ย้อนรอย “ปาฏิหารย์แม่น้ำฮัดสัน” อุบัติเหตุเครื่องบินตก…แต่ไม่มีใครตายสักคน!!
ช่วงนี้มีข่าวอุบัติเหตุทางการบินค่อนข้างบ่อย จนทำให้หลายคนรู้สึกกลัวเครื่องบินขึ้นมา เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว โอกาสรอดนั้นน้อยมากๆ
สายการบิน US Airways เที่ยวบินที่ 1549 เครื่องรุ่น Airbus A320-214 ออกเดินทางจากสนามบิน Laguardia Airport จากนิวยอร์กมุ่งหน้าไปยังสนามบิน Seattle-Tacoma International Airport
ในเวลาประมาณบ่าย 3 โมงครึ่งตามเวลาท้องถิ่น เที่ยวบิน 1549 ของสายการบิน US Airways ได้บินขึ้นจากสนามบินในนิวยอร์ก พร้อมผู้โดยสาร 150 คน และลูกเรือทั้งหมดอีก 5 คน ได้แก่ นักบิน ผู้ช่วยนักบินที่หนึ่ง และพนักงานต้อนรับอีก 3 คน กัปตันของเที่ยวบินนี้คือ Chesley B. Sully Sullenberger วัย 57 ปีในขณะนั้น และผู้ช่วยนักบินที่หนึ่งคือ Jeffrey B. Skiles วัย 49 ปี
แต่หลังจากบินขึ้นได้เพียง 2 นาที ผู้ช่วยนักบินที่หนึ่งคือคนแรกที่สังเกตเห็นฝูงนกจำนวนมากกำลังบินมาทางเครื่องบินในขณะที่เครื่องบินกำลังบินอยู่ที่ความสูง 2,700 ฟุต!!
และหลังจากนั้นอีกเพียงไม่กี่วินาที ฝูงนกจำนวนมหาศาลก็ได้เข้าชนเครื่องบินอย่างจัง!! รวมถึงผู้โดยสารที่นั่งอยู่บริเวณข้างหน้าก็รู้สึกได้ว่าเครื่องบินถูกบางสิ่งชนโครมเข้าอย่างรุนแรง
Bird Strike เป็นคำที่ใช้เรียกเหตุการณ์ที่เกิดการชนกันอย่างรุนแรงระหว่างฝูงสัตว์ (นิยมกับใช้นกและค้างคาว) กับยานพาหนะที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยเฉพาะเครื่องบิน ซึ่งมักให้นกตายทันที ส่วนยานพาหนะนั้นก็มักได้รับความเสียหายในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
ในขณะนั้นเครื่องบินยังคงไต่ระดับเพดานความสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ความเร็วของเครื่องยนต์ลดลงและ
กำลังจะดับเนื่องจากเกิด Bird Strike นั่นเอง และเมื่อเครื่องบินไต่ไปถึงระดับสูงสุดที่ประมาณ 3,060 ฟุต เครื่องบินก็กลับลดระดับความสูงลงมาอย่างรวดเร็วจนเหลือที่ระดับ 1,650 ฟุตเท่านั้น
เริ่มมีเสียงดังจากตัวเครื่องยนต์หลายครั้ง สร้างความตกใจให้แก่ผู้โดยสาร นักบินตัดสินใจติดต่อไปยังศูนย์ควบคุมการบินที่นิวยอร์กและแจ้งว่า
“เราชนกับฝูงนก เราสูญเสียแรงขับของเครื่องยนต์ทั้งสอง เรากำลังจะกลับไปยังสนามบิน Laguardia”
ผู้โดยสารเริ่มมองเห็นประกายควันไฟสีแดงและเสียงดังจากเครื่องยนต์ตามมา จากนั้นเริ่มได้กลิ่นเชื้อเพลิงที่ยังไม่ถูกเผาไหม้ในห้องโดยสาร
ศูนย์ควบคุมการบินที่นิวยอร์กได้แจ้งต่อไปยังสนามบิน Laguardia ว่า ให้ระงับการบินขึ้นของสาย
การบินอื่นๆ ชั่วคราว เพราะจะให้สายการบิน US Airways เที่ยวบินที่ 1549 นี้บินกลับมาลงจอดฉุกเฉินก่อน
แต่นักบินพิจารณาแล้วว่า ไม่น่าจะบินไปถึงสนามบิน Laguardia ได้ทันเพราะเมื่อเครื่องยนต์มีปัญหา ทำให้เครื่องบินลดความเร็วลงอย่างกะทันหันจนอาจบินไม่ถึงปลายทางก่อนก็เป็นได้…..และมีแววว่า อาจจะตกกลางนิวยอร์กซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างแออัด!!
นักบินได้ตัดสินใจเปลี่ยนไปขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบิน Teterboro Airport ในเมืองนิวเจอร์ซีส์
ซึ่งก็ได้รับการอนุญาตให้ลงจอดได้ แต่สุดท้ายกัปตันก็มองเห็นอีกว่า ไม่น่าจะบินไปถึงได้ทันอีกเช่นกันเพราะสนามบินอยู่ห่างออกไปถึงเกือบ 10 กิโลเมตร
ในนาทีนั้น เครื่องยนต์ดับสนิท เครื่องบินกำลังจะตกในอีก 2 นาที และไม่สามารถบินไปจอดฉุกเฉินทั้ง 2 สนามบินที่ใกล้ที่สุดได้!!
