นักธุรกิจร้านกระจกอลูมิเนียม ร้องสื่อทั้งน้ำตา
จากการที่ คสช.มีนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานานปี ทำให้ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์มีความอบอุ่นใจมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ในช่วงระยะเวลาอันสั้น
เพราะในปัจจุบันนี้บางพื้นที่ ผู้มีอิทธิพลยังสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านไม่เลิกรา และเมื่อ วันที่ 23 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา
ทางทีมข่าวของเราก็ได้รับการร้องเรียนมาจากเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในพื้นที่ ทุ่งใหญ่ นครศรีธรรมราช ชื่อ นายชัยพร กอเจริญรัตน์ ซึ่งเปิดร้านกระจก อลูมิเนียมอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และได้รับการว่าจ้างจากคนในพื้นที่ท่านหนึ่ง ให้ไปติดตั้งกระจกอลูมิเนียมในโครงการหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่ง รวมถึงปั่มน้ำมัน จนมียอดหนี้ค้างชำระเกือบ 2 ล้านบาท ทางด้านของ ผู้รับจ้าง คือนายชัยพร ได้ทวงถามไปยังผู้ว่าจ้างเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจ้างทางผู้ว่าจ้างจึงได้จ่ายค่าจ้างมาเป็นเช็คให้กับนายชัยพร เมื่อถึงกำหนดเวลา นายชัยพรจึงได้นำเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคาร แต่ปรากฏว่าเช็คถูกปฏิเสธการสั่งจ่าย เพราะในบัญชีไม่มีเงิน นายชัยพร จึงได้ดำเนินการไปแจ้งความกับ สถานีตำรวจภูธรอำเภอทุ่งใหญ่ ไว้เป็นหลักฐาน กับทางร้อยเวร และทางร้อยเวรได้นำสำนวนส่งอัยการ จนเวลาล่วงเลยมาเกือบ 10 เดือน แล้ว ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อมาจากผู้ว่าจ้างแต่อย่างใด ทางนายชัยพร ผู้รับจ้าง เกรงว่าคดีจะหมดอายุความ จึงได้ว่าจ้างทนายความสั่งฟ้องเอง แต่เนื่องจากคู่กรณีเป็นผู้กว้างขวางในจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงเกรงกลัวอิทธิพลและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับอันตราย จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนสื่อมวลชนส่งไปหลายสำนัก หวังจะให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนนั้นเป็นอุทาหรแก่บุคคลอื่นๆ และขอให้สื่อเป็นกระบอกเสียงหลักในการกระจายข่าวเพราะในพื้นที่ยังมีพ่อค้า ผู้ประกอบธุรกิจหลายท่านก็ประสบชะตาทำนองเดียวกัน
คดีนี้จะลงเอยอย่างไร จะมีอิทธิพลมาเกี่ยวข้องหรือไม่ กำลังเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและเป็นที่ถูกจับมองของคนในพื้นที่ จังหวัดนครศรีธรรมราชอยู่ขณะนี้ และทางทีมข่าวของเราจะเกาะติดสถานะการณ์มานำเสนอท่านผู้ชมต่อไป