หญิงแย้งตั้งโต๊ะแถลงข่าว เปิดปมประเด็นเลิกลากับสามี หมอ นพรัตน์

เมื่อเวลา 13.34 น. แย้เปิดใจแถลงข่าวเรื่อง สาเหตุที่เลิกลากับสามี หมอ นพรันต์

แย้ กล่าวว่าไม่ต้องการจะเปิดเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องของคนสองคน ตั้งแต่เลิกกับคุณหมอแย้ไม่เคยออกมาพูดอะไรเลยทั้งสิ้น และไม่อยากจะพูด อยากเก็บไว้เป็นคาวมลับเฉยๆ แต่โซเชียลมันแรงมาก จึงออกมาชี้แจ้ง

สาเหตุที่เลิกกันเป็นเรื่องทัศนคติและ ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน ตอนเป็นแฟน รักเขามา และเป็นเด็ก สิ่งที่เขา สอนสั่งก็เชื่อฟังทั้งหมด จากคนที่ลุกขึ้นชี้นิ้วสั่ง จนกลายมาเป็นนอบน้อม เปลี่ยนตัวเอง ที่ทำเป็นนี้เพราะแย้รักเขา และอยากให้เขามีความสุข 

ประเด็นเรื่องสังสรรค์ แย้จะถูกทุกคนมองเลยว่าเป็นสาวปาร์ตี้ แต่แย้มีเคอร์ฟิว 4ทุ่มครึ่งกลับบ้าน ถ้าแต่เลยเวลา คุณหมอจะมาด้วยตลอด เป็นส่งที่แย้เชื่อฟังมาตลอด

เรื่องปาร์ตี้ แย้เป็นหุ้นส่วนรานอาหาร ธุรกิจเยอะ เราไม่สามารถจะอยู่บ้านตลอดได้ ประชุมก็ต้องสอง สามทุ่ม กลางวันงานเยอะอยู่แล้ว แต่ไม่เคยกลับเกินสี่ทุ่มครึ่ง เป็นสิ่งที่แย้ปฏิบัติมาตลอด แม้วันนี้จะไม่ได้อยู่กับคุณหมอแล้ว แต่แย้ก็ยังเชื่อฟังเข้าตลอด

ปกติแย้กลับบ้านสี่ทุ่มครึ่ง วันนั้นแย้ไปทานข้าวกับเพื่อน แล้วเพื่อถามว่าไปต่อไหม แล้วโทรไปหาคุณหมอ แต่คุณหมอไม่รับสายเลย ให้เพื่อนช่วยกันโทร โทรไม่ติด จึงทิ้งไลน์ให้ เขาตามมานะ

 พอเที่ยงคืน คุณหมอติดต่อมา  แล้วก็ว่แย้ ทำไมไม่กลับบ้าน ทำไมยังเที่ยวอยู่ แย้ยอมรับว่า อยากไปจริงๆ เพราะไม่ได้เที่ยวนานแล้ว จนกระทั่งกลับถึงบ้าน

เขาก็ว่าเราเหมือนเดิม เป็นอะไรที่อึดอัดมาก จากสิ่งที่แย้สะสมมานาน เปลี่ยนตัวเอง มันลยรู้สึกไม่ไหว เลยถอดเหวนแต่งงานถอดไว้ที่หน้าเขา เก็บของบางส่วน แล้วพูดว่า เขาคงไม่ดีพอสำหรับตัวเองหรอก และก็ออกมา คุณหมอมองหน้าอย่างเดียวไม่ห้ามอะไร

หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย ตั้งแต่ 16 เมษายน พอวันที่  20 เมษา ซึ่งเป็นวันเกิดแย้ มันเป็นวันเกิดที่มันเศร้ามาก มันมันต้องมีเซอร์ไพร์สสิ หายไปตั้ง4 วัน อยากให้เขาง้อบ้าง ทำไมเขาไม่เป็นห่วงเราบ้างเหรอ ช่วงที่ออกมาจากบ้านเขามันเป็น ตอนเที่ยงคืน ตอนออกจากบ้านเขาก็ไม่ห่วง คือมีความหวังว่าเขาจะมา แต่มันคือการเซอร์ไพร์สตัวเอง ที่ไม่มีเซอร์ไพร์สใดๆ

 แย้จึงต้องตัดสินใจว่า จะออกจากชีวิตหมอแล้วหล่ะ ทำไมคุณหมอไม่ตาม เลยตั้งปณิธานว่าจะเริ่มต้นใหม่ นัดคุณพ่อ คุณแม่เล่าให้เขาฟัง เขาก็เข้าใจ แย้ก็ลบเขาออกกลุ่มจากครอบครัวของแย้

หลังจากนั้นคุณหมอก็อยากให้แยกย้ายกันด้วยดี ไม่อยากสรา้งศัตรูให้เกิดขึ้น หลังจากนั้น คุณหมอโทรมาง้อ แต่แย้มันกลับไปไม่ได้แล้ว แย้คิดว่าตัดสินใจถูกแล้วและจะไม่คืนดี และจบแค่ตรงนั้น แล้วคุณหมอก็ไลน์บอกคุณแม่ว่า จบแล้ว

