พินัยกรรมอวัยวะ ขณะที่ผมเขียน Status อยู่นี้ ผมมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ
ขณะที่ผมเขียน Status อยู่นี้
ผมมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ
ปัน...
พ่อเขียนไว้เผื่อวันที่ลูกโตและอ่านหนังสือออกนะ
พ่อมาช่วยงานสภากาชาดได้สักพักละ
เพื่อชวนให้คนมาบริจาคอวัยวะ
เกือบ 4 เดือน ที่พ่อตระเวนคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เขาทำงานตรงนี้
ได้คุยกับคนไข้ที่เขาทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วย รอปลูกถ่ายอวัยวะ
พ่อก็เลยคิดว่า ก่อนที่พ่อจะไปโน้มน้าวคนอื่นให้เขายอมบริจาคอวัยวะ
พ่อในฐานะคนคิด พ่อควรต้องเริ่มก่อน
แต่การบริจาคอวัยวะ มันไม่เหมือนการบริจาคอื่นๆนะ
ไม่เหมือนยังไง ปันคงสงสัย
คืออย่างนี้ เวลาพ่อบริจาคเลือด พ่อก็เดินไปบอกเขาว่าอยากบริจาคเลือด
เขาก็เอาเลือดของพ่อไปช่วยคนได้เลย
หรือเวลาพ่อเอาเงินหรือของไปบริจาค
พ่อก็แค่เอาของไปให้ ควักเงินใส่ตู้ได้ทันที
แต่สำหรับการบริจาคอวัยวะ คนที่ตัดสินใจคือ ญาติ
พ่อกับอาเม้งเลยได้ไอเดียว่าจริงๆแล้ว
การบริจาคอวัยวะที่ดีที่สุด ได้ผลที่สุด ทำง่ายที่สุด ก็คือ การบอกญาติ
ไม่ต้องไปทำบัตรที่กาชาดหรอก
พ่อเลยต้องทำพินัยกรรมนี้ไว้เพื่อบอกลูก
ว่าถ้าวันนึงพ่อเกิดเป็นอะไรไป แล้วหมอเขาบอกลูกว่าพ่อสมองตาย
จะด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ ตอนนั้นพ่อคงลุกขึ้นมาบอกปันไม่ได้แล้ว
ว่าพ่ออยากบริจาคอวัยวะ
ยังไง ปันก็คุยกับแม่ แล้วช่วยทำตามความต้องการของพ่อด้วยนะลูก
งานนี้เป็นงานที่พ่อ อยาก ทำมานานแล้ว
ขณะเดียวกันมันก็เป็นงานที่ ยาก มากๆด้วย
เพราะมันมีความละเอียดอ่อน และประเด็นซับซ้อน
ต้องระวังความรู้สึกของหลายคนหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงมีหลายเรื่องที่ต้องสื่อสาร
พ่อจึงพยายามทำหนังให้เข้าใจความรู้สึกของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ให้ได้มากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นญาติที่เพิ่งสูญเสียคนรักที่กำลังนอนรอความตายอยู่ตรงหน้า
คนที่ทุกข์ทรมานจากการรอการปลูกถ่ายอวัยวะมาเป็นระยะเวลานาน
และเจ้าหน้าที่ที่ต้องเดินเข้าไปอธิบายญาติ เพื่อให้ญาติยินยอมบริจาค
แต่ก็ต้องจบลงด้วยคำปฏิเสธเกือบทุกครั้ง
ต้องขอบคุณ น้าเต๋อ นวพล ผู้กำกับที่พ่อรอเวลาที่จะทำงานด้วยมาตลอด
น้าเต๋อโคตรเก่ง พ่อเรียนรู้หลายอย่างจากการทำงานกับคนเก่งๆคนนี้
ที่สำคัญสุภาพและใจดี รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น แต่ก็เข้มแข็งและชัดเจนในจุดยืนของตัวเอง
จริงๆแล้ว เป็นไอเดียของน้าเต๋อที่อยากถ่ายทอด ความรู้สึกของคนทั้ง 3 ฝ่าย
ให้คนดูได้เข้าใจถึงความรู้สึกและเหตุผลของแต่ละคนโดยทิ้งท้ายให้คนดูเป็นคนตัดสินใจเอง
จุดเริ่มของงานนี้จริงๆแล้วเกิดจากน้ากุ๊ก(ภรรยาน้าเม้ง) คนที่ชวนพ่อไปรู้จักกับ True ที่เขากำลังหาคนมาช่วยทำโครงการนี้อยู่พอดี
อีกคนที่พ่อจะไม่พูดถึงไม่ได้คือ น้าเจน โปรดิวเซอร์ คนสวย(คนที่ซื้อรองเท้าไดโนเสาร์มาฝากปันจากอเมริกาไง)
ที่มาช่วยพ่ออย่างเต็มที่ ช่วยจนป่วยเลย
น้าเม้งที่นั่งคิดงานนี้มาด้วยกันกับพ่อ
น้าชลิตที่แวะมาช่วยออกความเห็นดีๆหลายเรื่อง
น้าบอม ที่มาช่วยตัดงานที่บ้านเราจนดึกดื่น
น้าไลลาที่ช่วยประสานงานและทำทุกอย่างเพื่องานนี้
ข้อความในเวบไซต์น้าไลลาก็เขียนเอง เขียนจนขาเจ็บเลย
น้าจอย และน้าอีกหลายน้าที่พ่อไม่ได้พูดถึงที่มาช่วยงานนี้
พ่อฝากปันไว้เท่านี้นะลูก
และหวังว่าผลบุญจากการทำประโยชน์ของพ่อครั้งนี้จะส่งถึงปันและแม่
รักลูกเสมอ
#พินัยกรรมอวัยวะ http://www.บริจาคอวัยวะด้วยการบอกญาติ.com/