ตร.อยุธยา ส่อโดนต้ม! ด.ช.14 อ้างตามหาพี่ชาย ไปร่วมงานศพพ่อ พบหนีออกจากบ้าน
เรียกความสงสารสนั่นโซเชียล! เด็กชายวัย 14 ขี่ จยย.จากด่านซ้าย จังหวัดเลย อ้างมาตามหาพี่ชายไปร่วมงานศพพ่อ ตำรวจอยุธยาเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ช่วยเหลือทั้งข้าว-น้ำ-หมวกกันน็อก-เงินให้เติมน้ำมัน ตรวจสอบที่บ้าน พ่อยังไม่ตาย ลูกหนีออกจากบ้าน...
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 59 ร.ต.ท.ต้นกล้า ถมกระจ่าง สารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยเรื่องราวขณะยืนอำนวยการจราจรบนถนนสายเอเชีย ได้พบกับ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ตำบลโพนสูง อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายเอเชีย และทำการเบี่ยงจากเลนขวาสุดมาช่องทางซ้ายสุด ภายในเขตอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้ถูกกลุ่มรถสิบล้อ รถเก๋ง และรถกระบะ ที่ขับอยู่บนถนนบีบแตรดังสนั่น
ต่อมา พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รักษาการผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา เปิดเผยว่า จากการสอบถาม ด.ช.เอ ทราบว่า ขี่รถจักรยานยนต์มาจากอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เพื่อมาตามหาพี่ชายในกรุงเทพมหานคร และจะรับไปร่วมงานศพพ่อตัวเองที่บ้านเกิด แต่รู้แค่เพียงว่าพี่ชายอยู่กรุงเทพฯ ช่วงที่ขับรถมากรุงเทพฯ ตามหาพี่ชายเป็นเวลานานกว่าสัปดาห์ ตนจะนอนตามป้ายรถเมล์ และในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) จะเป็นวันเผาพ่อ จึงต้องขี่รถกลับ ส่วนตัวไม่ขออะไรมาก อยากให้พี่ได้กราบไปไหว้พ่อครั้งสุดท้ายก่อนเผาศพในวันพรุ่งนี้
ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา ไม่ดำเนินคดีกับเด็กคนดังกล่าวเพราะเป็นเรื่องที่น่าสงสาร และได้แนะนำเส้นทางในการเดินทาง พร้อมทั้งซื้อข้าวให้รับประทาน รวมถึงจัดหาหมวกกันน๊อคให้ และมอบเงินจำนวนหนึ่งสำหรับเป็นค่าน้ำมันในการเดินทางกลับบ้าน ขณะเดียวกันได้แนะนำการขับขี่เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขณะเดินทาง
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา จากการตรวจสอบไปยังครอบครัวของ ด.ข.เอ พบว่าบิดา คือนายยงยุทธ์ แก้วย้อย ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้เสียชีวิตตามคำกล่าวอ้าง ขณะเดียวกันมารดา และน้องชาย ก็ยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน เบื้องต้นนายยงยุทธ์ เปิดเผยว่า ลูกชายมีนิสัยออกแนวผู้หญิง ติดเพื่อน และวานนี้ (9 เม.ย.) ไปทำไร่ กลับมาเมื่อเวลา 14.00 น. พบว่า ลูกชายไม่อยู่ รู้ภายหลังว่ามาขับรถจักรยานยนต์ของน้าออกไปจากบ้าน พยายามตามหาแต่ไม่พบ เป็นห่วงคือ ลูกชายขับรถไม่แข็ง กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ พร้อมฝากถ้าตำรวจที่ใดพบให้จับตัวไว้ก่อน และจะไปรับกลับบ้าน.
หากมีรายละเอียดความคืบหน้าเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป