“จากชายหนุ่ม ติดยา สู่การเดินทางสายธรรม…”ออกธุดงค์จนร่างกายไหม้เกรียม !!
น่านับถือ!! เรื่องราวที่น่าสน “จากชายหนุ่ม ติดยา สู่การเดินทางสายธรรม…”ออกธุดงค์จนร่างกายไหม้เกรียม !! ขออนุโมทนาบุญ!!
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. มีสมาชิกท่านหนึ่งมาแชร์ประสบการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ชื่อดัง หัวข้อ “…จากพระติดยาเสพติดสู่การเดินทางสายธรรม…” เป็นการเล่าประสบการณ์ชีวิตของพระรูปนี้ว่า เคยมั่วสุมทั้งยาเสพติดและ-เซ็กส์ แต่ท่านหันมาบวชเรียนเพื่อละทุกอย่าง
เมื่อวันที่ 1 เมษายน เป็นวันที่อาตมารอคอยสำหรับครั้งแรกในชีวิตบรรพชิตและการทำตาม สัจจะ ที่อาตมาได้ให้ไว้ก่อนบวช คือ การธุดงค์ 43 ตำลึงทองอาตมาของอุทิศให้กับครอบครัวและเจ้ากรรมนายเวร
การบวชครั้งนี้เพื่อลด ละ นิสัยของอาตมาเอง ว่าจะเปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดีของอาตมา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายในระยะเวลาข้ามคืน ฉะนั้นอาตมาจะไม่ฝืนการกระทำของตนเอง
หายนะของความใฝ่สูงใน อดีตต้องการใฝ่หาในสิ่งที่อาตมาสามารถเอื้อมถึงได้ยากจนไม่รู้จักคำว่า”พอ” ถึงจะมีคำว่า “รอ” แต่ก็รออย่าง “อิจฉา” และ “ริษยา” อาตมายอมทำตนเองให้ตกต่ำ เพื่อจะทำให้คนที่อาตมารักหรือหวังผลประโยชน์จากเขาเหล่านั้นเกิดความสงสารขอแค่ความสุขแบบฉาบฉวยอยากให้คนอื่นมองว่าเด่นจะทำอย่างไรได้หากพื้นฐานของอาตมามีไม่ได้เท่ากับพวกเขาแต่อาจจะต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อจะได้มาเพียงแค่เศษหนึ่งส่วนร้อยของ พวกเขาเหล่านั้น อาตมาจะเลือกที่จะยอมทำร้ายตนเอง ยอมที่จะลดศักดิ์ของตนเองเพื่อแรกกับสิ่งเหล่านั้น ขณะนี้ หลังจากเสร็จกิจธุดงค์ในครั้งนี้อาตมาของให้”สัจจะ”กับตนเองว่า อาตมายอมละทิ้งของทุกอย่างที่อาตมาได้มาซึ่งกิเลสอันโง่เขลา เพื่อเริ่มต้นชีวิตภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ อาตมาขอให้บุญกุศลที่อาตมาได้ทำช่วยส่งผลให้อาตมาได้เริ่มต้นจากศูนย์ อย่าติดลบก็ถือเป็นกุศลอันสูงสุดในการออกธุดงค์ในครั้งนี้แล้ว
ขอผลบุญช่วยหนุนสติ อยากกลับไปใช้ชีวิตสุขสบาย ไม่ต้องทำงาน มีเงินใช้ สนุกอยู่กับของฟุ่มเฟือย ลืมคำว่ารับผิดชอบ สุขจนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว หลังจากกลับจากธุดงค์ในครั้งนี้ ทำให้อาตมาได้พิจารณาตนเองในหลายต่อหลายเรื่องในตัวตนของตนเอง อย่างน้อยขอกุศลบุญที่อาตมาทำช่วยส่งผลให้อาตมาคิดอะไรในทางที่ถูกที่ชอบและ คิดอย่างมีสติด้วยเถิด
การรับใช้กรรมอย่างมีสติ
การออกธุดงส์ในครั้งนี้ เมื่อก่อนการเดินในอดีตนั้นเพื่อมองหาสิ่งเสพติดแหล่งอบายมุขในอดีตจุดจบมีเพียงแต่ “ทุกข์” แต่การเดินในครั้งนี้ของอาตมาทำให้อาตมารับรู้และย่อมรับผลกรรมที่ตัวเองเคย เมื่อในอดีตถูกเรียกว่าไอ้ขี้ยาเหมือน “น้ำพุ” เจ็บป่วยเหมือน “พละ” นี่แหละคือผลกรรมที่ติดตามตัวของอาตมาอยู่ อาตมาจะค่อยๆเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าจะรับกรรมที่เคยทำไว้อย่างมี”สติ”
อย่ากินอย่างเบียดเบียน
ทุดครั้งยอมรับว่าทีกิเลสในเรื่องอยากจะฉันท์ของที่อร่อยถูกลิ้นอยากฉันท์เยอะๆอาตมาถือสัจจะ ฉันท์เพียงวันละหนึ่งมื้อ
ยิ่งฉันท์มากยิ่งเบียดเบียนมาก หิวแค่ไหนก็ได้แค่อิ่ม อร่อยลิ้น แต่ต้องแลกด้วยชีวิตสัตว์อื่น
คืนสู่สามัญ
นอกจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดแล้ว สัมภาระที่ติดตัวมา เป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทดสอบความอดทนของอาตมา หากเดินเพียงหนึ่งหรือสองกิโลเมตรคงจะเป็นเรื่องที่ ปกติ แต่ในแต่ละวันอาตมาเดินเกือบ 15 กิโลเมตร เดินขึ้นเขา เข้าป่า ผ่านถนนดินลูกรัง เดินริมขอบถนนที่รถยนต์สัญจรผ่านไปมา “เหนื่อยนะ” แต่ทำให้คิดได้ว่าอะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไปจากชีวิตบ้างก็ได้ เพราะต่อให้ขาดสิ่งของที่ไม่จำเป็น สิ่งของที่ฟุ่มเฟือย แต่ชีวิตการยังอยู่ได้
ธุดงค์แห่งการทดสอบสังขาร
ถือว่ายังโชคดีที่เป็นคนผิวคล้ำทำให้แสงแดดไม่สามารถทำอะไรกับผิวมาก เพราะแสงแดดเผ่าไหม้ผิวหนังจนแกรียมไหม้เป็นอีกหนึ่งบท ทดสอบของการเดินธุดงค์ ทุกวันนี้ยังไม่รู้จะได้บวชได้อีกนานเท่าใดแต่สิ่งที่รู้ในตอนนี้คือส่วนหนึ่งของชีวิตขออุทิศให้กับสังคม