แฮร์อยู่ 4 ปอนด์ ทำให้แฮร์โกรธมาก เขาไม่คิดเอาศพชายชราคนนั้นทำพิธี
ถูกต้องทางศาสนา พอดีทั้งสองได้ยินมาว่าตอนนี้ทางวิทยาลัยเอดินเบอร์คต้องการศพมาชำแหละและพร้อมจ่ายอย่างงาม
กับใครก็ได้ที่เอาศพมาขาย เมื่อแฮร์และบอร์คนำศพแรกไปขาย โดยคนรับซื้อศพคือ ด็อกเตอร์ โรเบิร์ก น๊อกซ์ นักกายวิภาควิทยา
หัวหน้าของวิทยาลัยเอดินเบอร์คยินดีรับซื้อศพด้วยราคา 7 ปอนด์ 10 ชิลลิ่ง ซึ่งราคาดังกล่าวมากกว่าที่แฮร์และบอร์คคิดไว้ในตอนแรก
อีกทั้งด็อกเตอร์โรเบิร์กยังบอกให้ทั้งคู่หาศพมาให้เขาเยอะๆ เขาจะรับซื้อหมด โดยไม่เกี่ยวว่าทั้งสองจะหาศพด้วยวิธีใด

แน่นอนเงินนี้เป็นเงินจำนวนมากจริงๆ และเมื่อเบอร์คและแฮร์ใช้เงินจำนวนนั่นจนหมด ทั้งสองก็เริ่มคิดหาวิธีที่จะหาเงินเยอะๆ
ด้วยใช้วิธีง่ายๆ ไม่ต้องลงมือลงแรงมาก โดยวิธีที่เขาคิดตอนนั้นคือการเอาศพไปขาย  หากแต่แต่จะทำอย่างไรจะได้ศพละ??
อาชีพนักล่าศพก็คงจะไม่ดีเพราะศพใหม่ๆ มันหายาก จะหาคนแก่ใกล้ตายและไร้ญาติก็ใช่ว่าจะหาง่าย งั้นเราฆ่ามันซะเลยเป็นไง
แค่เอาหมอนอุดจมูกอุดปากซะมันก็เป็นศพให้พวกเราไปขายได้แล้วและแล้วแผนการสุดร้ายก็ในการหาเงินง่ายๆ ก็เริ่มขึ้น
 

 
เหยื่อรายแรกที่เบอร์คและแฮร์ ฆ่าคือผู้เช่าชื่อโจเซฟ เจ้าของโรงสีที่ป่วยอยู่บนเตียง พวกเขามอมวิสกี้ชายชราคนนี้ก็ที่จะฆ่า
โดยการใช้หมอนอุดทำให้หายใจไม่ออกและก็ตายอย่างช้าๆ พวกเขานำศพโจเซฟไปขายให้หมอน็อกซ์ได้เงินถึง 10 ปอนด์


ในเวลานั้นหมอน็อกซ์นับว่าเป็นนักกายวิภาคศาสตร์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเรียกได้ว่าเป็นคนยิ่งใหญ่ในเวลานั้น เขาเป็นอาจารย์
ที่คนนิยมลงชื่อเข้าเรียนมากที่สุด ด้วยเนื้อหาที่เน้นวิทยาศาสตร์ปฏิเสธศาสนศาสตร์และเนื้อหาไม่น่าเบื่อทำให้เขาเป็นที่นิยมมาก
หากแต่วิชากายวิภาคศาสตร์ของเขาอันมีต้องสะดุด เมื่อพระราชบัญญัติในปี 1832  ได้มีกฎหมายไม่เอื้อประโยชน์ให้เขามีศพ
มาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกายวิภาคในสหราชอาณาจักร เพราะศพที่เขาจะมาใช้ได้นั่นจะต้องเป็นศพของนักโทษที่ถูกประหารเท่านั้น
เมื่อเขาไม่มีศพสิ่งที่ตามมาคือฝึกอบรมนักศึกษาแพทย์ต้องชะงักลง แม้เขาจะวิ่งเต้นให้ทางการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวก็ไม่ได้ผล

ดังนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือนักล่าศพที่หาต้องแอบขโมยศพที่พรุ่งตายใหม่ๆ ในสุสาน เพื่อนำมาขายให้แก่เขา ซึ่งเขายินดีจะรับซื้อศพโดย
ไม่สนว่าศพดังกล่าวได้มาโดยวิธีไหน ดังนั้นเมื่อวิลเลียม แฮร์ และวิลเลียม เบอร์ค นำศพมาให้เขาก็ยินดีจ่ายในราคางาม
โดยหมอไม่ถามว่าผู้ตายดังกล่าวตายอย่างไร เพราะหมอคงเห็นว่าชายสองคนนี้เป็นนักล่าศพที่เชื่อถือได้ โดยความจริง
ชายสองคนนี้ไม่ใช้นักล่าศพแต่เป็นฆาตกร