นักบินมองไปข้างหน้า
เขาพบทางเลือกสุดท้ายที่อาจทำให้ทุกคนรอด…
“ฮัดสัน” คือชื่อแม่น้ำที่อยู่ระหว่างนิวยอร์กและเขตวีฮอว์เคน ซึ่งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์
ในขณะนั้น เนื่องจากเครื่องบินบินลงต่ำ ทำให้โทรศัพท์มือถือมีสัญญาณ ผู้โดยสารหลายคนเริ่มส่งข้อความไปบอกคนทางบ้าน (บางคนก็พิมพ์บอกลาเลยทีเดียว) เพราะส่วนมากก็คิดว่าไม่น่ารอดแน่ๆ
เครื่องบินได้บินผ่านเหนือสะพาน George Washington Bridge ซึ่งอยู่เหนือแม่น้ำฮัดสันด้วยความสูงฉิวเฉียดมาก เพราะเฉียดสะพานไปแค่ 100 กว่าฟุต!! (ไม่งั้นชนสะพานแน่นอน)
ขณะนั้นนักบินได้ประกาศแก่ผู้โดยสารว่า “เตรียมพร้อมรับการกระแทก” ส่วนพนักงานต้อนรับก็ตะโกนสั่งผู้โดยสารให้ก้มตัวเอาไว้
ในที่สุดเครื่องบินก็ร่อนลงกลางแม่น้ำ โชคดีที่ไม่เกิดระเบิดขึ้นแต่หางของเครื่องบินฉีกขาด
หลายคนอาจคิดว่าจอดกระแทกน้ำคงไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่พื้นดินแข็งๆ แต่ความจริงแล้ว หากลงไม่ถูกท่าหรือไม่ได้มุมที่เหมาะสม ก็มีโอกาสเกิดระเบิดพอๆ กันเลย เพราะเมื่อปี 1996 เครื่องบินของสายการเอธิโอเปียแอร์ไลน์ก็เคยเกิดเหตุการณ์ตกกระแทกมหาสมุทรอินเดียแล้วเครื่องบินระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าครึ่งหนึ่ง
น้ำอันเย็นยะเยือกในแม่น้ำเริ่มทะลักเข้ามาในเครื่องบิน ในขณะนั้นเป็นเดือนมกราคมซึ่งเป็นหน้าหนาว ผู้โดยสารหลายคนที่รอดชีวิตกล่าวว่า หากไม่ตายเพราะเครื่องบินตก ก็คงมาตายเพราะจมน้ำแน่ๆ
ผู้โดยสารต่างรีบออกมาทางปีกของเครื่องบินและกระโดดลงในน้ำ เรือต่างๆ บริเวณนั้นและทีมดำน้ำถูกส่งมาช่วยเหลือด้วยความรวดเร็ว ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรอดชีวิตและปลอดภัย มีเพียงผู้บาดเจ็บไม่ถึง 10 คนเท่านั้น
มีการอพยพผู้โดยสารออกมาที่ปีกเครื่องบิน จนถึงมีเรือมาช่วย ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ทำให้ลูกเรือได้รับการชื่นชมและยกย่องว่าสามารถจัดการอพยพผู้โดยสารออกมาได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
หลังสิ้นสุดเหตุการณ์นี้ หน่วยงานเพื่อความปลอดภัยของการขนส่งแห่งชาติ ได้ออกมาแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์การนำเครื่องบินจอดกลางน้ำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน กัปตันและลูกเรือทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็่นอย่างดี ทำให้ไม่มีใครเสียชีวิต” และต่อมาทั้งกัปตันและลูกเรือทุกคนได้รับรางวัลจาก The Guild of Air Pilots and Air Navigators ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้คำแนะนำแก่รัฐบาลในเรื่องความปลอดภัยทางการบินอีกด้วย
นักบินได้รับคำชื่นชมมาก เพราะถึงแม้จะเลือกลงกลางแม่น้ำ แต่ก็สามารถลงได้อย่างปลอดภัย และที่สำคัญกว่านั้น นักบินได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาได้เลือกลงกลางแม่น้ำ ณ จุดๆ นั้นเพราะเห็นว่ามีเรือลำใหญ่และท่าเรือใหญ่ถึง 3 ท่าอยู่ใกล้บริเวณนั้น ซึ่งนั่นหมายถึงจะทำให้มีการเข้ามาช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสรอดได้มากขึ้น
สำหรับตัวเครื่องบินที่เสียหายได้ถูกกู้ขึ้นมาและนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์การบิน Carolinas ในเวลาต่อมา โดยผู้โดยสารในเที่ยวบินนั้นต่างก็ถูกเชิญเพื่อไปร่วมงานในวันจัดแสดงวันแรกด้วย
ด้วยประสบการณ์และความชำนาญของกัปตัน ทำให้ผู้โดยสารทั้ง 150 คนปลอดภัยทั้งหมด
เหตุการณ์นี้เป็นที่พูดถึงมากในเรื่องความสามารถของนักบินรวมถึงการรอดตายอย่างปาฏิหาริย์โดยไม่มีการสูญเสีย จึงทำให้สื่อต่างๆ และคนส่วนมากจำเหตุการณ์นี้ได้ในชื่อว่า