ยอมรับรับว่าเคยบอกเลิกคุณหมอก่อนแต่งงาน คือแย้ยังไม่พร้อมยังไม่อยากแต่งงาน แต่เพราะควารักจึงยอม และด้วยวุฒิภาวะของคุณหมอเอง ก็คงอยากจะแต่งงาน จึงแต่งงานกันในที่สุด  

ส่วนเรื่องคลิปขอแต่งงาน (วันก่อนที่จะปล่อยคลิปแต่งงาน) คุณหมอก็อธิบายว่ามันถึงเวลาแล้ว แล้วปล่อยคลิปขอแต่งงาน (ไม่ใช่คลิปโป๊อยากที่คาดเดากัน มันคือคลิปขอแต่งงาน)

ประเด็นเรื่องสินสอด ไม่เกี่ยวข้องกับการเลิกกัน ประเด็นสังคมก็ประณามว่าแย้หน้าเงิน คนคบกันมา 9 ปี มันมีอะไรมากกว่านั้น

ส่วนเรื่องสินสอด 100 ล้าน คือเรือนหอ และ รพ. เป็นชื่อของคุณหมอ รถของคุณหมอ ส่วนเรื่องสินสอด 30ล้าน แย้ขอโทษ ที่เคยให้สัมภาษณ์ไปเรื่อง30ล้าน แต่จริงๆแล้วแย้ไม่ได้อะไร นอกจากแหวนเพชร ซึ่งคืนไปแล้ว แต่กำไรยังอยู่กับแย้ แต่ไม่ได้เป็นเหตุผลในการเลิกกัน

ก่อนพิธีหมั้น คุณหมอ อยากจะให้สมเกียรติสมฐานนะ ดูยิ่งใหญ่ดูดีกับครอบครัวแย้ แย้ก็เคารพในการตัดสินใจของคุณหมอ แย้ไม่ไดสนใจเรื่องเงินเรื่องสินสอด แย้ก็ไม่เอาสักอย่าง เพราะสุดท้ายเราก้ต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอยู่ดี

แย้ไม่ได้อยากแต่งงาน แต่เรารักเขาก็เคารพการตัดสินใจของหมอ แต่หลังจากนี้แย้คิดว่าแย้คงไม่กลับไปคืนดีกับคุณหมอ มันเจ็บมาก เราเลิกกันแล้วก็ควรจบกันด้วยดี ทุกวันนี้ยังเคารพและรักคุณหมออยู่

ประเด็นเรื่องทาส  เป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อน เหมือนกับเวลาเราอยู่ข้างนอกเหนื่อย อยากจะผ่อนคลายบ้าง แต่พอกลับไปที่บ้าน มันเหนื่อยเป็นตัวเองไม่ได้อีก  

ส่วนเรื่องนอกใจ มือที่สามไม่มีแน่นอน ตอนที่แย้ไปเกาหลีก็ไปกันเป็นกลุ่มพ่อ แม่น้องแฟนน้อง ส่วนฝ่ายคุณหมอ ก็ไม่มีแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วที่เลิกกันเพราะเรื่องเที่ยวหรือเรื่องอื่นๆ 

แย้ตอบว่า ไม่ใช่ แย้เคยบอกเลิกคุณหมอแล้ว ก่อนหมั้น แต่ก็ยอมรับว่ายังรักอยู่ แต่พอเขาพูดอะไรเราก็ใจอ่อนแล้ว มันเป็นเรื่องสะสม ทศนะคติ งานและ ไลฟสไตล์ ส่วนคุณหมออยู่ในบ้าน แต่แย้เองเป็นคนทำธุรกิจชีวิตอยู่ข้างนอก มันไม่ตรงกัน แย้ก็พยามเปลี่ยนตัวเองมาตลอด

 ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีโอกาสจะคืนดีไหม แย้ตอบว่า ตอบไม่ได้จริงๆ มันเป็นเรื่องของอนาคต และแย้ไม่คู่ควรกับคุณหมอจริงๆ 

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กระแสข่าวเลิกกันเพื่อจะโปรโมทสินค้า รพ.หรือเปล่า  แย้ตอบว่าเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องโปรโมท เรื่องนี้มันเซนซิทีฟมาก และมันเป็นเรื่องน่าอายมากกว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ทุเรศตัวเอง

แย้ฝากบอกคุณหมอ ขอบคุณตลอดเ9 ปี ที่คุณหมอสั่งสอนให้เข้มเเข็ง อย่างที่หมอเคยบอกว่า ถ้าวันหนึ่งเขาไม่อยู่แล้วมีลูกต้องเลี้ยงลูกให้ได้ อยากให้เก็บความทรงจำเรื่องราว ดีๆที่ผ่านมาเยอะ 

บทเรียนครั้งนี้ของแย้ คือ ความรักไม่ใช่ทุกอย่าง มันมีองค์ประกอบเยอะมาก ถ้าเราต้องเปลี่ยนตัวเองมากๆๆเพื่อใครสักคน คนสุดท้ายเราก็ทนไม่ได้อยู่ดี ก็ต้องเป็นตัวเองอยู่ดี และยอมรับว่า เข็ดเรื่องการแต่งงาน