 
   
การฆาตกรรม


 
ในเดือนกุมภาพันธ์1828 เบอร์คและแฮร์เชิญ อบิแกล ซิมป์ซันหญิงชราเงินเบี้ยบำนาญมาที่บ้านพัก การใช้ วิธีมอมแอลกอฮอล์
จนเธอมึนเมาจากนั้นก็ฆ่าโดยไม่ให้หญิงชราหายใจ


นอกจากวิธีล่อเหยื่อมาบ้านพักแล้ว เบอร์คและแฮร์ก็ใช้ภรรยามาช่วยด้วย โดยสองผู้หญิงจะทำการผู้หญิงที่โรงแรมเล็กๆ
มาบ้านพักเพื่อดื่ม กิน ก่อนที่เหยื่อจะถูกสองคนฆ่า โดยคนที่หลงกลวิธีนี้เป็นโสเภณีชื่อ แมรี่ แพทเทอร์ซัน  หลังเอาศพไปขาย
บังเอิญนักศึกษาแพทย์ที่ทำการผ่าศพเกิดไปรู้จัก แมรี่ Patterson  เข้า ทำให้เบอร์คและแฮร์ต้องเลิกฆ่าคนไปพักใหญ่

เหยื่อรายต่อมา เป็นผู้หญิงขอทานที่ไม่รู้จักชื่อ แต่หลายคนเรียกเธอว่า" Effie " เบอร์คและแฮร์ฆ่าเธอแล้วชั่วโมงต่อมาทั้งสองคน
เอาศพไปขายเพื่อแลกกับเงิน 10 ปอนด์ ซึ่งไม่มีใครสนใจเรื่องเธอหายไปมากนัก จนกระทั้งบอร์คถูกจับและตำรวจเจอ"บันทึก"ของบอร์ค
ถึงได้รู้ว่าเธอหายไปเพราะถูกฆ่า


แต่บางรายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หญิงชราคนหนึ่งมีหลานชายหูหนวกเป็นใบ้อาศัยอยู่ด้วย เบอร์คกับแฮร์ฆ่าหญิงนั้นแล้วเตรียมปล่อย
เด็กชายไป เพราะถึงอย่างไรเขาก็บอกใครไม่ได้ แต่เด็กนั่นกลับร้องโวยวายทำเรื่องยุ่ง เบอร์คเกิดกลัวว่าเขาจะพาตำรวจมาถึง
บ้านพักคนชรา เขาจึงนำเด็กชายไปจัดการฆ่าทิ้งเสีย ศพของเด็กถูกจับยัดใส่ถังปลาเค็มแล้วนำไปทิ้งไว้ห้องผ่าตัด

นานวันเบิร์คและแฮร์ก็ร่วมเกิดความละโมบขึ้น ฆ่าถี่ขึ้น จนทั้งคู่เริ่มประมาท เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รายงานการหายตัวไปของหญิงชรา
ดอชเชอร์ตี้ ที่อาศัยในบ้านพักคนเดียว เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นแกกลับหายตัวไป เพื่อนบ้านของเธอต่างให้การว่ายินเสียงต่อสู้
และเมื่อสองสามีภรรยาเกรย์คนทำความสะอาดมาทำงานห้องนอนที่บ้านของดอชเชอร์ตี้ เกรย์ก็พบสิ่งผิดปกติ  ที่เตียงฟาง
ของดอชเชอร์ตี้มีถุงเท้ายาวและรอยเลือดปริมาณหนึ่งเลอะที่นอน และข้างใต้โซฟานั้นมีแขนที่แข็งทื่อโผล่ออกมา
แขนข้างนั้นเป็นของนางดอชเชอร์ตี้ ผู้ซึ่งเสียชีวิตมาตั้งแต่เมื่อคืนที่แล้ว    สองสามีภรรยาปล่อยร่างนี้ไว้และแจ้งความ

พอดีช่วงเวลานั้นพวกภรรยาของเบอร์คและแฮร์ได้ยินเรื่องพอดี พวกเธอวิ่งไปเตือนเบอร์คและแฮร์ให้หนีออกจากจากบ้าน
ก่อนที่ตำรวจที่มาถึง อย่างไรก็ตาม สองคนนั้นตัดสินใจไม่หนีเพราะเชื่อว่าตำรวจจะเอาผิดพวกเขาไม่ได้




จากนั้นเวลา 7:00 ตำรวจก็มาหาเบอร์คและแฮร์ เนื่องจากการสอบสวนเพื่อนบ้านหลายคนเห็นพวกเขาอยู่กับดอชเชอร์ตี้ครั้งสุดท้าย
ก่อนที่เธอจะตาย จากนั้นตำรวจก็ไปหาหมอน็อกซ์ทำการค้นห้องผ่าตัดและ พวกเขาก็ค้นพบร่างกายของ ดอชเชอร์ตี้ ส่งผลให้เบอร์ค
และแฮร์และภรรยาทั้งสองถูกจับกุม แม้แพทย์ทำการชันสูตรศพว่าเธอเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ แต่ตำรวจสงสัยว่ามันต้อง
มีอะไรมากกว่านั้น

จากการสอบสวนตำรวจก็เริ่มแน่ใจว่าเบอร์คกับแฮร์ต้องเป็นฆาตกรในเรื่องนี้ เพียงแต่ติดว่าผู้ตายมีเพียงรายเดียว กับหลักฐาน
คำให้การโกหก 2-3 ประโยค มันไม่เพียงพอที่จะมัดผู้ต้องหา สิ่งที่ตำรวจต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือพยานที่เห็นเหตุการณ์

และแล้ว........พยานคนสำคัญก็ปรากฏตัว เขาเห็นเหตุการณ์เบอร์คลงมือสังหารเหยื่อเกือบทุกราย
 พยานคนนี้ไม่ใช้ใครที่ไหน แฮร์ วิลเลียม นั้นเอง!!


ด้วยความกลัว แฮร์สารภาพเพื่อแลกกับเงื่อนไขขอให้ตำรวจปล่อยตัวเขา ตำรวจยอมรับเงื่อไขของแฮร์ จากนั้นแฮร์ก็รับสารภาพ
และป้ายสีไปที่เบอร์คทั้งหมด ธันวาคม1828 เบอร์ค ถูกตัดสินประหาร ส่วนแฮร์รอด และภรรยาเบอร์คและแฮร์ก็รอดเหมือนกัน
เพราะเอาไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน ส่วนหมอน็อกซ์ก็รอดเช่นกัน



วันที่ 28 มกราคม ค.ศ.1829 วิลเลียม เบอร์ค ถูกส่งเข้าสู่ตะแลงแกง แม้จะสำนึกเสียใจสิ่งที่เขาทำ แต่เขายังอดไม่ได้ที่จะโกรธ
หมอน๊อกซ์ที่ยังค้างจ่ายเงินค่าศพสุดท้ายของเขาไม่ครบ  เงินนั้นเขาสามารถซื้อเสื้อโค้ตดีๆ สักตัวหนึ่งใส่ตอนถูกประหารชีวิต

ฝูงชนแห่มาดูเบอร์คถูกแขวนคอ พวกเขาโห่ร้องแสดงความเกลียดชังชายที่ซึ่งฆ่าคนไร้พิษสงไปถึง 30 ราย เชือกที่ใช้มันสั้นเกินไป
ทำให้เบอร์คไม่ตายทันที เขาสิ้นลมอย่างช้าๆ ด้วยความทุกข์ทรมาน เขาพยายามอ้าปากหายใจในลักษณะเดียวกับเหยื่อทั้งหลาย
ที่เขาฆ่าไม่มีผิด

หลังเสียชีวิต 28 มกราคม1829  ศพของเขาถูกส่งไปให้แพทย์เพื่อใช้ในการศึกษา ที่เดียวกับที่เบอร์คและแฮร์เอาศพไปขายแมคโดวเกล
ภรรยาของบอร์ค หลังจากเธอถูกปล่อยตัวกลับบ้าน เธอเกือบโดนแขวนคอโดยฝูงชนจำนวนมากที่โกรธแค้นกับการกระทำของเธอ
จนเธอต้องหนีไปนอกประเทศและไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย แต่มีข่าวลือว่าเธอหนีไปออสเตรเลีย


เฮนเลนภรรยาของเบอร์ค กลับมายังบ้านของเธอ หากแต่ชีวิตของเธอหลังจากต้องอยู่รับมือกับความเกรี้ยวกราดของฝูงชนที่โกรธแค้น 
เธอเลยกลับไปหาครอบครัวเดิมในสเตอร์ลิง และมีข่าวลือว่าเธอหนีไปประเทศออสเตรเลียและตายที่นั้นในปี 1868 ส่วนมากาเร็ต
ภรรยาของแฮร์ เธอหนีจากการถูกแขวนคอไปยังประเทศไอร์แลนด์ และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย

ส่วนแฮร์เขาถูกปล่อยในกุมภาพันธ์ 1829 จากนั้นก็ไม่มีใครทราบข่าวเขาอีก มีข่าวลือว่ามีคนพบเห็นเขาเป็นคนขอทานตาบอดข้างถนน
ในกรุงลอนดอน และหมอน็อกซ์ตัวต้นเรื่อง เขาเลือกที่จะเก็บเงียบเกี่ยวกับเรื่องเบอร์คและแฮรี่ หลังจากนั้นเขาก็พบกับมรสุมชีวิตการงาน
เมื่อความนิยมของเขาในกลุ่มนักเรียนในมหาวิทยาลัยที่เขาสอนลดลง เขาถูกปลดจากหน้าที่การงาน และวิทยาลัยอื่นๆ ปฏิเสธรับเขา
เข้าทำงาน ทำให้ต้องย้ายที่ทำงานในโรงพยาบาลมะเร็งในลอนดอน และเสียชีวิตในปี 1862

ผลพวงจากอาชญากรรมของเบอร์คกับแฮร์ทำให้มีการแก้ไขกฎหมายในปี  1832  โดยกฎหมายนั้นให้สนับสนุนการหาซากศพมาเพื่อศึกษา
ให้ถูกกฎหมายและง่ายขึ้น เพื่อป้องกันนักล่าศพหลอกขายศพที่ได้จากการฆ่าและขโมย




เรื่องราวของเบอร์คกับแฮร์ถูกนำมาเล่าเป็นนิทานเพื่อนบ้านซึ่งถูกแต่งเติมเสริมแต่งให้เรื่องมีสีสันเพิ่มขึ้น ยอกจากนั้นยังถูกสร้างเป็นละครเวที
และภาพยนตร์คลาสสิกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Crimes of Burke and Hare(1948), The Greed of William Hart(1948),
The Flesh and The Fiends(1960), Burke and Hare(1971)และ The Doctor and the Devils(1971)

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Faithbook's profile


โพสท์โดย: Faithbook
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
VOTED: Thorsten, ถั่วเขียวต้มน้ำตาล, เสียสติ, meltxxx, แมวฮั่ว แมวขี้งอน
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เปิดวาร์ป “เจ๊นุช-เมียหรั่ง” มือซ้าย-ขวา “แม่ตั๊ก” สนิทแค่ไหนค้านประกัน ‘แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์’ คืนนี้นอนคุก แจ้ง 3 ข้อหาหนักช็อก! แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ เคยถูกไล่ออกจากวัดไอ้ไข่ จ.นครศรีธรรมราช สั่งห้ามเข้าเด็ดขาดหวย เป็ดเชิญยิ้ม 1-10-67หวยเฮียนัน งวด 1 ตุลาคม 2567สีคิริยะ (Sigiriya) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "หินราชสีห์"หญิงสาวร้องไห้ หลังพบความหมายที่แท้จริงของรอยสักที่เธอทำในฟิจิลีน่าจัง กลับลำ ขอโทษ กรรชัย-โหนกระแส-ช่อง 3 ก่อนเดือด สาวปริศนาโผล่กลางวงย้อนภาพ แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ยืนขายปาท่องโก๋ตลาดนัด สมัยยังไม่รวยคุมตัว หนุ่มคลั่ง โวยวายจะถอนเงินหมื่น ช่วยชาติ ด่า จนท. ทำงานช้าหนุ่มกรรชัย พูดถึงลีน่าจัง"บุ๋ม ปนัดดา" ปลื้มปริ่มเมื่อลูกสาวบุญธรรมคนที่ 6 "น้องแพรว" เรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"บุ๋ม ปนัดดา" ปลื้มปริ่มเมื่อลูกสาวบุญธรรมคนที่ 6 "น้องแพรว" เรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดวาร์ป “เจ๊นุช-เมียหรั่ง” มือซ้าย-ขวา “แม่ตั๊ก” สนิทแค่ไหนลีน่าจัง กลับลำ ขอโทษ กรรชัย-โหนกระแส-ช่อง 3 ก่อนเดือด สาวปริศนาโผล่กลางวง12 การ์ตูนแมวคือสายพันธุ์อะไรกันบ้างนะ?เปิดประวัติสุดปัง!! "พระพาย รมิดา" นางเอกดาวรุ่งที่กำลังพุ่งสู่ประตูวิวาห์กับทายาทสนามบอลชื่อดัง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เปิดประวัติสุดปัง!! "พระพาย รมิดา" นางเอกดาวรุ่งที่กำลังพุ่งสู่ประตูวิวาห์กับทายาทสนามบอลชื่อดังน้องคากิ ครบ 2 เดือน ชั่งน้ำหนักล่าสุด คอหวยจดเลขรัวๆ!'น้องลียา' ลูกสาวธัญญา-เป๊ก โชว์สเต็ปแดนซ์สุดร้อนแรง จนเพื่อน 'ลิซ่า' ต้องเข้ามาคอมเมนต์ลูกชาย ‘เนวิน ชิดชอบ’ ขอแต่งงานนางเอกดัง สุดอลังการกลางสนามฟุตบอลบุรีรัมย์
ตั้งกระทู้ใหม่